xs
xsm
sm
md
lg

เหล้าพื้นบ้านศรีสะเกษตายยก จว.เหตุพ่ายยักษ์ใหญ่ผูกขาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางพิชชานันท์ ครุฑแก้ว เจ้าของโรงงานสาโทเมืองขุน กับรางวัลโอทอปสาโทดีเด่นระดับภูมิภาค ที่ปัจจุบันกลายเป็นตำนานไปแล้ว
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- โรงงานสาโทและเหล้ากลั่นพื้นบ้าน จ.ศรีสะเกษ เจ๊งเรียบพากันปิดกิจการทั้งจังหวัดกว่า 150 โรงงาน ไม่เว้นแม้แต่โรงงานต้นตำรับ เจ้าของรางวัลโอทอปดีเด่น ระดับภูมิภาครับจากมือนายกฯทักษิณ เหตุพ่ายกลยุทธ์ดัมป์ราคาของยักษ์ใหญ่ผูกขาด วอนรัฐบาลช่วยเหลือด่วน เพื่อสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น และเป็นแหล่งสร้างรายได้ แก้ปัญหายากจนอย่างแท้จริงตามนโยบายรัฐบาล


ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า โรงงานผลิตสาโทเมืองขุน ต.สำโรงเกียรติ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเหล้าพื้นบ้านประเภทสาโทรายใหญ่และโด่งดังที่สุดของ จ.ศรีสะเกษ ขณะนี้ได้ปิดกิจการลงแล้ว อุปกรณ์ในการผลิตสาโท รวมทั้งเหล้าสาโทที่ผลิตแล้วและบรรจุกล่องไว้ เพื่อรอส่งจำหน่ายยังคงเหลืออยู่จำนวนมากเต็มโรงงาน

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ โรงงานผลิตเหล้าพื้นบ้านแห่งนี้ มีความคึกคักเป็นอย่างมาก เพราะสาโทเป็นเครื่องดื่มที่ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ นิยมดื่มแต่ถูกปิดกั้นมานาน และได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลพรรคไทยรักไทย (ทรท.) กำหนดให้เป็นหนึ่งในนโยบายสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน จากการเพิ่มมูลค่าผลิตผลทางการเกษตร รวมทั้งสนับสนุนให้เป็นสินค้า “หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์” หรือ โอทอป ซึ่งโรงงานผลิตเหล้าสาโทเมืองขุน แห่งนี้เคยได้รับรางวัลการผลิตสาโทดีเด่นระดับภูมิภาค จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม โรงงานผลิตเหล้าพื้นบ้านในจังหวัดศรีสะเกษ ขณะนี้ต่างประสบชะตากรรม ที่ไม่แตกต่างกันและพากันปิดกิจการแล้วทั้งจังหวัดกว่า 150 แห่ง

นางพิชชานันท์ ครุฑแก้ว เจ้าของโรงงานสาโทเมืองขุน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ โรงงานผลิตสาโทเมืองขุน ต้องระดมจ้างแรงงานชาวบ้านในเขตนี้มาช่วยเร่งผลิตสาโทกันเป็นจำนวนมาก เพราะสาโทขายดีมากจนผลิตไม่ทันและมีคุณภาพสูงได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ และได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์โอทอปดีเด่นระดับภูมิภาค ส่งผลให้มีโรงงานผลิตสาโทต่างๆ เกิดขึ้นมาอีกจำนวนมากในเขต จ.ศรีสะเกษ

ทั้งนี้ ปรากฏว่า คุณภาพการผลิตไม่ได้มาตรฐานเท่ากันทุกโรงงาน ทำให้ส่งผลต่อภาพลักษณ์โดยรวมของผลิตภัณฑ์สาโทใน จ.ศรีสะเกษ และประชาชนชาวไทยลดความนิยมลง พากันหันไปดื่มเบียร์มากกว่า เพราะบริษัทผลิตเบียร์ยักษ์ใหญ่ของประเทศ ได้ลดราคาจำหน่ายเบียร์ต่ำเป็นประวัติการณ์ ลงมาเหลือเพียง 3 ขวด 100 บาท ทำให้ประชาชนไทย รวมทั้งชาวบ้านท้องถิ่นตามชนบททั่วประเทศ พากันไปดื่มเบียร์แทนสาโทกันหมด

นางพิชชานันท์ กล่าวต่อว่า ตนและบรรดาผู้ผลิตสาโททุกราย จึงได้เปลี่ยนไปผลิตสุรากลั่นพื้นบ้าน หรือเหล้าขาวแทน แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยม เพราะกรรมวิธีการผลิตไม่ดีพอ ส่งผลให้เหล้าขาวที่ผลิตออกมามีกลิ่นเหล้าสาโทด้วย รสชาติสู้เหล้าขาวที่ผลิตโดยโรงงานขนาดใหญ่ ในเครือข่ายของบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่ผลิตและจำหน่ายเบียร์ดังกล่าวไม่ได้ ทำให้ประชาชนไม่ค่อยซื้อดื่ม ส่งผลให้บรรดาเจ้าของโรงงานผลิตสาโทและเหล้าขาวพื้นบ้าน ในจังหวัดศรีสะเกษกว่า 150 ราย ขายสินค้าไม่ได้ ต้องขาดทุนย่อยยับ และพากันปิดกิจการจนหมด

“หากมีความเป็นไปได้ อยากเรียกร้องให้รัฐบาล ได้หันมาให้การสนับสนุนการผลิตสาโทและเหล้าขาวพื้นบ้าน ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวบ้านให้คงอยู่ตลอดไป เพื่อที่จะได้เป็นแหล่งสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น และสามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ ตามนโยบายที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ ต่อไป” นางพิชชานันท์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น