ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองแปดริ้ว กลายเป็นดินแดนป่าเถื่อนสุดสยองขวัญ หลังพบศพผู้คนถูกฆ่าตายเป็นเบือ ทิ้งหมกศพกลางป่าเป็นผักปลาเกลื่อนพื้นที่ ล่าสุด วันนี้เจออีกวันเดียวสองรายคู่ ด้านเจ้าหน้าที่ส่อแววเก็บคดีเงียบอีกเช่นเคย อ้างพบหลักฐานในที่เกิดเหตุน้อย ยากต่อการควานหาตัวคนร้าย
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วันนี้ (29 ส.ค.) พ.ต.ท.ธงชัย รัตนเจริญทรัพย์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งมีผู้พบศพชายนิรนาม ถูกฆ่าทิ้งอยู่ในป่าท่ามกลางหุบเขา หมู่บ้านธัมรัตน์ใน ม.6 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จึงเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุเป็นป่าหญ้ารกทึบ ริมทางเป็นลูกรังท่ามกลางหุบเขาไม้หอม สลับสวนป่ายูคาลิปตัส พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายผิวดำแดงรูปร่างท้วม ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ตัดผมรองทรง อายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป สูงประมาณ 170 ซม.นอนเสียชีวิตในลักษณะคว่ำหน้า ที่ท้ายทอยมีบาดแผลคล้ายรอยถูกตีด้วยของแข็ง บริเวณที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือพบหลักฐานใดๆ ติดตัวผู้เสียชีวิต
พ.ต.ท.ธงชัย กล่าวว่า จากการชันสูตร ยังไม่พบร่องรอยบาดแผลการถูกทำร้ายที่เด่นชัด คาดว่า เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 วัน ซึ่งจะให้หน่วยกู้ภัยพนมฯ นำส่งสถาบันนิติเวชชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตนั้น ตั้งประเด็นไว้สองประเด็น คือ ผู้เสียชีวิตอาจเป็นลมเสียชีวิตเองในที่เกิดเหตุ หรืออาจถูกฆ่ามาจากที่อื่น แล้วนำศพมาทิ้ง เพราะไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือเอกสารหลักฐานติดตัว
นอกจากนี้ คนในพื้นที่ไม่รู้จักว่าผู้ตายเป็นใคร โดยขณะพบศพมีเพียงคนงานรับจ้างถางหญ้าในสวนป่ายูคาฯ เป็นผู้เข้ามาพบศพเท่านั้น
และเมื่อเวลา 12.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจที่เกิดเหตุ ที่พบศพรายแรกนั้น ได้มีชาวบ้านเข้ามาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่า พบศพโครงกระดูกมนุษย์ภายในป่ายูคาฯ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดพบศพรายแรกประมาณ 2 กม.เศษ อีก 1 ราย ไม่ทราบอายุ เพศ และไม่พบหลักฐานเอกสารติดตัว รวมทั้งชิ้นส่วนเสื้อผ้าในที่เกิดเหตุ พบเพียงโครงกระดูกกองอยู่บนพื้นดิน สภาพเกือบเต็มตัว คือ ชิ้นส่วนหัวกระโหลกเต็มใบ กรามล่าง ซี่โครงข้างละ 15 ชิ้น กระดูกสันหลัง กระดูกก้นกบ กระดูกขาท่อนบนสองข้าง แขนท่อนบน 1 ชิ้น โดยมีบางชิ้นส่วนขาดหายไป ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า เกิดจากสัตว์ที่ออกหากินในบริเวณนั้น คาบไปแทะกัดกิน และเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 เดือน
พ.ต.อ.ธนสาร สุริวงศ์ ผกก. สภ.อ.ท่าตะเกียบ กล่าวว่า หลังการตรวจที่เกิดเหตุทั้ง 2 ราย ไม่พบหลักฐานตกในที่เกิดเหตุ และร่องรอยการต่อสู้ จึงคาดว่า น่าจะเป็นการนำศพมาทิ้งจากที่อื่น เพื่อเป็นการอำพรางคดี เพราะสภาพที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่เปลี่ยวกลางป่ายูคาฯ และไม่มีผู้คนสัญจรผ่าน จึงง่ายต่อการนำศพมาทิ้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เกิดเหตุพบศพชายหญิงนิรนามถูกฆ่านำศพมาทิ้งในที่เปลี่ยวกลางป่าบ่อยครั้ง อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ส.ค.2549 เวลา 12.00 น. พ.ต.ท.มาโนช คงขวัญ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งพบศพหญิงสาวนิรนาม อายุประมาณไม่เกิน 20 ปี ผมสีดำทอง สไลด์ทรงสั้นคล้ายทรงผมของนักเรียนหญิง สูงประมาณ 160 ซม.ถูกฆ่าเปลือยหมกศพทิ้งกลางป่ายูคาลิปตัส ในพื้นที่ ม.3 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม หลังการชันสูตรของเจ้าหน้าที่ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 15 วัน และส่งศพไปตรวจชันสูตรอีกครั้งยังสถาบันนิติเวช
ก่อนหน้านั้น ในวันอาทิตย์ที่ 20 ส.ค.2549 เวลา 08.15 น. ร.ต.ต.ชัยยศ คงเดช ร้อยเวรสอบสวน สภ.อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งพบศพชายนิรนามถูกฆ่าเปลือย นอนเสียชีวิต อยู่ภายในไร่มันสำปะหลัง ริมถนนสาย 304 เลี่ยงเมือง แปลงยาว- เขาหินซ้อน ฝั่งมุ่งหน้าไปเขาหินซ้อน ใกล้กับบ่อลูกรังโพธิ์เดี่ยว ม.12 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดพบศพหญิงสาวถูกฆ่าเปลือยประมาณ 10 กม.
ในเดือนเดียวกันนี้ เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์เศษที่ผ่านมา วันที่ 11 ส.ค.2549 เวลา 16.00 พ.ต.ท.พิศาล ลิ้มมณี สารวัตรเวรสอบสวน สภ.อ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุ พบศพหญิงสาวนิรนามผิวขาว ผมยาว อายุระหว่าง 15-25 ปี สูงประมาณ 150 ซม. ถูกฆ่าเปลือยมัดถ่วงน้ำที่บริเวณเชิงสะพานเลี่ยงเมือง ถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ฝั่งขาออก ม.4 ต.บางพระ อ.เมือง ฉะเชิงเทรา
ด้าน พล.ต.ต.บวร นันทยาวงศ์ ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้กล่าวถึงคดีการพบศพถูกนำมาทิ้งในพื้นที่บ่อยครั้ง ว่า เจ้าหน้าที่พบหลักฐานในที่เกิดเหตุน้อยมาก จึงยากต่อการติดตามคนร้ายผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี และศพอยู่ในสภาพเน่าเปื่อย จนไม่สามารถเก็บหลักฐานได้เพียงพอ ที่จะส่งไปตรวจพิสูจน์ได้ ตลอดจนญาติผู้เสียชีวิตไม่ปรากฏตัว หรือติดต่อยืนยันศพ เพื่อให้ได้ทราบเบาะแสแหล่งที่มาของคนร้าย แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนหาทางคลี่คลายคดีอยู่
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วันนี้ (29 ส.ค.) พ.ต.ท.ธงชัย รัตนเจริญทรัพย์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งมีผู้พบศพชายนิรนาม ถูกฆ่าทิ้งอยู่ในป่าท่ามกลางหุบเขา หมู่บ้านธัมรัตน์ใน ม.6 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จึงเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุเป็นป่าหญ้ารกทึบ ริมทางเป็นลูกรังท่ามกลางหุบเขาไม้หอม สลับสวนป่ายูคาลิปตัส พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายผิวดำแดงรูปร่างท้วม ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ตัดผมรองทรง อายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป สูงประมาณ 170 ซม.นอนเสียชีวิตในลักษณะคว่ำหน้า ที่ท้ายทอยมีบาดแผลคล้ายรอยถูกตีด้วยของแข็ง บริเวณที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือพบหลักฐานใดๆ ติดตัวผู้เสียชีวิต
พ.ต.ท.ธงชัย กล่าวว่า จากการชันสูตร ยังไม่พบร่องรอยบาดแผลการถูกทำร้ายที่เด่นชัด คาดว่า เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 วัน ซึ่งจะให้หน่วยกู้ภัยพนมฯ นำส่งสถาบันนิติเวชชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตนั้น ตั้งประเด็นไว้สองประเด็น คือ ผู้เสียชีวิตอาจเป็นลมเสียชีวิตเองในที่เกิดเหตุ หรืออาจถูกฆ่ามาจากที่อื่น แล้วนำศพมาทิ้ง เพราะไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือเอกสารหลักฐานติดตัว
นอกจากนี้ คนในพื้นที่ไม่รู้จักว่าผู้ตายเป็นใคร โดยขณะพบศพมีเพียงคนงานรับจ้างถางหญ้าในสวนป่ายูคาฯ เป็นผู้เข้ามาพบศพเท่านั้น
และเมื่อเวลา 12.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจที่เกิดเหตุ ที่พบศพรายแรกนั้น ได้มีชาวบ้านเข้ามาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่า พบศพโครงกระดูกมนุษย์ภายในป่ายูคาฯ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดพบศพรายแรกประมาณ 2 กม.เศษ อีก 1 ราย ไม่ทราบอายุ เพศ และไม่พบหลักฐานเอกสารติดตัว รวมทั้งชิ้นส่วนเสื้อผ้าในที่เกิดเหตุ พบเพียงโครงกระดูกกองอยู่บนพื้นดิน สภาพเกือบเต็มตัว คือ ชิ้นส่วนหัวกระโหลกเต็มใบ กรามล่าง ซี่โครงข้างละ 15 ชิ้น กระดูกสันหลัง กระดูกก้นกบ กระดูกขาท่อนบนสองข้าง แขนท่อนบน 1 ชิ้น โดยมีบางชิ้นส่วนขาดหายไป ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า เกิดจากสัตว์ที่ออกหากินในบริเวณนั้น คาบไปแทะกัดกิน และเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 เดือน
พ.ต.อ.ธนสาร สุริวงศ์ ผกก. สภ.อ.ท่าตะเกียบ กล่าวว่า หลังการตรวจที่เกิดเหตุทั้ง 2 ราย ไม่พบหลักฐานตกในที่เกิดเหตุ และร่องรอยการต่อสู้ จึงคาดว่า น่าจะเป็นการนำศพมาทิ้งจากที่อื่น เพื่อเป็นการอำพรางคดี เพราะสภาพที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่เปลี่ยวกลางป่ายูคาฯ และไม่มีผู้คนสัญจรผ่าน จึงง่ายต่อการนำศพมาทิ้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เกิดเหตุพบศพชายหญิงนิรนามถูกฆ่านำศพมาทิ้งในที่เปลี่ยวกลางป่าบ่อยครั้ง อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ส.ค.2549 เวลา 12.00 น. พ.ต.ท.มาโนช คงขวัญ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งพบศพหญิงสาวนิรนาม อายุประมาณไม่เกิน 20 ปี ผมสีดำทอง สไลด์ทรงสั้นคล้ายทรงผมของนักเรียนหญิง สูงประมาณ 160 ซม.ถูกฆ่าเปลือยหมกศพทิ้งกลางป่ายูคาลิปตัส ในพื้นที่ ม.3 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม หลังการชันสูตรของเจ้าหน้าที่ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 15 วัน และส่งศพไปตรวจชันสูตรอีกครั้งยังสถาบันนิติเวช
ก่อนหน้านั้น ในวันอาทิตย์ที่ 20 ส.ค.2549 เวลา 08.15 น. ร.ต.ต.ชัยยศ คงเดช ร้อยเวรสอบสวน สภ.อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งพบศพชายนิรนามถูกฆ่าเปลือย นอนเสียชีวิต อยู่ภายในไร่มันสำปะหลัง ริมถนนสาย 304 เลี่ยงเมือง แปลงยาว- เขาหินซ้อน ฝั่งมุ่งหน้าไปเขาหินซ้อน ใกล้กับบ่อลูกรังโพธิ์เดี่ยว ม.12 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดพบศพหญิงสาวถูกฆ่าเปลือยประมาณ 10 กม.
ในเดือนเดียวกันนี้ เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์เศษที่ผ่านมา วันที่ 11 ส.ค.2549 เวลา 16.00 พ.ต.ท.พิศาล ลิ้มมณี สารวัตรเวรสอบสวน สภ.อ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุ พบศพหญิงสาวนิรนามผิวขาว ผมยาว อายุระหว่าง 15-25 ปี สูงประมาณ 150 ซม. ถูกฆ่าเปลือยมัดถ่วงน้ำที่บริเวณเชิงสะพานเลี่ยงเมือง ถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ฝั่งขาออก ม.4 ต.บางพระ อ.เมือง ฉะเชิงเทรา
ด้าน พล.ต.ต.บวร นันทยาวงศ์ ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้กล่าวถึงคดีการพบศพถูกนำมาทิ้งในพื้นที่บ่อยครั้ง ว่า เจ้าหน้าที่พบหลักฐานในที่เกิดเหตุน้อยมาก จึงยากต่อการติดตามคนร้ายผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี และศพอยู่ในสภาพเน่าเปื่อย จนไม่สามารถเก็บหลักฐานได้เพียงพอ ที่จะส่งไปตรวจพิสูจน์ได้ ตลอดจนญาติผู้เสียชีวิตไม่ปรากฏตัว หรือติดต่อยืนยันศพ เพื่อให้ได้ทราบเบาะแสแหล่งที่มาของคนร้าย แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนหาทางคลี่คลายคดีอยู่