หนองคาย-ตำรวจหนองคาย ควบคุมผู้ต้องหาร่วมแก๊งปล้นร้านทองศรีกาญจนา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่มีส่วนร่วมจัดรถจักรยานยนต์ ให้เพื่อนร่วมแก๊งใช้เป็นพาหนะปล้น และชำแหละชิ้นส่วนรถจยย.
พ.ต.อ.สุริยา วรินทรา รองผบก.ภ.จว.หนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ควบคุมตัว นายสุรชัย จันทองสุก หรือหยุย อายุ 36 ปี ราษฎรชาวลาว, น.ส.ประพัฒน์สร สุริยะเพ็ญ อายุ 28 ปี ภรรยานายสุรชัย อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 4 ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จับกุมในความผิดพัวพันกับคดีปล้นร้านทองศรีกาญจนา อ.เมืองหนองคาย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีปล้นร้านทอง
ทั้งสองคนเป็นผู้จัดหารถจักรยานยนต์ให้นายสมบัติ เพิ่มปัญญา หรือแด๊ก ผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุปล้นร้านทอง เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งสองคนไปยังจุดที่รับเงิน ในการนำไปซื้อรถจักรยานยนต์บริเวณสะพานมิตรภาพไทย – ลาว
จากนั้นไปยังร้านขายรถจักรยานยนต์มือสอง บริเวณตลาดชัยพร เมื่อได้ซื้อรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบีทสีแดงแล้ว ได้นำรถคันดังกล่าวไปยังทางเข้าวัดเนินพระเนาว์ จุดที่สองสามีภรรยานำรถไปจอดรอนายแด๊ก
จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวทั้งสองคน ไปยังป่าละเมาะบริเวณหมู่บ้านดงเจริญ ซึ่งเป็นจุดที่นายแด๊กนำรถจักรยานยนต์ ไปจอดทิ้งไว้หลังจากก่อเหตุปล้นร้านทองแล้ว ซึ่งบริเวณนี้นายแด๊กได้โทรศัพท์หานายสุรชัย เพื่อให้นายสุรชัยนำรถไปทิ้งลงสระน้ำภายในป่าละเมาะ
ต่อมานายสุรชัยได้รับโทรศัพท์จากนายแด๊กอีกครั้งว่า ให้นำรถขึ้นมา ให้ถอดชิ้นส่วนชำแหละตัวรถ โดยนายสุรชัยกับเพื่อนอีก 2 คน ได้ช่วยกันถอดชิ้นส่วนในเวลากลางดึกค่อนรุ่ง ด้วยเกรงว่าจะมีคนมาเห็นจึงถอดชิ้นส่วนรถไม่หมด ชิ้นส่วนรถที่ถอดออก นายสุรชัยได้นำใส่กระสอบโยนทิ้งไว้ในป่า แล้วนำซากรถที่เหลือที่ยังถอดไม่หมด พ่วงใส่รถจักรยานยนต์อีกคันนำไปชำแหละต่อที่บริเวณป่าละเมาะอีกแห่งหนึ่ง
เมื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จแล้ว ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดกลับมาควบคุมไว้ที่ สภ.อ.เมืองหนองคาย
พ.ต.อ.สุริยา วรินทรา รองผบก.ภ.จว.หนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ควบคุมตัว นายสุรชัย จันทองสุก หรือหยุย อายุ 36 ปี ราษฎรชาวลาว, น.ส.ประพัฒน์สร สุริยะเพ็ญ อายุ 28 ปี ภรรยานายสุรชัย อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 4 ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จับกุมในความผิดพัวพันกับคดีปล้นร้านทองศรีกาญจนา อ.เมืองหนองคาย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีปล้นร้านทอง
ทั้งสองคนเป็นผู้จัดหารถจักรยานยนต์ให้นายสมบัติ เพิ่มปัญญา หรือแด๊ก ผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุปล้นร้านทอง เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งสองคนไปยังจุดที่รับเงิน ในการนำไปซื้อรถจักรยานยนต์บริเวณสะพานมิตรภาพไทย – ลาว
จากนั้นไปยังร้านขายรถจักรยานยนต์มือสอง บริเวณตลาดชัยพร เมื่อได้ซื้อรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบีทสีแดงแล้ว ได้นำรถคันดังกล่าวไปยังทางเข้าวัดเนินพระเนาว์ จุดที่สองสามีภรรยานำรถไปจอดรอนายแด๊ก
จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวทั้งสองคน ไปยังป่าละเมาะบริเวณหมู่บ้านดงเจริญ ซึ่งเป็นจุดที่นายแด๊กนำรถจักรยานยนต์ ไปจอดทิ้งไว้หลังจากก่อเหตุปล้นร้านทองแล้ว ซึ่งบริเวณนี้นายแด๊กได้โทรศัพท์หานายสุรชัย เพื่อให้นายสุรชัยนำรถไปทิ้งลงสระน้ำภายในป่าละเมาะ
ต่อมานายสุรชัยได้รับโทรศัพท์จากนายแด๊กอีกครั้งว่า ให้นำรถขึ้นมา ให้ถอดชิ้นส่วนชำแหละตัวรถ โดยนายสุรชัยกับเพื่อนอีก 2 คน ได้ช่วยกันถอดชิ้นส่วนในเวลากลางดึกค่อนรุ่ง ด้วยเกรงว่าจะมีคนมาเห็นจึงถอดชิ้นส่วนรถไม่หมด ชิ้นส่วนรถที่ถอดออก นายสุรชัยได้นำใส่กระสอบโยนทิ้งไว้ในป่า แล้วนำซากรถที่เหลือที่ยังถอดไม่หมด พ่วงใส่รถจักรยานยนต์อีกคันนำไปชำแหละต่อที่บริเวณป่าละเมาะอีกแห่งหนึ่ง
เมื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จแล้ว ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดกลับมาควบคุมไว้ที่ สภ.อ.เมืองหนองคาย


