ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตร.โคราช เรียก “อดีตผู้สมัคร ส.ว.- นายกเล็กเสิงสาง” สองสามีภรรยาเจ้าของโรงแป้งมันใหญ่ นักการเมืองคู่แข่ง “สุพร อัตถาวงศ์” อดีต ส.ส.ไทยรักไทย เข้าสอบปากคำคดีไฟไหม้โรงเรียนเสิงสาง เจ้าตัวปฏิเสธลั่นไม่เกี่ยวเผาโรงเรียน ด้าน ตร.ระบุ สัปดาห์หน้าคดีมีความชัดเจนแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุไฟไหม้อาคารโรงเรียนบ้านสกัดนาควิทยา ม.3 ต.สุขไพบูลย์ อ.เสิงสาง จ. นครราชสีมา เสียหายทั้งหลังเมื่อคืนวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า เป็นการลอบวางเพลิงอย่างแน่นอน พร้อมได้เรียกนักการเมืองทั้งระดับชาติ และท้องถิ่นเข้าสอบปากคำ เช่น นายสุพร อัตถาวงศ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา เขตเลือกตั้งที่ 12 (อ.เสิงสาง, อ.ครบุรี) พรรคไทยรักไทย (ทรท.)
ล่าสุดวันนี้ (21 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. พ.ต.อ.กรกต สาริยา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคดี ได้เรียก นายสมศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตผู้สมัคร ส.ว.นคราชสีมา (ครั้งล่าสุด) เจ้าของโรงแป้งเอี่ยมเฮง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ที่เคยถูกคนร้ายยิงถล่มด้วยเอ็ม 79 ช่วงปลายปี 2548 ที่ผ่านมา และ นางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเสิงสาง ภรรยา นายสมศักดิ์ ซึ่งคาดว่าจะลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้สังกัดพรรคชาติไทย จึงเป็นคู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญของนายสุพร อัตถาวงศ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรค ทรท.เข้าสอบปากคำเพื่อหาข้อมูลประกอบคดี ที่ห้องศูนย์ควบคุมจราจรอาชญากรรม และบริการประชาชน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา
พ.ต.อ.กรกต เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดของคดีไฟไหม้โรงเรียนบ้านสกัดนาควิทยา ว่า จนถึงขณะนี้ได้เรียกสอบปากคำพยานแวดล้อม และผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆ ไปแล้วรวม 22 ปาก ซึ่งได้ข้อสรุปยืนยันว่า เป็นการลอบวางเพลิงแน่นอนและได้ตัดประเด็นความประมาท หรืออุบัติเหตุทิ้งไป เหลือเพียงประเด็น ความขัดแย้งของครูภายในโรงเรียนและชุมชน,ความขัดแย้งทางการเมืองในพื้นที่, การสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ และความคึกคะนอง เท่านั้น
ล่าสุด ได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อมูลทุกด้าน ทั้งข้อมูลเกี่ยวกับรถกระบะที่วิ่งเข้าไปในที่เกิดเหตุก่อนเกิดเพลิงไหม้ขึ้น และข้อมูลอื่นๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนเรื่องคราบน้ำมันในบริเวณที่เกิดเหตุ ยังอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาการ โดยได้เร่งให้เจ้าหน้าที่สรุปผลออกมาโดยเร็วว่ามี คราบน้ำมันอยู่จริงหรือไม่ สัปดาห์หน้าจะมีการประชุมพิจารณาเพื่อเร่งหาตัวผู้กระทำผิด แต่จะเข้าหาตัวผู้กระทำผิดได้มากน้อยเพียงใด ก็ต้องรอผลสอบ คาดว่า สัปดาห์หน้าจะมีผลที่ชัดเจนขึ้น
ส่วนการเรียก นายสมศักดิ์ และ นางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล มาวันนี้ (21 ธ.ค.) เป็นการเชิญมาให้ข้อมูล เพราะเป็นคนในท้องถิ่นน่าจะรู้ข้อมูลเป็นอย่างดี และเป็นประโยชน์กับรูปคดี โดยเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเรียกทุกฝ่าย เข้ามาสอบสวนเพื่อความเป็นธรรม ขอยืนยันว่าจะทำงานอย่างเป็นกลาง และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่
ด้าน นายสมศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตผู้สมัคร ส.ว.นครราชสีมา และเจ้าของโรงแป้งมันเอี่ยมเฮง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ไม่เคยผิดใจกับใคร หรือมีเรื่องขัดแย้งกับใคร และไม่มีฝ่ายตรงข้าม และไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามคือใคร เราทำงานในพื้นที่ของเราไป เรื่องเผาโรงเรียนขอยืนยันว่าเราไม่ทำอย่างนี้แน่ โรงเรียนเป็นสมบัติสาธารณะ มีเด็กผู้เป็นอนาคตของชาติอาศัยอยู่ถือเป็นสถานที่ที่สำคัญ และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นมาอีก
“ผมรู้สึกเสียใจกับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงเรื่องที่ถูกยิงระเบิดเข้าโรงงาน ผ่านไปตั้งนาน แล้วก็ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ แต่ก็มีนักการเมืองบางคนไปพูดกลางงานในวันกำนัน- ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีคนอยู่จำนวนมาก ว่า รู้ว่าใครทำ รู้ด้วยว่าเป็นปืนกระบอกไหน เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ทำไมเจ้าหน้าที่จับตัวคนร้ายไม่ได้สักที” นายสมศักดิ์ กล่าว
ส่วน นางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเสิงสาง กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น การที่มีคนบอกว่า เป็นการกระทำของฝ่ายตรงข้าม ก็รู้สึกน้อยใน เสียใจแต่โดยส่วนตัวแล้วอยากให้เกิดความชัดเจน อย่าให้มีข่าวออกมาว่าเป็นคนโน้นคนนี้ ต้องการให้ชี้ชัดไปเลยว่า เป็นใครที่เกี่ยวข้องเพราะถ้าพูดไม่ชัดแล้ว จะทำให้เกิดปัญหา และเมื่อเกิดความไม่ชัดเจน จะเป็นผลกระทบโดยรวมทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม
“จึงอยากให้คนที่ออกมาให้ข้อมูลว่าใครเกี่ยวข้อง ก็ขอให้พูดให้ชัดเจนว่าเป็นใคร แต่ทางที่ดีอยากให้ทุกคนทำบทบาทหรือหน้าที่ของตนเองให้ดี นักข่าวก็ทำบทบาทของตัวเองให้ดี นักการเมืองหรือใครก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี อยู่อย่างเพียงพอแค่นี้ก็จะทำให้สังคมน่าอยู่ ไม่ใช่ว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ก็จะทำให้บ้านเมืองไม่สงบอย่างที่เป็นอยู่” นางจิตรวรรณ กล่าว
