ศูนย์ข่าวศรีราชา - บูรพา กอล์ฟคลับ ทุ่ม 80 ล้านบาท ผุดโรงแรม 4 ดาว ขนาด 60 ยูนิต ในเนื้อที่ 20 ไร่ภายในสนามกอล์ฟ รับแผนเปิดตลาดกอล์ฟแคมป์ รองรับนักหวดวงสวิงทั้งใน และต่างประเทศ ที่ต้องการใช้ชีวิตภายในสนามที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมเตรียมยกระดับเป็นแหล่งรองรับการแข่งขันระดับโลก และรองรับนักกอล์ฟที่เกิดจากศูนย์ผลิตนักกอล์ฟในกรุงเทพฯ
นายกุลธร มีสมมนต์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บูรพา กอล์ฟ คลับ จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ในเดือนเมษายน 2550 สนามกอล์ฟบูรพา จะเปิดให้บริการโรงแรมขนาด 4 ดาว จำนวน 60 ยูนิต ในเนื้อที่ 20 ไร่ ภายใต้ชื่อ “บูรพา กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท” ด้วยงบดำเนินการทั้งสิ้น 80 ล้านบาท ซึ่งได้เริ่มการก่อสร้างเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา และคาดว่า จะสามารถเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการได้ภายในเดือนธันวาคม
การเปิดให้บริการโรงแรมภายในสนามกอล์ฟ เป็นไปตามแผนสร้างงานบริการแบบครบวงจร ซึ่งโรงแรมแห่งนี้จะรองรับกลุ่มนักเล่นกอล์ฟ ที่ต้องการใช้ชีวิตอยู่แต่ในสนามกอล์ฟ และไม่ชอบการใช้ชีวิตแบบไนท์ ไลฟ์ ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการแย่งกลุ่มนักท่องเที่ยวจากเมืองพัทยา เพราะกลุ่มนักเล่นกอล์ฟที่ชอบท่องเที่ยวยามกลางคืน ก็ยังสามารถเดินทางไปพักผ่อนยังเมืองพัทยา ซึ่งมีระยะทางจากอำเภอศรีราชาเพียง 20 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น
“นอกจากโรงแรมแล้ว ในแต่ละปีเรายังใช้งบประมาณ 15-20 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงสนาม พัฒนาอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีความพร้อม เพราะเรามีเป้าหมายที่จะพัฒนาสนามแห่งนี้ ให้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ที่สำคัญสนามแห่งนี้จะเป็นสถานที่รองรับนักกอล์ฟ จากแหล่งผลิตของเราที่ SBN สนามบินน้ำ ซึ่งเปิดให้บริการแบบคอมเพล็กซ์ และกำหนดให้เป็นศูนย์กลางการผลิตนักกอล์ฟในกรุงเทพฯ”
นายกุลธร ยังเผยถึงการเปลี่ยนมือเจ้าของสนามกอล์ฟในพื้นที่ภาคตะวันออก ว่า จะไม่มีให้เห็นอย่างเช่นเมื่อ 2-3 ปีก่อน เนื่องจากปัจจุบันการขยายตัวของตลาดกอล์ฟในภาคตะวันออก มีทิศทางเติบโตที่เด่นชัด ขณะที่เมื่อ 2-3 ปีก่อน บรรดาเจ้าของสนามต้องประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ และการไม่ปล่อยกู้ของแบงก์พาณิชย์ ทำให้ไม่มีงบประมาณในการปรับปรุงสนาม ประกอบกับการลงทุนก่อสร้างสนามกอล์ฟในอดีต เป็นการลงทุนในลักษณะของการพัฒนาเรียลเอสเตทควบคู่ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ เมื่อไม่มีงบประมาณในการพัฒนาจึงเกิดการเปลี่ยนมือ
อย่างไรก็ตาม นับจากนี้ไป ภาพของการเข้ามาซื้อสนามกอล์ฟ ต่อจากผู้บริหารเดิมของกลุ่มนักลงทุนจะมีให้เห็นน้อยลง และภาพของสนามกอล์ฟที่เกิดใหม่ จะไม่มีโครงการอสังหาริมทรัพย์เข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากปัจจุบันการพัฒนาสนามกอล์ฟจะมุ่งเน้นไปที่การทุ่มงบประมาณในการพัฒนาสนามมากกว่า
“ในอนาคตเราจะเห็นภาพของการเกิดใหม่ของสนามกอล์ฟในพื้นที่ เพราะความต้องการยังมีอยู่สูง แต่จะเป็นภาพของการที่เจ้าของสนามเดิมลงทุน เพื่อก่อสร้างสนามใหม่ หรือขยายศักยภาพสนามเดิม ให้สามารถรองรับความต้องการของกลุ่มนักเล่นกอล์ฟได้มากขึ้น”
ปัจจุบันมูลค่าการตลาดในธุรกิจสนามกอล์ฟของภาคตะวันออก มีมากกว่า 1 พันล้านบาท และก็คาดว่าในอีก 1-2 ปี ภาคตะวันออกจะมีนักกอล์ฟเข้ามามากถึง 1 ล้านคน จากจำนวนสนามที่จะเพิ่มขึ้น โดยทุกวันนี้สนามกอล์ฟแต่ละแห่งมีกลุ่มผู้เล่นประมาณ 70% ของศักยภาพเต็ม ทำให้อยู่กันได้แบบสบายๆ ที่สำคัญ ตลาดต่างประเทศยังขยายตัวได้อีกมาก ขณะที่ตลาดในพื้นที่อย่างกลุ่มผู้บริหารของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีมากถึง 200 โรง และกลุ่มนักเล่นกอล์ฟชาวไทย ที่เป็นตลาดหลัก ทำให้ศักยภาพการทำตลาดกอล์ฟในภูมิภาคแห่งนี้ยังถือว่าแข็งแกร่ง
