xs
xsm
sm
md
lg

ผัวแค้นภาพบาดตายิงเสี่ยฟาร์มวัวขณะเล่นชู้กับเมีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - เฒ่าวัย 52 ปี อาชีพทำไร่ แบกปืนแก๊ปออกยิงกระต่ายตามริมแม่น้ำแคว เกิดเดินไปพบเห็นภาพบาดตาบาดใจ เมียรักกำลังเริงรักกับชายชู้ที่เป็นเสี่ยเจ้าของฟาร์มวัว วัย 54 ปี อย่างถึงพริกถึงขิงบนเปลญวน ภายในฟาร์ม จึงบันดาลโทสะตัดสินใจใช้ปืนแก๊ปยาวที่ใช้ในการยิงกระต่ายซุ่มยิงเจ้าของฟาร์มวัวชายชู้จากเงามืดจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุแบกปืนแก๊ปไปทิ้งไร่อ้อย และหลบหนีไปนอนเล่นภายในบ้าน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปจับกุมตัวเอาไว้ได้เปิดปากสารภาพ เพราะแค้น

เหตุยิงเสี่ยผู้เฒ่าเจ้าของฟาร์มวัวที่ชอบประพฤติตัวเป็นชู้กับเมียชาวบ้านรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น.ของวันนี้ (5 ม.ค.) พ.ต.ท.สุขสันต์ ชัยรัตน์ พงส.สบ.3 สภ.อ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากทาง รพ.พหลพลพยุหเสนา ว่า เกิดเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.พีรพัฒน์ วิเศษสิงห์ รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.จุมพล เลขสุนทรากร รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.บุรินทร์ สมจิตร สว.สส. และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์

จากการตรวจสอบที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี พบว่า ผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นผู้ชายชื่อนายประจิม โพธิ์จริยา อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140/5 หมู่ 1 ต.หนองหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนยาวไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณมุมปาก 1 นัด คมกระสุนแฉลบทะลุออกทางท้ายทอยด้านหลัง

จากการสอบสวนปากคำ นางบุญนำ โพธิ์จริยา อายุ 48 ปี ภรรยาผู้ตาย ซึ่งเป็นคนนำร่างของผู้ตายส่งโรงพยาบาลทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ นายประจิม ผู้ตาย และนางบุญนำ ภรรยากำลังนั่งกินข้าวกันอยู่จนอิ่มหนำสำราญ และนายประจิม ผู้ตายได้เดินแยกไปนอนเล่นอยู่บนเปลญวนหน้ากระต๊อบโรงเลี้ยงวัว ส่วนตนได้เดินไปนอนเล่นภายในห้องนอนด้านหลังบ้านจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตนจึงวิ่งออกมาดูพบว่า นายประจิม สามีที่นอนเล่นอยู่บนเปลญวนหน้ากระต๊อบถูกยิงตกลงมาจากเปลนอนจมกองเลือดร้องครวญครางอยู่ จึงรีบนำตัวสามีส่งโรงพยาบาล และทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนสาเหตุนั้น ตนไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และสามีไปมีเรื่องโกธรเคืองกับใคร ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันสามีก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง ส่วนคนร้ายก็ไม่เห็น เพราะเป็นเวลามืดค่ำแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงบันทึกปากคำไว้เป็นหลักฐาน และรีบนำกำลังไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุภายในฟาร์มวัว พบว่า ภายในเปลญวนและที่พื้นปูนใต้เปลญวนบริเวณหน้ากระต๊อบโรงเลี้ยงวัวมีกองคราบเลือดไหลเปรอะเปื้อนอยู่ และจากการตรวจสอบภายในบริเวณที่เกิดเหตุไม่พบว่ามีร่องรอยการต่อสู้ หรือปลอกกระสุนปืนแต่อย่างใด จึงได้นำตัวนางบุญนำ โพธิ์จริยา ภรรยาผู้ตายไปทำการสอบสวนปากคำต่อที่ สภ.อ.เมืองกาญจนบุรี

ในเวลาต่อมาจากการติดตามสืบสวนสอบสวนเพื่อหาเบาะแสของคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.อ.เมืองกาญจนบุรี ได้สืบทราบว่า ผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นมือปืนที่ก่อเหตุรายนี้น่าจะเป็น นายประยูร วงศ์สกุล อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143/4 หมู่ 1 ต.หนองหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จึงได้นำกำลังเดินทางไปที่บ้านดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท่าจอดแพล่องริมแม่น้ำแควน้อย และพบว่า นายประยูร ผู้ต้องสงสัยกำลังนอนเล่นภายในบ้านพัก จึงนำตัวมาทำการสอบสวนปากคำอยู่นานประมาณ 2 ชม.

ในเวลาต่อมา นายประยูร ได้ให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือใช้อาวุธปืนแก๊ป ซุ่มยิงนายประจิม ผู้ตายจริงโดยให้การว่าก่อนเกิดเหตุตนได้เดินทางออกจากบ้านถือปืนแก๊ปยาว เพื่อออกยิงกระต่ายป่าที่มีชุกชุมอยู่ตามริมแม่น้ำแควน้อย เมื่อมาถึงฟาร์มวัวของนายประจิม ผู้ตาย ก็พบว่า มีรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นของภรรยาจอดอยู่ และมองจากเงามืดไปที่หน้ากระต๊อบก็เห็นว่า นายประจิม ผู้ตาย กำลังนอนร่วมรักอยู่กับภรรยาของตนอย่างถึงพริกถึงขิงอยู่บนเปลญวน ตนจึงบันดาลโทสะใช้ปืนแก๊ป ซุ่มยิงนายประจิม ผู้ตายทันที 1 นัด จนนายประจิม เสี่ยเจ้าของฟาร์มวัว ที่เป็นชายชู้ล้มกลึ้งตกลงจากเปลญวนจมกองเลือด

หลังก่อเหตุตนได้เดินถือปืนแก๊ปยาวลัดเลาะไปตามไร่อ้อยและนำอาวุธปืนไปทิ้งภายในไร่ อ้อยระหว่างทางไปบ้าน จากนั้นจึงไปหลบนอนเล่นภายในบ้านพักที่ท่าจอดแพริมแม่น้ำ โดยทำทีว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมาจับกุมในเวลาต่อมา

นายประยูร ผู้ต้องหารายนี้ ยังเปิดเผยถึงสาเหตุที่เกิดความแค้นใจผู้ตายเป็นอย่างมาก ว่า ที่ผ่านมา ตนเคยทราบว่า นายประจิม ผู้ตายมักชอบทำตัวเป็นเฒ่าหัวงู และชอบแอบเป็นชู้กับเมียชาวบ้านในละแวกดังกล่าว โดย 1 ในจำนวนนั้นมีภรรยาของตนรวมอยู่ด้วย ซึ่งตนเคยแอบจับได้มาแล้วครั้งหนึ่ง และได้ให้อภัยพูดคุยกับภรรยา ตนขอร้องให้ภรรยาเลิกพฤติกรรมเลวทรามดังกล่าวเสีย แต่ นายประจิม ก็ไม่ยอมเลิกมักจะแอบมาติดต่อกับภรรยาของตนอยู่เป็นประจำ จนตนทนไม่ไหวลูกผู้ชายฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ เมื่อมาเจอภาพบาดตาบาดใจ จึงเกิดความโกรธยิงใส่ผู้ตายทันที

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกปากคำผู้ต้องหารายนี้ไว้เป็นหลักฐาน และนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพพร้อมทั้งควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น