ศูนย์ข่าวภูมิภาค – พบบ้านทรงไทยปริศนา กำลังประกอบและก่อสร้างลงหลักปักฐานที่อ่าวกิ่ว บนที่ดินผืนสวย เลียบเนินเขาขนาดย่อม มองเห็นชายหาด บนเนื้อที่ 5ไร่ ที่เคยมีคดีบุกรุกเมื่อ 10 ปีก่อน ล่าสุดมีชาวบ้านแวะเวียนไปชม พบมีการระดมยามเฝ้าหนาแน่น ป้องกันมิให้ใครเข้าไปถ่ายภาพ ทางด้านอุทยานฯเสม็ด ยังลำเลียงวัสดุขึ้นบนเนินอ่าวขามอ้างกับชาวบ้านบนเกาะว่าทำที่พักสายตรวจทางทะเลหลังเล็กๆ เท่านั้น
วันนี้ ( 7 ตุลาคม 2549) เวลา 09.00 น. ช่างภาพพิเศษสายข่าวของผู้จัดการ เสี่ยงตายไปถ่ายภาพบ้านทรงไทยปริศนาจำนวน 3 หลังส่งมาให้ บ้านดังกล่าวมีลักษณะที่กำลังประกอบตามภาพถ่ายนั้นเป็นบ้านทรงไทย ขณะที่ถ่ายภาพนี้มาได้นั้น เป็นเวลาขณะคนงานกำลังประกอบและตกแต่งบ้าน ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้วสองหลัง ส่วนอีกหนึ่งหลังกำลังประกอบอยู่
สถานที่พบบ้านทรงไทย 3 หลังนี้ อยู่บริเวณอ่าวกิ่วหน้าใน ด้านตรงกันข้ามกับรีสอร์ทหรูชื่อ ปารดี รีสอร์ท แอนด์สปา ซึ่งตั้งอยู่ที่ “อ่าวกิ่วหน้านอก” ลักษณะเดินไปมาหาสู่กันได้ระยะทางประมาณ 100 เมตร บริเวณที่บ้านทรงไทยตั้งอยู่ยังไม่มีการปรับสภาพที่ดิน มีแต่เพียงกั้นรั้วล้อมรอบให้เป็นที่ส่วนบุคคล ซึ่งผู้สื่อข่าวพิเศษรายงานว่า บ้านทรงไทยปริศนา3 หลังนี้ ยังไม่น่าจะใช่บ้านทรงไทยที่นำไม้มาจากภาคเหนือและเป็นของอดีตนักการเมืองคนหนึ่ง
สำหรับที่ดินบริเวณอ่าวกิ่วหน้าในและอ่าวกิ่วหน้านอกบนเกาะเสม็ดแห่งนี้ แต่เดิม ที่ดินส่วนหนึ่งเคยถูกบุกรุกและเป็นคดีที่สถานีตำรวจภูธรต.บ้านเพ อ.เมืองระยอง เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2529 มีสมาชิกสภาจังหวัดระยองตั้งกระทู้ถามอุทยานฯเรื่องปล่อยให้มีการรุกที่เกาะเสม็ด ทำให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกรมป่าไม้ ต้องไปแจ้งความดำเนินคดีผู้บุกรุกกับตำรวจ สภต.บ้านเพ ร่วมกันจับกุมผู้บุกรุกทั้งหมด 9 ราย และหนึ่งในจำนวนผู้ที่เข้าบุกรุกที่นั้นเป็นอดีตนายทหารยศพันโทชื่อ ณัทวัต ต่อมาเมื่อเป็นคดีไปแล้ว ทราบกันภายหลังว่าที่ดินอ่าวกิ่วตรงแถบนี้ได้ถูกเปลี่ยนมือผู้ถือครอง ทางธนารักษ์จังหวัดระยองทราบดีว่าใครครอบครองอยู่และมีใครไปทำสัญญาเช่ากับธนารักษ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯก็น่าจะทราบได้เช่นเดียวกัน
ส่วนที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติฯ ได้จัดให้เช่าไปแล้วจำนวน 40 แปลงเป็นเนื้อที่ประมาณ 203-0-40.1 ไร่ พื้นที่นอกเขตอุทยานฯที่มีอยู่ประมาณ 700 ไร่ จัดให้เช่าไปแล้ว จำนวน 157 แปลง เนื้อที่ประมาณ 188-1-04 ไร่ ส่วนหนังสือสัญญาจากธนารักษ์จะมีสามรูปแบบ มีหนังสือแบบเช่าเพื่อที่อยู่อาศัย เช่าเพื่อทำกินด้านเกษตรและเช่าเพื่อนำไปประกอบการ โดยจะมีสัญญาเช่าที่ อายุการเช่าที่แตกต่างกันและนานปีกว่ากัน นี่เป็นข้อมูลที่ผ่านมาเมื่อปี 2544 ขณะนี้ไม่มีใครทราบว่า ที่ดินเกาะเสม็ดดังกล่าวปัจจุบันถูกใครเป็นผู้เช่าไปและเอาไปประกอบการในกิจการใดบ้าง ซึ่งยังไม่ได้คำตอบที่แน่ชัด
อนึ่ง ราษฎรบนเกาะเสม็ดแจ้งให้ทราบด้วยว่า ล่าสุดนี้มีการขนวัสดุก่อสร้างลำเลียงลงเรือหางยาวมายังอ่าวขามเวลาน้ำขึ้นเต็มฝั่ง เพื่อขนวัสดุขึ้นไปสร้างบ้านพักสายตรวจทางทะเลต่อไป หลังจากได้นำคนงานมาถากดินตัดต้นไม้ ปรับสภาพหน้าดิน ปรับภูมิทัศน์ที่ดิน บนเนินเขาอ่าวขามไว้แล้วนั้น ทั้งมีการบอกกับชาวบ้านบนเกาะเสม็ดว่า สร้างบ้านพักสายตรวจทางทะเลหลังเล็กๆ เท่านั้น