พิษณุโลก - กรุแตกลามถึงวัดใหญ่ เจ้าอาวาส ระบุพบใต้พื้นพระอุโบสถของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) แต่ไม่ยอมเปิดให้บูชา ขณะที่กรมศิลปากรยืนยันเป็นพระสร้างใหม่ เพราะของเก่าจริงๆ เป็นพระเนื้อชินเงินที่ไม่มีเหลือแล้ว
รายงานข่าวจากจังหวัดพิษณุโลก แจ้งว่า กรณีที่ขุดพบพระเครื่องโบราณจำนวนมากบริเวณใต้พื้นพระอุโบสถ กำลังอยู่ระหว่างการบูรณะของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) ซึ่งเป็นวัดที่ประดิษฐานองค์พระพุทธชินราช และมีการนำพระเครื่องส่วนหนึ่งที่ได้จากการขุดพบมาเปิดให้บูชาตามแผงพระภายในวัด ในราคาองค์ละ 6,000 บาทนั้น
พระธรรมเสนานุวัตร รองเจ้าคณะภาค 5 และเจ้าอาวาสวัดใหญ่ ยอมรับว่าวัดใหญ่ได้บูรณะพระอุโบสถ มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2549 ที่ผ่านมาด้วยงบประมาณ 11 ล้านบาท จนกระทั่งเมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมา คนงานได้มีการขุดพบพระเครื่องจำนวน 9 ไห บริเวณใต้พื้นพระอุโบสถ ลึกจากผิวดินประมาณ 1 เมตร
วัดนำพระเครื่องทั้งหมดมาเก็บรักษา ประกอบด้วย พระพุทธชินราชเนื้อชินเงิน สภาพดีขึ้นเขียวมีคราบสนิม เนื่องจากน้ำไม่เข้า พระพุทธชินราชใบเสมาเล็ก เสมาใหญ่ และรุ่นพิเศษ พระพุทธชินราชเนื้อชินกรุวัดท่ามะปราง พระพุทธชินราชซุ้มระฆัง และพระนางพญาเนื้อดินซึ่งมีมากที่สุด
ทั้งนี้ คาดว่าเป็นพระเครื่องที่สร้างก่อนสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยพระวิสุทธิกษัตรีกับพระมหาธรรมราชา สร้างอุทิศแก่พระศรีสุริโยไท อายุกว่า 700 ปี และจากการพูดคุยกับทางกรมศิลปากรยืนยันว่า พระเครื่องดังกล่าวอยู่ในอำนาจของวัดใหญ่ แม้ว่าอุโบสถดังกล่าวจะมีการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน จากกรมศิลปากรมาก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม สำหรับพระเครื่องที่ขุดพบนี้ จะยังไม่มีการนำออกจำหน่าย แต่มีโครงการจะนำพระเนื้อชินอีกจำนวนมาก ที่จะขุดค้นบริเวณเนินดิน วิหารเก้าห้องเนินพระอัฏฐารสที่อยู่ติดกัน แล้วนำมารวมกับพระที่ขุดพบในครั้งนี้ จากนั้นจะนำพระเครื่องที่ขุดพบเข้าพิธีพุทธาภิเษกในเดือนพฤศจิกายน 2549 ก่อนจะพิจารณาเปิดให้ประชาชนบูชาต่อไป
ส่วนที่มีข่าวลือว่าที่แผงพระภายในวัดใหญ่ มีการซื้อขายพระเครื่องที่ขุดพบ ยืนยันว่าเป็นของเก๊ทั้งหมด เนื่องจากที่ผ่านมาได้แจกพระให้กับคนงานที่ขุดจำนวน 5 คนๆ ละพิมพ์ ประมาณ 20 องค์เท่านั้น
ด้านนายธาราพงศ์ ศรีสุชาติ ผอ.สำนักโบราณคดีที่ 6 สุโขทัย กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องว่ามีการขุดพบพระเครื่องดังกล่าว แต่ยืนยันว่าพระพุทธชินราชใบเสมาของเดิมไม่มีหลงเหลืออยู่ในบริเวณนั้นแล้ว แม้แต่บริเวณใต้เนินพระอัฎฐารส เพราะที่ผ่านมา กรมศิลปากรได้ขุดค้นก็ไม่พบว่ามีพระเครื่องดังกล่าวแต่อย่างใด พบเพียงเศษพระพุทธรูปสัมฤทธิ์แตกหักเท่านั้น
การขุดพบพระเครื่องดังกล่าว น่าจะเป็นคนรุ่นก่อนนำไปฝังและทำเครื่องหมายไว้ จึงไม่น่าจะเป็นพระเครื่องเก่าแก่ตามที่อ้างแน่นอน แต่ก็ถือว่าไม่ใช่พระที่เพิ่งทำขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะเหมือนกับบางวัด ที่มีการขุดพบพระเครื่องในลักษณะนี้มาก่อนหน้านี้นั่นเอง
ส่วนพระอุโบสถนั้นก็ไม่สามารถยืนยันว่าสร้างในสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพราะที่ผ่านมามีการบูรณะหลายครั้งจนไม่เหลือสภาพเดิม ซึ่งพระอุโบสถในสมัยอยุธยานั้นจะมีขนาดที่เล็กกว่านี้
แหล่งข่าวเซียนพระระบุว่า วัดใหญ่ยังไม่เปิดให้มีการบูชา ล่าสุดมีข่าวว่ามีบางองค์ราคาสูงถึงองค์ละ 50,000 บาท ท่ามกลางข่าวลือวงในยืนยันด้วยว่าในจำนวนพระเครื่องที่ขุดพบมีพระเครื่องที่เป็นพระเก่าสภาพดีจริงๆ เพียง 400 องค์เท่านั้น ที่เหลือ คือ พระที่มีตำหนิและอาจจะมีพระใหม่ปะปนอยู่