xs
xsm
sm
md
lg

“อัมรินทร์” จวกนักข่าวหัวสี ไร้จิตวิญญาณ-จรรยาบรรณการทำข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวศรีราชา -ผู้ประสานงานต่างจังหวัด พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสระแก้ว เหยื่อรัฐตำรวจ จวกนักข่าวหัวสี-ทีวี เชลียร์ “แม้ว” ไร้จรรยาบรรณในวิชาชีพการทำงานข่าว เผยไม่สอบถามข้อมูลจากปาก รีบถ่ายภาพทำข่าวแล้วแจ้นกลับ ชี้ มาตรฐานสื่อมวลชนในประเทศค่อนข้างเปราะบาง เหตุบุคลากรข่าวไม่มีจิตวิญญาณในความเป็นสื่อมวลชน

ผู้สื่อข่าวผู้จัดการออนไลน์ รายงานจากกรณีที่มีข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ จังหวัดสระแก้ว จับกุมตัวนายอัมรินทร์ ยี่เฮง ผู้ประสานงานต่างจังหวัดกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดสระแก้ว ในคดียักยอกทรัพย์ ตามที่หนังสือพิมพ์บางแขนงได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

รายละเอียดเรื่องดังกล่าว ผู้จัดการออนไลน์ได้ติดต่อไปยัง นายอัมรินทร์ โดย นายอัมรินทร์ ชี้แจงว่า เหตุที่เกิดขึ้นมีที่มาที่ไป ทั้งนี้ เพราะตนได้ประกอบธุรกิจส่วนตัว โดยเปิดเป็นร้านบริการซ่อมแซม และจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตอนนั้นตนได้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือไปให้แก่ลูกค้ารายหนึ่ง แต่ยังคาราคาซังเรื่องค่าใช้จ่ายอยู่ จนถูกแจ้งความมีการลงบันทึกประจำวันไว้ว่าตนได้ยักยอกทรัพย์ผู้อื่น

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลายเดือนมาแล้ว และขณะนั้นตนได้สมัครเป็นอาสาสมัครผู้ช่วยครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงทำให้ไม่ทราบว่ามีการแจ้งความ และมีหมายเรียกจากทางเจ้าหน้าที่ในคดีความดังกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อกลับมาจากภาคใต้ ก็ได้ต่อสู้คัดค้านเรื่องขยะต่างชาติ ที่มีกลุ่มนายทุนนำมาลักลอบทิ้งในเขตอำเภอวัฒนานคร และเข้าร่วมเป็นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยได้ประสานงานร่วมกันกับกลุ่มพันธมิตรฯ มาโดยตลอด จนในพื้นที่ทราบกันอย่างกว้างขวางว่า ตนเป็นหนึ่งในกลุ่มพันธมิตรฯ สระแก้ว ซึ่งตนก็ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องคดีความดังกล่าวอะไรมากนัก

จากนั้นก็มีผู้ที่อ้างตัวว่า เป็นนักข่าวช่อง 3 ได้มาติดต่อขอซื้อโทรศัพท์มือถือที่ร้านจำนวน 1 เครื่อง ในราคา 1,500 บาท โดยบุคคลดังกล่าวได้จ่ายเงินล่วงหน้าไว้ก่อน 500 บาท ด้วยความรู้จักกัน เพราะเคยเห็นหน้าค่าตากันอยู่ ตนจึงไม่ได้ว่าอย่างไร

เมื่อเวลาผ่านไป ตนจึงได้โทรศัพท์ไปทวงถามยอดเงินค้างชำระ แต่บุคคลดังกล่าวกลับบอกว่า “ถ้าอยากได้เงินคืนให้ไปแจ้งความฟ้องร้องกันเอาเอง” ด้วยความรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี แต่เมื่อมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ทำให้ตนโมโหเป็นอย่างมาก จึงรีบเดินทางไปแจ้งความที่โรงพักไว้เป็นหลักฐาน

เมื่อตนได้มาแจ้งความ กลับถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้โทษฐานยักยอกทรัพย์ผู้อื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตอนตนได้ไปเป็นครูอาสาที่ภาคใต้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะถูกดำเนินคดี แต่เมื่อมีการจับกุมตนก็ยอมทำตามขั้นตอนของกระบวนการทางกฎหมาย แต่ตนได้ตั้งข้อสังเกตการทำงานของสื่อมวลชนหนังสือพิมพ์หัวสีบางฉบับ และสถานีโทรทัศน์บางช่อง ว่า สื่อมวลชนดังกล่าวได้มาทำข่าวตนที่ถูกจับถุม ต่างคนต่างถ่ายภาพ แต่ไม่มีผู้ใดมาสอบถามถึงรายละเอียด ที่มาที่ไปของการถูกดำเนินคดี ถ่ายภาพเสร็จก็เดินทางกลับกันอย่างรวดเร็ว ทำให้ข่าวที่ออกมาเสนอข้อเท็จจริงที่บิดเบือน

นายอัมรินทร์ กล่าวต่อว่า เท่าที่ศึกษามาทราบว่า รูปแบบการทำงานของสื่อมวลชน ต้องมีการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดจากทุกฝ่ายเพื่อให้ได้ประเด็นในการทำงานโดยไม่เอนเอียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ไม่เข้าใจว่า สื่อมวลชนที่มาทำข่าวตนนั้นได้ข้อมูลมาจากไหน เพราะไม่มีการสอบถามจากปากเลยแม้แต่น้อย ถ่ายเสร็จแล้วก็รีบกันกลับ

ตรงนี้ชี้ให้เห็นว่า สื่อมวลชนถูกกลืนกินได้โดยง่ายดายภายใต้ระบอบทักษิณ บางคนเป็นนักข่าวเพราะความโก้ แต่จิตวิญญาณของการทำงานแทบหาไม่ได้เลย ซึ่งก็จะพบกลุ่มเหลือบนักข่าวประเภทนี้อยู่เป็นจำนวนมากในทุกจังหวัดของประเทศ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับพวกโจรในคราบนักข่าว ทำให้มาตรฐานสื่อมวลชนของไทยเป็นที่น่าวิตกกังวลถ้าเปรียบเทียบกับมาตรฐานสื่อมวลชนประเทศอื่น

จึงอยากให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะบทบาทความเป็นคนในสังคมของแต่ละคนแตกต่างกัน ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง เพราะคนในชาติไม่รู้จักบทบาทของตัวเอง จึงวอนไปถึงนักข่าว และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ให้ตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดในการทำงาน ไม่ใช่ตกเป็นทาสของเงิน ตกเป็นทาสของระบอบ ซึ่งไม่ใช่คุณลักษณะที่ดี และไม่ใช่คุณสมบัติของสื่อมวลชน หรือคนที่ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชน
กำลังโหลดความคิดเห็น