ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - บิ๊กโคราชก้นร้อน ทั้ง ผู้ว่าฯ–รองผู้ว่าฯ-นายกเล็ก นครราชสีมา ดาหน้าแจงโครงการประปาอื้อฉาว 3,700 ล้านบาท ย้ำเสียงสั่นโปร่งใสทุกขั้นตอน ตรวจสอบได้ ไม่มีล็อกสเปก และฮั้วการประมูลสังเวยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแน่นอน พร้อมจะตรวจสอบ 2 บริษัทนอมินีในรูปแบบของกิจการร่วมค้าให้กระจ่าง นายกเล็กโคราชโอดเป็นเกมการเมืองระดับชาติ ส่งผลกระทบต่อท้องถิ่น
ช่วงบ่ายวันนี้ (29 ส.ค.) ที่ห้องประชุมท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลาง จ.นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสมบูรณ์ งามลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายประชา จิตสุทธิผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายเชิดชัย โชครัตนชัย นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครราชสีมา และทีมงานบริหารเทศบาลนครราชสีมา ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีที่มีข่าวเรื่องการล็อกสเปกการประมูลจ้างหาผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการก่อสร้างระบบประปาขนาดใหญ่ มูลค่ากว่า 3,700 ล้านบาท ของเทศบาลนครนครราชสีมา
โดยได้นำเอกสารรายละเอียดโครงการมาแจกให้แก่สื่อมวลชนเพื่อประกอบการชี้แจงในครั้งนี้ด้วย และได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั้งส่วนกลางและท้องถิ่นเข้าร่วมทำข่าวเป็นจำนวนมาก
นายเชิดชัย โชครัตนชัย นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครราชสีมา ชี้แจงตามเอกสารว่า โครงการก่อสร้างระบบประปาขนาดใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมานั้น เป็นโครงการที่ต้องใช้ผู้ชำนาญและมีประสบการณ์ เนื่องจากมีความซับซ้อนหลายอย่าง คือ โครงการนี้ใช้งบประมาณก่อสร้าง 3,678 ล้านบาท แยกเป็นงานก่อสร้างสำคัญ 4 ส่วน ประกอบด้วย
1.ระบบน้ำดิบ มีสถานีสูบน้ำดิบและติดตั้งเครื่องสูบน้ำ, ท่อเหล็กเหนียวส่งน้ำดิบขนาด 1.20 เมตร ความยาวประมาณ 61.05 กม., ขนาด 1.10 ม. ความยาวประมาณ 5.5 กม.เพื่อส่งน้ำดิบจากเขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มายังโรงกรองน้ำแห่งใหม่ ที่ บ.ใหม่หนองบอน ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย ระยะทาง 70 กม.จำนวน 1,629 ล้านบาท
2.ระบบผลิตน้ำประปา ขนาดกำลังผลิต 4,400 ลบ.ม/ชม.ระบบกรองเร็ว, สระเก็บน้ำดิบจุ 299,000 ลบ.ม.ถังน้ำใสขนาด 22,000 ลบ.ม.ที่ บ.ใหม่หนองบอน ต.ด่านเกียน อ.โชคชัย ซึ่งเป็นโรงกรองที่ควบคุมด้วยระบอบคอมพิวเตอร์ จำนวน 733 ล้านบาท
3.ระบบจ่ายน้ำ มีท่อส่งน้ำประปาขนาด 1,000 มม.ความยาวประมาณ 13 กม.ขนาด 900 มม. ความยาวประมาณ 3 กม.เพื่อส่งน้ำประปาจากโรงกรอง บ.ใหม่หนองบอน เข้ามายังอ่างอัษฎางค์ อ. เมือง, ก่อสร้างสถานีสูบน้ำแห่งใหม่ประปาอัษฎางค์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ที่เก่าและชำรุดมากแล้ว เพื่อจ่ายน้ำเข้าสู่ระบบประปาในเขตเทศบาล จำนวน 717 ล้านบาท
และ 4.ระบบปรับปรุงขยายระบบท่อจ่ายน้ำ โดยมีท่อจ่ายน้ำขนาด 100-700 มม.ความยาว 30.5 กม.ระบบควบคุมการผลิตและจำหน่ายด้วยระบบดาวเทียม 597 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีค่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาควบคุมการก่อสร้างโครงการอีกราว 95 ล้านบาท รวมเป็นงบประมาณดำเนินโครงการทั้งสิ้น 3,771 ล้านบาท
“จะเห็นว่า งานก่อสร้างตามโครงการนี้ เป็นงานก่อสร้างระบบน้ำประปาขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เทคนิคขั้นสูง มีลักษณะเป็นงานเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งไม่เหมือนงานสาขาอื่นๆ เช่น งานอาคาร งานระบบบำบัดน้ำเสีย งานชลประทาน ฯลฯ จึงต้องกำหนดให้ผู้รับจ้างที่มีผลงานและประสบการณ์ในงานก่อสร้างระบบประปา มาเป็นผู้รับจ้างงานในโครงการนี้ จะเอาบริษัทในท้องถิ่นก็ไม่มีความสามารถพอที่จะดำเนินโครงการดังกล่าวนี้ได้” นายเชิดชัย กล่าว
สำหรับการกำหนดคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประมูลโครงการนั้น นายเชิดชัย กล่าวว่า ทางเทศบาลจำเป็นต้องกำหนดให้ผู้มีสิทธิยื่นข้อเสนอเป็นผู้มีผลงาน คือ จะต้องเคยผลิตน้ำประปา กำลังการผลิตไม่น้อยกว่า 1,000 คิว/ชม.มีท่อส่งน้ำระบบความดันชนิดท่อเหล็กเหนียว 800 มม.มีความยาว 10 กม.และท่อจ่ายน้ำประปาขนาด 100 มม., มีผลงานการก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปาเป็นเงินไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท นั้น
เนื่องจากเป็นผลงานองค์รวมของระบบประปาที่จะก่อสร้างในโครงการนี้ ประกอบด้วย ระบบน้ำดิบ ระบบผลิต และระบบจ่ายน้ำประปา ซึ่งผู้รับจ้างก่อสร้างสำหรับโครงการก่อสร้างระบบประปาขนาดใหญ่เป็นพิเศษ จำต้องมีประสบการณ์ครบทุกด้าน และการกำหนดผลงานครั้งนี้เป็นไปตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนมาก ที่ มท 0804/ว 1845 ลงวันที่ 2 มิ.ย.2546 เรื่องมาตรการป้องกันการสมยอมราคาในการประกวดราคาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกี่ยวกับการกำหนดผลงานไม่เกินร้อยละ 50 ของวงเงินที่จะจ้าง (มติ ครม.28 ธ.ค.2536) ซึ่งไม่ได้มีการคุณสมบัติสูง เพื่อกีดกันรายเล็กหรือล็อกสเปกให้รายใหญ่แต่อย่างใดและแต่ละคุณสมบัติไม่ได้กำหนดถึง 50% เลย
เช่น กำหนดคุณสมบัติเคยมีผลงานก่อสร้างวงเงิน 500 ล้านบาท คิดเป็น 13.60% ของวงเงินค่าก่อสร้างทั้งหมด 3,678 ล้านบาท, ระบบผลิตน้ำขนาดกำลังการผลิต 4,400 ลบ.ม./ชม. กำหนดไว้แค่ 22.73% คือ ต้องเคยผ่านงานด้านระบบการผลิตน้ำไม่น้อยกว่า 1,000 ลบ.ม./ชม., ท่อเหล็กเหนียวส่งน้ำดิบ กำหนดแค่ 15.30% ของงานก่อสร้างจริง, ท่อจ่ายน้ำกำหนดคุณสมบัติแค่ 32.7% เป็นต้น
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าล็อกสเปกให้เพียง 3 บริษัท เข้ายื่นประมูลนั้น ไม่เป็นความจริง ข้อเท็จจริงมีผู้ซื้อเอกสารโครงการ จำนวน 4 ราย จากที่ทางเทศบาลฯเชิญชวนเข้าร่วม 12 ราย ประกอบด้วย
1.บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)
2.กิจการร่วมค้า เอส เอ (บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท อาควาไทย จำกัด)
3.กิจการร่วมค้า 34 คอนสตรัคชั่น ( หจก.สามประสิทธิ์ กับบริษัท สี่แสงการโยธา (1979) จำกัด)
และ 4.บริษัท ศรีกลกิจ จำกัด
ทั้งนี้ การที่เทศบาลกำหนดเป็นกิจการร่วมค้า ถือเป็นการเปิดกว้างให้ผู้ที่มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนสามารถร่วมเข้าประมูลโดยไม่ปิดกั้น เพื่อให้มีผู้เข้าร่วมที่มีผลงานไม่ครบถ้วนทุกด้าน สามารถร่วมกันนำผลงานร่วมกันเพื่อให้มีผลงานได้ตามเกณฑ์ และเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมค้าเข้าร่วมได้ จึงไม่เป็นการปิดกั้นผู้รับจ้างแต่อย่างใด
“ยืนยันว่า การดำเนินการทุกขั้นตอนอยู่ในความดูแลของจังหวัดและคณะกรรมการอี-ออกชัน ทางเทศบาลนคนครราชสีมาไม่ได้ทำงานเพียงลำพัง มีส่วนอื่นๆ เข้ามาดูแลเพื่อให้เกิดความโปรงใส สามารถตรวจสอบได้ ขณะนี้ขั้นตอนการดำเนินการโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการที่คณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าประมูลคาดว่าจะแล้วเสร็จต้นเดือน ก.ย.นี้” นายเชิดชัย กล่าว
ส่วนการจะให้ตนยกเลิกการประมูลโครงการนี้นั้น ขอเรียนว่า โครงการนี้เสียเวลามานานแล้ว เทศบาลนครฯ ได้กันเงินไว้สำหรับโครงการนี้ 2 ปีงบประมาณแล้ว หากล่าช้าออกไปอีกจะทำให้เกิดความเสียหายขึ้นกับประชาชนชาวโคราชที่จะไม่มีน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคได้ในอนาคตฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะยกเลิกโครงการดังกล่าว” นายเชิดชัย กล่าว
ต่อข้อถามถึงกรณีที่ทางเทศบาลได้กู้เงินจากสถาบันการเงิน และ กสท.(กองทุนส่งเสริมกิจการเทศบาล) มากว่า 700 ล้านบาท เพื่อสมทบกับเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติจาก ครม.กว่า 2,660 ล้านบาท ซึ่งมีระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ 15-20 ปีนั้น จะเป็นการสร้างภาระหนี้สินให้กับเทศบาลนครนครราชสีมาหรือไม่ เพราะปัจจุบันเทศบาลยังมีภาระหนี้สินเกี่ยวระบบประปาอยู่หลายร้อยล้านบาท ว่า ตนเองเข้ามาก็มาใช้หนี้ของคณะผู้บริหารชุดเก่าเช่นกัน เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องสานงานต่อ ก่องานใหม่ แต่ทั้งนี้ได้ศึกษาความสามารถในการชำระหนี้ของเทศบาลนครฯ ไว้แล้ว พอที่จะมีกำลังในการจ่ายได้ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด คนมารับก็ต้องสานงานต่อไป และการทำเช่นนี้ก็ถือว่าไม่ผิดระเบียบหรือกติกาแต่อย่างใด
“เรื่องที่เกิดขึ้นไม่อยากให้เป็นเกมการเมืองระดับชาติ แล้วส่งผลกระทบถึงท้องถิ่นสร้างความเสียหายให้กับประชาชน ชาวโคราชเพราะโครงการนี้ล่าช้ามานานแล้ว ซึ่งผมกำลังติดต่อขอเข้าชี้แจงทุกประเด็นกับพรรคประชาธิปัตย์สาขานครราชสีมาโดยตรง ในฐานะที่เป็นผู้ที่ติดตามตรวจสอบและนำเรื่องนี้ออกมาเผยแพร่” นายเชิดชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายเชิดชัย ไม่สามารถตอบคำถามได้อย่างชัดเจนกรณี หจก. สามประสิทธิ์ ซึ่งอยู่กิจการร่วมค้า 34 ผู้เข้าร่วมประมูลรายที่ 3 เป็นบริษัทที่เกี่ยวพันกับ บริษัท ศรีกลกิจ จำกัด ผู้เข้าร่วมประมูลรายที่ 4
ด้าน นายสมบูรณ์ งามลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า โครงการดังกล่าวนี้ถือเป็นโครงการที่มีความสำคัญกับชาวโคราชอย่างยิ่งและเป็นโครงการใหญ่ใช้งบประมาณก่อสร้างสูงถึง 3,700 ล้านบาท ซึ่งเป็น การบริหารจัดการน้ำด้วยการหาแหล่งน้ำใหม่คือจากเขื่อนลำแชะ อ.ครบุรีมา ใช้สำหรับอุปโภคบริโภคในเขตเมืองโคราช เพื่อให้แหล่งน้ำดิบเดิมคือ อ่างเก็บน้ำลำตะคอง สามารถนำไปใช้ในด้านอุตสาหกรรม และการเกษตรได้มากขึ้น ซึ่งโคราชจะมีการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรม และการผลิตด้านการเกษตรเพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคตอันใกล้นี้
อย่างไรก็ตาม ถือเป็นเรื่องที่ดีที่มีภาคการเมืองและสื่อมวลชนเข้ามาตั้งข้อสังเกตและจับตามองโครงการนี้ เพื่อจะได้ให้การดำเนินงานเป็นไปอย่าง ถูกต้อง ตามระเบียบ ซึ่งตนได้สั่งการให้นายประชา จิตสุทธิผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงไปดูแลเรื่องนี้ด้วยตนเอง และทำให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจว่าไม่มีการฮั้วกันเกิดขึ้น และให้ตรวจสอบคุณสมบัติของบริษัทที่ยื่นซองประมูลทั้ง 4 ราย อย่างละเอียด
ขณะที่นายประชา จิตสุทธิผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินการเปิดประมูลระบบอีเล็คทรอนิกส์ โครงการก่อสร้างระบบผลิตประปา 3,700 ล้านดังกล่าวเปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจากผู้ว่าฯ ให้มาดูแลเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งที่ผ่านมาจากที่ได้ติดตามโครงการนี้มาโดยตลอดอย่างใกล้ชิดยังไม่เคยได้รับเรื่องร้องเรียนเข้ามาเลย ยืนยันว่าการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ จะทำให้โปร่งใส ไม่ให้มีข้อครหาว่าจะมีการฮั้วการประมูลเกิดขึ้น
และในวันที่ 5 ก.ย.2549 นี้ เป็นวันกำหนดยื่นเอกสารการประมูลทั้งหมดของผู้เข้าร่วมประมูล ซึ่งจะทำให้ทราบว่าจะมีบริษัทอะไรเข้าร่วมประมูลบ้าง โดยจะทำการเคาะประมูลแบบอี-อ๊อกชั่นในวันที่ 20 ก.ย. นี้ ทั้งนี้ในวันดังกล่าว ทางคณะกรรมการฯ จะเชิญตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทั้งสื่อมวลชนทุกแขนงเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย
ส่วนกรณีผู้แสดงความจำนงเข้าร่วมประมูลโครงการฯ รายที่ 3 คือ กิจการร่วมค้า 34 คอนสตรัคชั่น ที่มี หจก.สามประสิทธิ์ ร่วมอยู่ด้วยและมีความเกี่ยวพันกับรายที่ 4 คือบริษัท ศรีกลกล จำกัด นั้น ตนจะเสนอให้คณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประมูลดำเนินการตรวจสอบทั้ง 2 บริษัท อย่างละเอียด
“กรณีดังกล่าวได้มีระเบียบกำหนดไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้วหากพบว่ามีความเกี่ยวเนื่องกันจริงและผิดระเบียบกฎหมายก็จะถูกตัดออกจากการประมูลครั้งนี้อย่างแน่นอน” นายประชา กล่าว
