กาญจนบุรี - ความคืบหน้าคดียิงนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเลาขวัญ จ.กาญจนบุรี และสามีซึ่งเป็นรองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสวนแตง จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาที่ให้การยอมรับสารภาพได้กลับคำให้การในชั้นพนักงานสอบสวนว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมข่มขู่และทำร้ายโดยการใช้ไฟฟ้าช๊อดเพื่อให้ยอมรับสารภาพและซัดทอดถึงผู้บงการ โดยได้ว่าจ้างทนายความยื่นคำร้องต่อศาลอาญา จ.กาญจนบุรี
ล่าสุดศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีคำสั่งถึงพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีให้นำตัวผู้ต้องหามาทำการสอบปากคำตามคำร้องและนำตัวไปให้แพทย์โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ด้านพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเปิดเผยว่า เรื่องทุกอย่างได้กระทำไปตามอำนาจหน้าที่ เมื่อศาลมีคำสั่งก็ต้องแล้วแต่ดุลพินิจของศาล ในส่วนของคดีก็ต้องว่ากันไป ด้านคดียังไม่มีอะไรคืบหน้าเท่าที่ควร
ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้ เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (31 ต.ค.49) พ.ต.ท.เทียนชัย เลิศมณีทวีทรัพย์ พงส.สบ.2 สภ.อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรวม 6 นายได้นำตัวนายทิ้ง กรับทอง อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาที่เป็นคนชี้เป้าในคดีฆ่านางสุพิชญาณ์ ลีอารีย์กุล อายุ 44 ปี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเลาขวัญ จ.กาญจนบุรี และนายปัญญา ลีอารีย์กุล อายุ 50 ปี รองนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลสวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี มาที่ศาลอาญา จ.กาญจนบุรี หลัง
ศาลมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหามาทำการสอบสวนปากคำใหม่
เนื่องจากนายสำเริง มะสำอินทร์ ทนายความของผู้ต้องหาได้ทำการยื่นคำร้องต่อศาลอาญา จ.กาญจนบุรีว่านายทิ้ง กรับทอง ผู้ต้องหาให้การกับนายสำเริง มะสำอินทร์ ซึ่งได้เดินทางไปเยี่ยมลูกความว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทำการข่มขู่และทำร้าย โดยการใช้ไฟฟ้าช๊อตที่บริเวณลูกอัณฑะและอวัยวะเพศเพื่อให้การยอมรับสารภาพและซัดทอดถึงผู้บงการ โดยนายสำเริง ได้ทำการถ่ายรูปบาดแผลของนายทิ้ง กรับทอง ไว้เป็นหลักฐานเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอีกด้วย
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้นำตัวนายทิ้ง กรับทอง ไปพบกับเจ้าหน้าที่ศาล และในเวลาต่อมาได้มีคำสั่งจากนายอาทิตย์ สารทวาหา ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ได้สั่งการให้นำตัวนายทิ้ง กรับทอง ไปให้แพทย์โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา กาญจนบุรี ทำการตรวจร่างกายเพื่อพิสูจน์บาดแผลและหาร่องรอยของการถูกทำร้ายเพื่อเป็นหลักฐานตามคำร้อง
เวลา 11.00 น. ของวันเดียวกัน พ.ต.ท. เทียนชัย เลิศมณีทวีทรัพย์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี อีก 5 นาย ซึ่งอาวุธปืนสั้นและยาวครบมือที่ทำหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหา พร้อมด้วยนายสำเริง มะสำอินทร์ ทนายความ และ น.ส.เบ็ญจวรรณ โกสุมา เสมียนทนายผู้ต้องหา รวมทั้งภรรยาและลูกสาวของนายทิ้ง กรับทอง เดินทางมาที่โรงพยาบาลฯเพื่อให้แพทย์เวรของโรงพยาบาลทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด โดยแพทย์ได้ให้นายทิ้ง ผู้ต้องหานอนบนเตียงคนไข้ภายในห้องปฐมพยาบาลฉุกเฉิน และให้นายทิ้ง ทำการถลกเสื้อและถอดกางเกงขาสั้นออกเพื่อตรวจดูบาดแผลอย่างละเอียด
รวมทั้งสอบถามผู้ต้องหาว่าเจ็บตรงไหนและถูกอะไรมา ซึ่งจากการตรวจสอบร่างกายพบว่าที่บริเวณแผ่นอกและที่บริเวณหน้าท้องมีร่องรอยผิวหนังกำพร้าพุพองเป็นวงๆ ส่วนที่บริเวณอวัยวะเพศมีผิวหนังเป็นผื่นดำ
จากนั้นแพทย์ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่นำตัวนายทิ้ง ผู้ต้องหารายนี้เดินทางไปที่ห้องเอกซเรย์เพื่อทำการตรวจสอบอวัยวะภายในอย่างละเอียดโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทนายความพร้อมด้วยญาติๆ ของนายทิ้งติดตามร่วมสังเกตการณ์โดยตลอดอย่างไม่คาดสายตา โดยใช้เวลาในการตรวจสอบร่างกายอยู่นานประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำตัวนายทิ้ง กรับทอง เดินทางกลับไปที่ศาลอาญา จ.กาญจนบุรี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของศาลฯ ที่ได้รับการมอบหมายให้ทำการสอบปากคำถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นต่อหน้าทนายความของผู้ต้องหาตามคำร้อง
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางสีนวล กรับทอง อายุ 35 ปี ลูกสาวของนายทิ้ง ผู้ต้องหารายนี้เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นและได้รับคำตอบว่า ไม่เชื่อว่าพ่อจะทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา เพราะจะไปทำได้อย่างไร ส่วนในวันที่ 24 ต.ค. 2549 เวลาประมาณ 16.00 น.ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบประมาณ 40-50 คนมาที่บ้านจากนั้นก็จับตัวพ่อและแม่ ไปที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี โดยตำรวจได้ทำการแยกตัวพ่อกับแม่ไปสอบสวนกันคนละห้อง ต่อมาได้นำตัวแม่มาส่งที่บ้าน ตนพร้อมด้วยน้องสาวจึงเดินทางไปที่โรงพัก และสอบถามตำรวจที่นั่นก็ได้รับคำตอบว่ายังไม่มีการนำตัวพ่อมาส่งที่โรงพัก ตนและน้องสาวจึงเดินทางกลับบ้าน
นางสีนวล กรับทอง ลูกสาวของนายทิ้ง ผู้ต้องหารายนี้ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ในตอนสายของวันที่ 25 ต.ค.49 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวพ่อเดินทางมาที่บ้านอีก ครั้งเพื่อทำแผนและค้นหาหลักฐานอีกครั้งหนึ่งและเดินทางกลับไป เรื่องนี้เชื่อ
ว่าพ่ออาจจะถูกทำร้ายตามที่พ่อบอกก็เป็นได้ เพราะเห็นพ่อเดินตัวงอเอามือกุมท้องอยู่ตลอดเวลา
ด้าน พ.ต.ท.เทียนชัย เลิศมณีทวีทรัพย์ พงส.สบ. 2 สภ.อ.เลาขวัญ เจ้าของคดีกล่าวว่า“คดีนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้ามาก ไม่มีการออกหมายจับเพิ่ม งงมากที่ผู้ต้องหากลับคำให้การและอ้างว่าที่สารภาพเพราะถูกข่มขู่และทำร้าย ในวันที่นำตัวมากักขังที่ สภ.อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี จากการสอบปากคำผู้ต้องหาต่อหน้าทนายความจากสภาทนายความ จ.กาญจนบุรี ที่เดินทางมาร่วมฟังการสอบปากคำผู้ต้องหาก็ได้ให้การยอมรับสารภาพโดยไม่มีการข่มขู่ หรือชี้นำ แต่มาวันนี้มากลับคำให้การซึ่งก็ต้องว่ากันไปก็ต้องว่ากันไป
มีรายงานข่าวว่าภายหลังจากที่ศาลอาญา จ.กาญจนบุรี ได้มีคำสั่งการให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีนำตัวนายทิ้ง กรับทอง ผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่ชี้เป้าในคดีฆ่านายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเลาขวัญ จ.กาญจนบุรี และรองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสวนแตง จ.สุพรรณบุรีเดินทางมาให้แพทย์ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา กาญจนบุรี ซึ่งจากการตรวจร่างกายของนายทิ้ง
พบว่ามีร่องรอยบาดแผลซึ่งถูกของมีคมทิ่มแทงที่หน้าท้องและบริเวณหน้าอก และตามร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำหลายแห่ง ส่วนใหญ่บาดแผลกำลังเริ่มตกสะเก็ดแล้ว โดยเฉพาะที่บริเวณลูกอัณฑะ ซึ่งในเวลาต่อมาศาลได้สั่งการให้ทำการสอบสวนปากคำนายทิ้ง ถึงเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีนายสำเริง มะสำอินทร์ ทนายความของผู้ต้องหาทำหน้าที่ทำหน้าที่สอบถามข้อเท็จจริงตามคำร้องของผู้ต้องหาต่อหน้าผู้พิพากษา
