ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกสมาคมนักธุรกิจ-ท่องเที่ยวเมืองพัทยา ยอมรับข่าวการถูกขโมยทรัพย์สินภายในห้องพักของโรงแรมมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา ฝากเตือนนักท่องเที่ยวควรเช็กมาตรฐานโรงแรมก่อนเข้าพัก เหตุโรงแรมในเมืองพัทยา มีทั้งที่จดทะเบียนและไม่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ด้านรองนายกเมืองพัทยาจี้ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีอดีตดาราสาวแจ้งความถูกพนักงานโรงแรมแอบเปิดห้องขโมยทรัพย์สิน
จากกรณีที่คดี “น้องทราย” วรรณพร ฉิมบรรจง อายุ 26 ปี อดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ต.พัทยา หลังจากถูกโจรกรรมทรัพย์สินภายในห้องพักของ “ภูพญา รีสอร์ท” เลขที่ 171/11-12 ซอย 17 (แยกตลาดโสภณ) ม.10 ย่านพัทยาใต้ ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ล่าสุด พ.ต.ท.ฐิติพงษ์ สุขเทียน สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ต.พัทยา เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เรียกตัวรูมเมดที่อยู่ในวันเกิดเหตุมาสอบปากคำแต่ไม่ได้เบาะแสมากนัก เนื่องจากรูมเมดคนนี้ให้การว่า คนร้ายได้มาขอให้ช่วยเปิดประตูห้องพัก และโกหกว่าเป็นญาติของอดีตดาราสาว จึงหลงเชื่อและเปิดประตูห้องพักจนเกิดเป็นเรื่องเป็นราว
ขณะเดียวกัน เจ้าพนักงานยังได้ประสานไปยัง นางดารุณี โชติสุภา เจ้าของรีสอร์ท เพื่อให้มาพบปะพูดคุยกับ “น้องทราย” เกี่ยวกับเรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดการประนีประนอมจนเป็นที่พึงพอใจของทั้งสองฝ่าย และคาดว่า จะได้ทางออกที่ดีอย่างแน่นอน
โดย นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เผยว่า ข่าวที่เกิดขึ้นย่อมมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอย่างแน่นอน เพราะข่าวได้ถูกเผยแพร่ในวงกว้าง แต่ก็ใช่ว่าข่าวในลักษณะนี้จะเกิดเฉพาะเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยาเพียงแห่งเดียว ดังนั้น สิ่งที่อยากฝากเตือนไปยังนักท่องเที่ยว ก็คือ ก่อนเข้าพักยังโรงแรมต่างๆ ควรตรวจสอบรายละเอียดของโรงแรมแต่ละแห่งให้ชัดเจน
เนื่องจากเมืองพัทยามีทั้งโรงแรมที่จดทะเบียนดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และโรงแรมที่ไม่จดทะเบียนดำเนินการอย่างถูกต้อง ซึ่งโรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกของสมาคมโรงแรมและชมรม โรงแรมเมืองพัทยา และโรงแรมเหล่านี้จะถูกตรวจสอบเรื่องมาตรฐานด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
ที่สำคัญ เมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นกับนักท่องเที่ยว สมาคม หรือชมรมจะสามารถเข้าช่วยเหลือ และร่วมตรวจสอบให้กับผู้เสียหาย อย่างไรก็ตาม ข่าวที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่า พนักงานของโรงแรมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสูญหายของทรัพย์สินของผู้เข้าพักจริงหรือไม่ซึ่งคงต้องพิจารณาไปตามหลักฐานที่ปรากฏ และหากเป็นจริงเจ้าของโรงแรมก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เนื่องจากกฎหมายที่เกี่ยวกับ พรบ.โรงแรมได้ระบุเรื่องความรับผิดชอบไว้อย่างชัดเจน
“ในส่วนของผู้เข้าพักเองก็ต้องดูแลตัวเองด้วยเช่นกัน เพราะโรงแรมรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะมีเซฟตี้บล็อกไว้บริการเก็บของมีค่าให้กับผู้เข้าพักโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้เข้าพักก็น่าที่จะนำทรัพย์สินไปฝากไว้เพื่อความปลอดภัยเช่นกัน” นายธเนศ กล่าว
ด้าน นายวีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา เผยว่า ที่ผ่านมา เมืองพัทยาได้พยายามที่จะประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในเมืองพัทยาอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมาก็ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการโรงแรมให้ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดทั้งภายในและด้านหน้าโรงแรม ซึ่งเมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นจะสามารถติดตามตัวคนร้ายได้ง่ายขึ้น
ส่วนข่าวที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเมืองพัทยาอย่างแน่นอน และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็วเช่นกัน