xs
xsm
sm
md
lg

เลือกตั้งระยองไร้เงา “เสี่ยช้าง” แห่งชาติไทย เหลือ 2 พรรคใหญ่ ปชป.- ทรท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสาธิต  ปิตุเตชะ
ศูนย์ข่าวศรีราชา - การเลือกตั้งสมัยหน้าจังหวัดระยอง คาดไร้เงา อดีต ส.ส.3 รุ่นลายคราม อย่าง “ปิยะ ปิตุเตชะ” แห่งพรรคชาติไทย เหลือเพียง 2 พรรคใหญ่ประชาธิปัตย์ ชิงชัยกับไทยรักไทย คอการเมืองคาดเป็นอีกหนึ่งสนามที่น่าจับตา 2 ตระกูล ดังจากค่าย “ปิตุเตชะ” ปะทะ “อรุณเวสสะเศรษฐ”

สนามเลือกตั้งจังหวัดระยอง ผู้ที่จะลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดระยอง ซึ่งคาดว่า จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ จังหวัดระยองแบ่งเขตการเลือกตั้งออกเป็น 4 เขต มี 2 พรรคการเมืองใหญ่ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ที่จะส่งผู้สมัครเลือกตั้ง ส่วนพรรคอื่นยังไม่ทราบชื่อผู้ที่จะลงสมัครแน่นอน

พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กรรมการบริหารพรรค เคยผ่านหลักสูตรการอบรมผู้บริหารพรรคการเมือง อดีตกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณปี 2547 จบปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์ นโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยบูรพา นับเป็น ส.ส.หนุ่มไฟแรงคนหนึ่ง ประวัติในอดีตเคยเป็นสมาชิกสภาจังหวัดระยอง (ส.อบจ.) เขต อ.เมืองระยอง และในปี 2544 ลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรกชนะ นายยงยศ อรุณเวสสะเศรษฐ ส.ส.พรรคไทยรักไทย ซึ่งเคยเป็น ส.ส.มาหลายสมัยด้วยคะแนนกว่าหนึ่งหมื่นคะแนนพลิกความคาดหมาย

ส่วนการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี 2548 ที่ผ่านมา นายสาธิต กลับพ่ายแพ้ นายยงยศ หนึ่งพันกว่าคะแนน นายสาธิต เป็นน้องชาย นายปิยะ ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.เขต 3 ระยอง พรรคชาติไทย ปัจจุบันหลีกทางให้ นายธารา ปิตุเตชะ ลงสมัคร ส.ส.เขต 3 แทน และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในนามพรรคไทยรักไทย สำหรับ นายปิยะ กำลังเตรียมตัวลงสมัครนายก อบจ.ระยอง ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในราวกลางเดือนกันยายนนี้ หลังจากนายก อบจ.ยื่นหนังสือลาออก และมีน้องชายอีกคน คือ นายเศรษฐา ปิตุเตชะ ปัจจุบันเป็นสมาชิกสภาจังหวัด นายสาคร ปิตุเตชะ อดีตกำนันตำบลบางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เรียกว่า ตระกูลปิตุเตชะ มีฐานเสียงที่แน่นปึ้ก

นายยงยศ  อรุณเวสสะเศรษฐ
เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ส่ง นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ลงสมัครแน่นอน ผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2548 ที่ผ่านมา นพ.บัญญัติ ลงสมัคร ส.ส.เป็นครั้งแรก พ่ายแพ้ ร.ต.กฤษฎา การุญ เพียง 200 คะแนนเศษเท่านั้น การเลือกตั้งคราวหน้าเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดแน่นอน เพราะ ร.ต.กฤษฎา เป็นบุตรชายของ นายเสริมศักดิ์ การุญ อดีต ส.ส.ระยอง หลายสมัย อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

นพ.บัญญัติ สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับอนุมัติบัตรเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาเวชศาสตร์ครอบครัว จากแพทยสภา รับราชการแพทย์ประจำโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี แพทย์ประจำโรงพยาบาลแกลง จ.ระยอง ปัจจุบันเปิดคลินิกส่วนตัว ที่ผ่านมา เคยได้รับสมญานามจากชาว อ.แกลง ว่า หมอใจบุญ รักษาคนยากจนฟรีมาตลอด

นพ.บัญญัติ ในอดีตไม่เคยลงเล่นการเมืองท้องถิ่นมาก่อน แต่ นายสาธิต ปิตุเตชะ ผลักดันให้มาลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ เป็นครั้งแรกในปี 2548 เนื่องจากมีฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ในเขต 2 เรียกร้องให้ลงแข่งกับ ร.ต.กฤษฎา การุญ อดีต ส.ส.ที่มีบิดาเป็นนักการเมืองรุ่นลายครามหลายสมัย อดีต ส.ส.หลายสมัยและอดีตรัฐมนตรีช่วย กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี คือ นายเสริมศักดิ์ การุญ แทบกระอักเป็นเลือด เพราะชนะเพียง 200 กว่าคะแนนเท่านั้น และช่วงที่อยู่ระหว่างนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งก็เกิดไฟฟ้าดับมืด นับว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้จึงเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดแน่นอนในเขตนี้

เขต 3 นายมานพ เสถียรเขตต์ อาชีพทนายความ เคยลงสมัคร ส.ส.เขต 3 ในนามพรรคประชาธิปัตย์สมัยที่แล้ว แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง เนื่องจากบรรดาผู้ที่ให้การสนับสนุนต่างหันไปช่วยคู่แข่ง ต้องเดินหาเสียงด้วยตนเองจนชาวบ้านเห็นใจเทคะแนนให้กว่าสองหมื่นคะแนน นายมานพ จบการศึกษาปริญญาตรี นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ปริญญาโท มหาวิทยาลัยบูรพา

เขต 4 พรรค ปชป.นายวิชัย ล้ำสุทธิ หรือ “จ่าตู่” อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.กิ่ง อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ปัจจุบันเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ระยอง สมัยที่สองลาออกมาเล่นการเมืองท้องถิ่นครั้งแรกปี 2543 ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.อบจ.จนครบวาระ ลงเลือกตั้งสมัยที่ 2 ก็ได้รับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน จบการศึกษาระดับปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีปทุม ปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ปัจจุบันกำลังศึกษาระดับปริญญาเอก นิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ฐานคะแนนเสียงส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กิ่ง อ.นิคมพัฒนา และได้แรงสนับสนุนจาก นายปิยะ ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.3 สมัย
นายปิยะ ปิตุเตชะ
ส่วนพรรคไทยรักไทย คู่ปรับพรรคประชาธิปัตย์ ส่งผู้ลงสมัคร เขต 1 อ.เมืองระยอง คือ นายยงยศ อรุณเวสสะเศรษฐ อดีต ส.ส.หลายสมัย แต่ก็เคยพ่ายแพ้นายสาธิตเมื่อการเลือกตั้งเมื่อปี 2544 มาแล้ว แต่การเลือกตั้งในปี 2548 นายยงยศ สามารถเอาชนะนายสาธิต เพียงหนึ่งพันคะแนนเศษเท่านั้น นายยงยศ มีพี่ชายและน้องชายเป็นนักการเมืองท้องถิ่นหลายคน รวมทั้งมีพี่สาว อย่าง นางกิมห่อ ลี้เซ่งเฮง ที่ชาวบ้านเรียกว่า “ป้าห่อ” คนดังบ้านเพ ซึ่งมีฐานคะแนนเสียงในเขต อ.เมืองระยอง และอำเภอใกล้เคียงหนาแน่น

มีพี่ชายชื่อ นายไพบูลย์ อรุณเวสสะเศรษฐ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ปัจจุบันเป็นรองนายก อบจ.เนื่องจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีการเลือกตั้งนายก อบจ.ถึง 3 ครั้ง นายไพบูลย์ ก็ไม่ได้รับเลือกตั้งกลับพ่ายแพ้ นายบารมี สอนเกิดสุข ลูกน้องเก่า ที่ประชาชนเทคะแนนให้อย่างถล่มทลาย ทำให้ นายบารมี ลูกน้องเก่า นั่งตำแหน่งนายก อบจ. ทำให้ตระกูลอรุณเวสสะเศรษฐ เสียรังวัด และเมื่อเร็วๆ นี้ นายบารมี สอนเกิดสุข นายก แอบไปยื่นหนังสือลาออกกับ นายเสนอ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง อย่างเงียบๆ ซึ่งก็จะมีการเลือกตั้งใหม่ในเร็วๆ นี้

นายยงยศ ยังมีพี่ชายอีกคน คือ นายไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ นายกเทศมนตรี ต.เพ หลายสมัย เรียกว่า ฐานคะแนนเสียงที่จะเทให้ นายยงยศ ยังมีท่วมท้นเฉพาะ ต.เพ และยังมีน้องชายอีกคน คือ นายยานยนต์ อรุณเวสสะเศรษฐ ปัจจุบันเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง แต่ก็ไม่โดดเด่นในวงการเมืองเป็นเพียงไม้ประดับในสภาเท่านั้น

เขต 2 คงหนีไม่พ้น ร.ต.กฤษฎา การุญ อดีต ส.ส.เขต 2 พรรคไทยรักไทย ปัจจุบันมีอายุเพียง 30 ปีเศษเท่านั้น นับว่า เป็น ส.ส.หนุ่ม แต่ไม่ค่อยมีไฟ ต้องคอยอาศัยนายเสริมศักดิ์ การุญ บิดาคอยเป็นโค้ชให้ตลอดเวลาเรียกว่ายังไม่รู้จักโตจบการศึกษานิติศาสตร์บัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง เคยรับราชการทหารบก สังกัดสำนักงานตรวจบัญชีกลาโหมช่วยราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ส่วนฐานคะแนนเสียงที่จะได้จาก นายสิน กุมภะ อดีต ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จ.ระยอง พรรคไทยรักไทย และผู้นำท้องถิ่น

แต่การเลือกตั้งสมัยที่แล้วหัวคะแนนต่างเทคะแนนให้คู่แข่งอย่าง นายแพทย์บัญญัติ ท่วมท้นทำให้ผลคะแนนสูสี เลือกตั้งคราวนี้ถ้าอุดหัวคะแนนไม่ไหวก็คงเสียตำแหน่งแน่นอน

เขต 3 เช่นเดียวกัน นายธารา ปิตุเตชะ หรือชาวบ้านเรียกว่า “เสี่ยทุ่น” อดีต ส.ส.สมัยที่แล้ว การเลือกตั้งคราวนี้ดูแล้วคู่แข่งยังไม่มีใครที่จะเทียบบารมีได้ เพราะฐานคะแนนเสียงที่ อ.บ้านค่าย อ.ปลวกแดง กิ่ง อ.เขาชะเมา เป็นฐานคะแนนของ นายปิยะ ปิตุเตชะ มาก่อน เรียกว่าบารมีของ นายสาคร ปิตุเตชะ อดีตกำนันคนดังบ้านค่ายยังครองใจชาวบ้าน ทั้งที่ นายธารา ไม่เคยเล่นการเมืองท้องถิ่นมาก่อน อยู่ๆ นายปิยะ ก็เปิดทางให้ นายธารา ลงสมัคร ส.ส.แทนในเขต 3 ผลคะแนนในการเลือกตั้งเมื่อปี 2548 เอาชนะคู่แข่งถึงสองหมื่นกว่าคะแนน เรียกว่า เขต 3 นายธารายังคงต้องเป็น ส.ส.อีกหลายสมัย นายธารา จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากสถาบันราชภัฏรำไพพรรณี

เขต 4 พรรคไทยรักไทย นายปราโมทย์ วีระพันธ์ อดีต ส.ส.เขต 3 เพราะผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2548 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรกของนายปราโมทย์ ได้คะแนนถึงสามหมื่นกว่าคะแนนชนะคู่แข่งกว่าสองหมื่นคะแนน นายปราโมทย์ จบการศึกษาปริญญาตรี ศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ลงเล่นการเมืองท้องถิ่นครั้งแรกเมื่อปี 2535 ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) ตำบลมาบตาพุด เทศมนตรีสาธารณสุข เทศมนตรีโยธา และนายกเทศมนตรีตำบลมาบตาพุดตามลำดับ

หลังจากนั้น ในปี 2545 เป็นการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีโดยตรง นายปราโมทย์ ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด และในปี 2546-2547 เป็นที่ปรึกษานายกเทศมนตรี จากนั้นได้หันมาเล่นการเมืองสนามใหญ่และได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. สมัยแรกและสมัยที่สองติดต่อกัน ฐานคะแนนเสียงส่วนใหญ่เป็นผู้นำชุมชนที่ให้การสนับสนุนนายปราโมทย์มาตลอด

กำลังโหลดความคิดเห็น