ลำปาง - สถานการณ์เอดส์ของลำปาง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังจากที่ลดลงต่อเนื่องมานับ10ปี โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และหญิงบริการ
นพ.ชิโนรส ลี้สวัสดิ์ นายแพทย์9 ด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยถึงการเฝ้าระวังโรคเอดส์ของจังหวัดลำปาง ว่า ปัจจุบันโรคเอดส์ในจังหวัดลำปางกำลังเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่พบว่าจำนวนผู้ป่วยลดลงอย่างต่อเนื่องในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันลำปางมีผู้ป่วยสูงเป็นอันดับ 5 ของประเทศ
ข้อมูลถึงวันที่ 24 พ.ย.49 พบว่า มีผู้ป่วย 9,915 ราย ยังมีชีวิตอยู่ 4,196 ราย เสียชีวิตไปแล้วทั้งหมด 5,719 ราย ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการทีมีอยู่ในลำปางเวลานี้ 1,885 ราย ยังมีชีวิตอยู่ 1,241 ราย รวมเสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น 644 ราย
กลุ่มที่พบมากที่สุดคือกลุ่มที่อยู่ในวัยทำงาน อายุระหว่าง 20-39 ปี ส่วนที่พบว่าป่วยมากที่สุดอยู่ในกลุ่มอายุ 30-34 ปี ร้อยละ 27.9 รองลงมา คือ กลุ่มอายุ 25-29 ปี ร้อยละ 24.9 ปัจจัยเสี่ยงยังคงเป็นเรื่องการมีเพศสัมพันธ์สูงที่สุด ร้อยละ 92.2
นพ.ชิโนรส กล่าวและว่า ที่น่าสังเกตคือ ในปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อกลับเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ลดลงอย่างต่อเนื่องมานานนับ 10 ปี โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และหญิงบริการทางเพศ ดังจะเห็นได้จากการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนที่มากขึ้น แต่การใช้ถุงยางอนามัยยังน้อย เมื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อเพศสัมพันธ์ พบว่ากลุ่มที่อยู่หอพักมีโอกาสมีเพศสัมพันธ์มากที่สุด นอกจากนั้นการดื่มแอลกอฮอล์ การเข้าถึงสื่อลามกอานาจาร เป็นการกระตุ้นให้เยาวชนอยากมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น
จากสถานการณ์เอดส์และพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ได้ส่งสัญญาณเตือนให้สังคม และผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบที่ต้องมองปัญหาเอดส์อย่างเป็นองค์รวมในทุกมิติ ทั้งปัญหาครอบครัว การกระทำความรุนแรงต่อสตรี พฤติกรรมการเลียนแบบของวัยรุ่น ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรให้ความรู้และรณรงค์ ให้มีเพศสัมพันธ์เมื่อพร้อม และมีอย่างรับผิดชอบโดยใช้ถุงยางอนามัยด้วย
ทั้งนี้ เนื่องจากวันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันเอดส์โลก จังหวัดลำปางจึงกำหนดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ในเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยจะเน้นไปที่กลุ่มเยาวชนเป็นพิเศษ โดยศูนย์ปฎิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์จังหวัดลำปาง ได้ขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่างๆ สถานศึกษา และสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง จัดกิจกรรมรณรงค์วันรวมใจต้านภัยเอดส์ขึ้น ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. ถึง1 พ.ย.49 เพื่อสร้างกระแสให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาเอดส์ เกิดความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ในทุกภาคส่วนด้วย
นพ.ชิโนรส ลี้สวัสดิ์ นายแพทย์9 ด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยถึงการเฝ้าระวังโรคเอดส์ของจังหวัดลำปาง ว่า ปัจจุบันโรคเอดส์ในจังหวัดลำปางกำลังเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่พบว่าจำนวนผู้ป่วยลดลงอย่างต่อเนื่องในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันลำปางมีผู้ป่วยสูงเป็นอันดับ 5 ของประเทศ
ข้อมูลถึงวันที่ 24 พ.ย.49 พบว่า มีผู้ป่วย 9,915 ราย ยังมีชีวิตอยู่ 4,196 ราย เสียชีวิตไปแล้วทั้งหมด 5,719 ราย ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการทีมีอยู่ในลำปางเวลานี้ 1,885 ราย ยังมีชีวิตอยู่ 1,241 ราย รวมเสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น 644 ราย
กลุ่มที่พบมากที่สุดคือกลุ่มที่อยู่ในวัยทำงาน อายุระหว่าง 20-39 ปี ส่วนที่พบว่าป่วยมากที่สุดอยู่ในกลุ่มอายุ 30-34 ปี ร้อยละ 27.9 รองลงมา คือ กลุ่มอายุ 25-29 ปี ร้อยละ 24.9 ปัจจัยเสี่ยงยังคงเป็นเรื่องการมีเพศสัมพันธ์สูงที่สุด ร้อยละ 92.2
นพ.ชิโนรส กล่าวและว่า ที่น่าสังเกตคือ ในปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อกลับเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ลดลงอย่างต่อเนื่องมานานนับ 10 ปี โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และหญิงบริการทางเพศ ดังจะเห็นได้จากการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนที่มากขึ้น แต่การใช้ถุงยางอนามัยยังน้อย เมื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อเพศสัมพันธ์ พบว่ากลุ่มที่อยู่หอพักมีโอกาสมีเพศสัมพันธ์มากที่สุด นอกจากนั้นการดื่มแอลกอฮอล์ การเข้าถึงสื่อลามกอานาจาร เป็นการกระตุ้นให้เยาวชนอยากมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น
จากสถานการณ์เอดส์และพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ได้ส่งสัญญาณเตือนให้สังคม และผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบที่ต้องมองปัญหาเอดส์อย่างเป็นองค์รวมในทุกมิติ ทั้งปัญหาครอบครัว การกระทำความรุนแรงต่อสตรี พฤติกรรมการเลียนแบบของวัยรุ่น ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรให้ความรู้และรณรงค์ ให้มีเพศสัมพันธ์เมื่อพร้อม และมีอย่างรับผิดชอบโดยใช้ถุงยางอนามัยด้วย
ทั้งนี้ เนื่องจากวันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันเอดส์โลก จังหวัดลำปางจึงกำหนดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ในเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยจะเน้นไปที่กลุ่มเยาวชนเป็นพิเศษ โดยศูนย์ปฎิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์จังหวัดลำปาง ได้ขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่างๆ สถานศึกษา และสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง จัดกิจกรรมรณรงค์วันรวมใจต้านภัยเอดส์ขึ้น ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. ถึง1 พ.ย.49 เพื่อสร้างกระแสให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาเอดส์ เกิดความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ในทุกภาคส่วนด้วย