พะเยา – ท้องถิ่น อ.เชียงคำ ได้กลิ่นห้างฯยักษ์ทุนข้ามชาติเตรียมเปิดสาขา เร่งมือทำผังเมืองรวมสกัดกั้น หวั่นซ้ำรอยอาร์เจนตินา-ผู้ประกอบการท้องถิ่นเจ๊ง
นายสมชัย ศรีศิริสิทธิกุล นายกเทศมนตรีตำบล (ทต.) เชียงคำ อ.เชียงคำ จ.พะเยา เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายการเปิดเสรีด้านการค้า ทำให้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจของแหล่งทุนมากมาย โดยเฉพาะแหล่งทุนขนาดใหญ่ที่พยายามผลักดัน และขยายสาขาของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในพื้นที่ภูมิภาคของประเทศไทย
ล่าสุด มีข่าวว่า ห้างสรรพสินค้าข้ามชาติแห่งหนึ่ง ได้เข้ามาติดต่อซื้อที่ดินในพื้นที่ อ.เชียงคำ เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้าแล้ว ดังนั้น อยากให้รัฐบาลช่วยกำกับดูแลห้างสรรพสินค้าเหล่านี้ด้วย เพราะหากปล่อยให้ขยายสาขาไปเรื่อยๆ ผู้ประกอบการรายเล็กก็คงจะทำการค้าขายลำบากแน่นอน
“หากห้างสรรพสินค้าจะมาเปิดในเขตเทศบาลตำบล คงเป็นไปได้ยาก เพราะมีกฎหมายของผังเมืองรวมที่กำลังมีการผลักดันให้ออกมาครอบคลุมพื้นที่ของเทศบาล อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานของถนนสี่ช่องทางจราจรยังไม่เกิดขึ้น” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวต่ออีกว่า ตนเองไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นที่ประเทศอาร์เจนตินาเกิดขึ้นกับประเทศไทย และไม่ต้องการให้ท้องถิ่น หรือภูมิภาคส่วนใด ต้องเป็นอาร์เจนตินา 2 ซึ่งต้องพยายามช่วยกันสร้างสำนึกรักษ์ท้องถิ่นให้ประชาชน เพื่อร่วมมือกันต่อต้านห้างฯยักษ์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ในเมื่อห้างสรรพสินค้ามีโครงการที่จะสร้างในพื้นที่ อ.เชียงคำ แล้ว ก็คงจะหาวิธีการจนสามารถสร้างได้อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นกลุ่มทุนขนาดใหญ่มีเงินลงทุนมหาศาล อีกทั้งอาจจะใช้วิธีการเลี่ยงกฎหมายก็เป็นได้
ด้าน นายสรยุทธ์ กันตะยา นายก ทต.สบบง กิ่ง อ.ภูซาง กล่าวว่า ขณะนี้ทางผังเมืองพะเยาได้เร่งทำผังเมืองรวมท้องถิ่น โดยเฉพาะพื้นที่เทศบาลตำบลเชียงคำ อ.เชียงคำ เทศบาลตำบลบ้านทราย อ.เชียงใหม่ และเทศบาลตำบลสบบง กิ่ง อ.ภูซาง เป็นท้องถิ่นระดับเทศบาลที่มีนโยบายทำผังเมืองรวมให้พื้นที่ติดต่อกัน เพื่อจัดทำผังเมืองให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและพื้นที่ อีกทั้งเพื่อพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ให้คนในพื้นที่เป็นหลัก
ขณะนี้ในขั้นตอนระดับจังหวัดเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่า เมื่อส่วนกลางเห็นชอบ จะมีการประกาศใช้ควบคุมพื้นที่ 3 เทศบาลตำบลในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะเป็นวิธีการหนึ่งที่สกัดกั้นการลงทุนก่อสร้างห้างสรรพสินค้าของชาวต่างชาติได้
นายสมชัย ศรีศิริสิทธิกุล นายกเทศมนตรีตำบล (ทต.) เชียงคำ อ.เชียงคำ จ.พะเยา เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายการเปิดเสรีด้านการค้า ทำให้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจของแหล่งทุนมากมาย โดยเฉพาะแหล่งทุนขนาดใหญ่ที่พยายามผลักดัน และขยายสาขาของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในพื้นที่ภูมิภาคของประเทศไทย
ล่าสุด มีข่าวว่า ห้างสรรพสินค้าข้ามชาติแห่งหนึ่ง ได้เข้ามาติดต่อซื้อที่ดินในพื้นที่ อ.เชียงคำ เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้าแล้ว ดังนั้น อยากให้รัฐบาลช่วยกำกับดูแลห้างสรรพสินค้าเหล่านี้ด้วย เพราะหากปล่อยให้ขยายสาขาไปเรื่อยๆ ผู้ประกอบการรายเล็กก็คงจะทำการค้าขายลำบากแน่นอน
“หากห้างสรรพสินค้าจะมาเปิดในเขตเทศบาลตำบล คงเป็นไปได้ยาก เพราะมีกฎหมายของผังเมืองรวมที่กำลังมีการผลักดันให้ออกมาครอบคลุมพื้นที่ของเทศบาล อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานของถนนสี่ช่องทางจราจรยังไม่เกิดขึ้น” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวต่ออีกว่า ตนเองไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นที่ประเทศอาร์เจนตินาเกิดขึ้นกับประเทศไทย และไม่ต้องการให้ท้องถิ่น หรือภูมิภาคส่วนใด ต้องเป็นอาร์เจนตินา 2 ซึ่งต้องพยายามช่วยกันสร้างสำนึกรักษ์ท้องถิ่นให้ประชาชน เพื่อร่วมมือกันต่อต้านห้างฯยักษ์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ในเมื่อห้างสรรพสินค้ามีโครงการที่จะสร้างในพื้นที่ อ.เชียงคำ แล้ว ก็คงจะหาวิธีการจนสามารถสร้างได้อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นกลุ่มทุนขนาดใหญ่มีเงินลงทุนมหาศาล อีกทั้งอาจจะใช้วิธีการเลี่ยงกฎหมายก็เป็นได้
ด้าน นายสรยุทธ์ กันตะยา นายก ทต.สบบง กิ่ง อ.ภูซาง กล่าวว่า ขณะนี้ทางผังเมืองพะเยาได้เร่งทำผังเมืองรวมท้องถิ่น โดยเฉพาะพื้นที่เทศบาลตำบลเชียงคำ อ.เชียงคำ เทศบาลตำบลบ้านทราย อ.เชียงใหม่ และเทศบาลตำบลสบบง กิ่ง อ.ภูซาง เป็นท้องถิ่นระดับเทศบาลที่มีนโยบายทำผังเมืองรวมให้พื้นที่ติดต่อกัน เพื่อจัดทำผังเมืองให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและพื้นที่ อีกทั้งเพื่อพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ให้คนในพื้นที่เป็นหลัก
ขณะนี้ในขั้นตอนระดับจังหวัดเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่า เมื่อส่วนกลางเห็นชอบ จะมีการประกาศใช้ควบคุมพื้นที่ 3 เทศบาลตำบลในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะเป็นวิธีการหนึ่งที่สกัดกั้นการลงทุนก่อสร้างห้างสรรพสินค้าของชาวต่างชาติได้