พิจิตร- มือปืนอุกอาจซุ่มยิงเจ้าของโรงสีเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวกับรัฐบาลเมืองชาละวันดับสยอง คาด ผู้ตายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวมูลค่านับ 100 ล้านบาท และอาจจะรู้ความลับของขบวนการทุจริตจึงโดนฆ่าปิดปาก
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (8 ธ.ค.) พันตำรวจตรี มนัส บุญยิ้ม สารวัตรเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร เข้าตรวจสอบเหตุเจ้าของโรงสีถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดภายในโรงสีชัยพูนสิริ ตำบลบ้านนา อำเภอวชิรบารมี ซึ่งเป็นโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีฤดูกาลผลิต 2549/2550 โดยที่เกิดเหตุภายในออฟฟิศพบรอยเลือดที่บริเวณโต๊ะทำงาน
ส่วนผู้ถูกยิงถูกนำส่งโรงพยาบาลอำเภอวชิรบารมี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อภายหลัง คือ นางพูลทรัพย์ อินประคอง หรือ “เจ๊นอม” อายุ 42 ปี เจ้าของโรงสีที่เกิดเหตุ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนยังไม่ทราบชนิดเข้าบริเวณต้นคอ ตามลำตัวและร่างกายจำนวนหลายนัด
จากการสอบสวน ทราบว่า ก่อนจะเกิดเหตุผู้ตายลงมานั่งทำงานตั้งแต่เช้าจนกระทั่งมี
คนงานเข้ามา พบว่า นางพูลทรัพย์ ถูกยิงจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สำหรับสาเหตุการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เปิดเผย เพราะอยู่ระหว่างการเก็บหลักฐานและสอบปากคำพยาน
มีรายงานว่า ผู้ตายมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวกับภาครัฐ และอาจจะมีส่วนรู้ความลับของขบวนการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในพื้นที่ ซึ่งจังหวัดพิจิตรมีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวอย่างมโหฬาร และมีมูลค่าความเสียหายจากการทุจริตดังกล่าวนับ 100 ล้านบาท จึงอาจจะเป็นสาเหตุของการสังหารโหดครั้งนี้
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (8 ธ.ค.) พันตำรวจตรี มนัส บุญยิ้ม สารวัตรเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร เข้าตรวจสอบเหตุเจ้าของโรงสีถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดภายในโรงสีชัยพูนสิริ ตำบลบ้านนา อำเภอวชิรบารมี ซึ่งเป็นโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีฤดูกาลผลิต 2549/2550 โดยที่เกิดเหตุภายในออฟฟิศพบรอยเลือดที่บริเวณโต๊ะทำงาน
ส่วนผู้ถูกยิงถูกนำส่งโรงพยาบาลอำเภอวชิรบารมี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อภายหลัง คือ นางพูลทรัพย์ อินประคอง หรือ “เจ๊นอม” อายุ 42 ปี เจ้าของโรงสีที่เกิดเหตุ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนยังไม่ทราบชนิดเข้าบริเวณต้นคอ ตามลำตัวและร่างกายจำนวนหลายนัด
จากการสอบสวน ทราบว่า ก่อนจะเกิดเหตุผู้ตายลงมานั่งทำงานตั้งแต่เช้าจนกระทั่งมี
คนงานเข้ามา พบว่า นางพูลทรัพย์ ถูกยิงจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สำหรับสาเหตุการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เปิดเผย เพราะอยู่ระหว่างการเก็บหลักฐานและสอบปากคำพยาน
มีรายงานว่า ผู้ตายมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวกับภาครัฐ และอาจจะมีส่วนรู้ความลับของขบวนการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในพื้นที่ ซึ่งจังหวัดพิจิตรมีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวอย่างมโหฬาร และมีมูลค่าความเสียหายจากการทุจริตดังกล่าวนับ 100 ล้านบาท จึงอาจจะเป็นสาเหตุของการสังหารโหดครั้งนี้
