ชาวสวนส้มโอเชียงรายครวญรายได้หยุดนิ่ง-ต้นทุนผลิตพุ่ง

เชียงราย – เกษตรกรชาวสวนส้มโอ / พืชเศรษฐกิจหลักของเวียงแก่น เมืองพ่อขุนฯ ครวญ ปีนี้ราคาส้มโอไม่เพิ่ม แต่ต้นทุนการผลิตทั้งค่าปุ๋ย-น้ำมันเชื้อเพลิงพุ่งพรวดหลายเท่าตัว ทำขาดทุนกันถ้วนหน้า เผยหลายรายต้องลดพื้นที่ปลูก หันไปปลูกพืชระยะสั้นแทน ขณะที่การส่งออกไปจีนยังไม่ได้ผล

ผู้สื่อข่าว รายงานจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า ระหว่างวันที่ 15-17 ก.ย.49 ได้มีการจัดงานเทศกาลส้มโอและของดีอำเภอเวียงแก่น จ.เชียงราย ประจำปี 49 ขึ้น ณ สนามที่ว่าการอำเภอเวียงแก่น ภายในงานนอกจากมีการออกร้านจำหน่ายผลผลิตส้มโอหลายสายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ทองดี,พันธุ์ขาวใหญ่,พันธุ์ขาวน้ำผึ้ง,พันธุ์เซลเลอร์,พันธุ์ขาวพวง

นอกจากนี้ ยังมีการออกร้านจัดนิทรรศการทางวิชาการของหน่วยงานราชการ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของชนเผ่าต่างๆ ทั้ง ชาวไทยเชื้อสายม้ง,ชาวไทยเชื้อสายเย้า,ชาวไทยอีสานและปีนี้มีการ แสดงตลกของศิลปินเชียงราย ตลอดจนมีมหรสพสมโภชตลอดงาน ตามคำขวัญของอำเภอเวียงแก่น ที่ว่า “เจ้าหลวงเวียงแก่น ชายแดนไทย-ลาว น้ำงาวพราวใส ผาไดแก่งดัง ผาตั้งเด่นนาน ส้มโอหวานรสดี”

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ราคาส้มโอพืชเศรษฐกิจหลักของอำเภอเวียงแก่น จ.เชียงราย ไม่ดีมากนัก

น.ส.พัทยาคำลือ เจ้าของสวนลุงคำ ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น กล่าวว่า ครอบครัวตนมีสวนส้ม 10 ไร่ และปีนี้ราคาส้มโอจำหน่ายได้ผลละราว 13 บาท ซึ่งถือว่าราคาใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากน้ำมันเชื้อเพลิงแพงขึ้น และค่าปุ๋ยแพงขึ้น ทำให้กำไรปีนี้มีน้อย

เช่นเดียวกับ นายเล็ก อินต๊ะ เจ้าของสวนห้วยทราย อ.เวียงแก่น ซึ่งนำส้มโอ มาจำหน่ายให้กับเอกชนผู้ส่งออกส้มโอไปต่างประเทศ มีการนำส้มโอมาล้างและบรรจุหีบห่อส่งไปยังประเทศไต้หวัน,สิงคโปร์,ฮ่องกง และใกล้เคียง กล่าวว่า ปีนี้เนื่องจากค่าครองชีพทุกอย่างสูงขึ้น แต่ราคาส้มโอไม่เพิ่ม บางช่วงราคายังตกลง บางสวนขายคละกันได้ กก.ละ 5 บาท ก็มี แต่หากคัดแล้วจะขายได้ ผลละ 13-20 บาท

ทั้งนี้ การส่งออกไปต่างประเทศ เช่น ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านแม่น้ำโขง น่าจะเป็นทางหนึ่งที่จะทำให้ระบายผลผลิตส้มโอ แต่ที่ผ่านมาก็ทำได้ไม่ง่าย ทำให้ปีนี้เกษตรกรบางส่วนลดพื้นที่ปลูกลงไปปลูกพืชเศรษฐกิจอย่างอื่น ที่เป็นพืชระยะสั้น เช่น ข้าวโพด,ถั่ว จึงอยากให้ราชการเข้ามาแก้ไขปัญหาด้วย

นายบำเพ็ญ บินไทยสงค์ นายอำเภอเวียงแก่น จ.เชียงราย กล่าวอีกว่า ปีนี้น่าจะมีผลผลิตส้มโอออกสู่ตลาดลดลงจากปีก่อน คือ ราว 5,800,000 ผล จากที่ปีก่อนมีประมาณ 8,000,000 ผล ราคาจำหน่ายผลละ 8-21 บาท คิดเป็นมูลค่าที่จะนำรายได้เข้าอำเภอราว 81 ล้านบาท จากพื้นที่ปลูก 7,540 ไร่ ซึ่งยอมรับว่า พื้นที่ปลูกส้มโอลดลงบ้าง เพราะราคาที่ไม่สูงนัก และเกษตรกรลดพื้นที่ปลูกลง แต่ส้มโอเวียงแก่นปลอดสารพิษ รสหอมหวาน อร่อยมาก จึงส่งขายไปยัง ไต้หวัน,ฮ่องกง,มาเลเซีย และส่งไปยัง กทม. ได้ นอกจากนี้ กลุ่มแม่บ้าน จะได้ทำการแปรรูปสินค้า เช่น ผลิตน้ำส้มโอ,ส้มโอกระป๋อง เป็นต้น