ศูนย์ข่าวศรีราชา -แย่งธุรกิจประมูลขายข้าวแกงในโรงงาน ถึงขั้นนองเลือด ดักรัวอาก้าใส่รถพรุนทั้งคัน หวังเอาชีวิตแม่ค้าขายข้าวแกง ลูกสาว-ลูกเขย หลานในท้องรับเคราะห์ดับแทนท้องกลม “จงรัก” ฟันธง ปมเหตุแค่เรื่องส่วนตัว
วันนี้ (18 ส.ค.) เวลา 03.05 น.พ.ต.ต.เฉลิมฉัตร นาคเสน สารวัตรเวรสอบสวน สภ.อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้าย ใช้อาวุธสงครามซุ่มยิงรถแม่ค้าขายข้าวแกง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณเชิงสะพานคลองอ้อม ริมถนนสายบางนา-ตราด ระหว่าง กม.41-42 ฝั่งขาออกมุ่งหน้าชลบุรี ม.12 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
ในที่เกิดเหตุบริเวณคอสะพาน พบรถยนต์กระบะแค็บ มิตซูบิชิ ไทรตัน สีฟ้า หมายเลขทะเบียน บธ-6598 ฉช จอดอยู่ในลักษณะขวางลำปิดช่องทางเลี้ยวจากใต้สะพาน ขึ้นสู่ตัวสะพานถูกยิงด้วยอาวุธสงครามจากมุมหน้ารถด้านขวา ทะลุออกด้านข้างกระบะแค็บด้านซ้ายเป็นรอยกระสุนจนพรุนทั่วทั้งคันกว่า 20 นัด ภายในรถมีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ราย ทราบชื่อต่อมา คือ นายนาวิน วัฒนศิริ อายุ 22 ปี นั่งอยู่ในเบาะหน้าด้านซ้าย และนางเทียนทิพย์ ยิ่งดี อายุ 19 ปี นั่งอยู่ในเบาะแค็บด้านหลัง ถูกกระสุนปืนอาวุธสงครามยิงจนพรุนทั่วทั้งร่าง
นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย คือ นายชูชาติ แขกอ้น (ป้อม) อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/20 ม.12 ต.บางปะกง คนขับถูกยิงที่ต้นแขนขวา 1 นัด และมีรอยกระสุนถากเป็นรอยถลอกที่หน้าอก และแผ่นหลัง ส่วนผู้ที่นั่งมาในรถด้านเบาะแค็บหลัง คนขับอีก 1 คน คือ นางสิริมา ยิ่งดี (ติ๋ม) อายุ 38 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบสวน นางสิริมา กล่าวว่า ตนมีอาชีพขายข้าวแกง ในโรงงานพาวเวอร์เชฟ ในเขตพื้นที่ตำบลบางวัว อ.บางปะกง ขณะเกิดเหตุคนในครอบครัว ประกอบด้วย สามี ลูกสาว และลูกเขย รวม 4 คน กำลังออกเดินทางจากบ้านไปซื้อของยังตลาดสด ที่ตลาดล่างบางปะกง เพื่อไปทำกับข้าวขายภายในโรงงาน ขณะขับรถออกจากบ้านมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้เพียงประมาณ 100 เมตร พบรถยนต์กระบะสีขาวไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน จอดรออยู่บริเวณเชิงสะพาน
ขณะที่สามีตนกำลังจะกลับรถ เพื่อเลี้ยวขึ้นสะพานถนนสายบางนา-ตราด ได้สังเกตเห็นผู้หญิงที่นั่งมาในกระบะรถคันสีขาวจำนวน 2-3 คน ลุกขึ้นยืน จากนั้นจึงได้ยินเสียงปืนดังรัวขึ้นหลายสิบนัด ตนจึงได้ก้มลงมอบ ก่อนที่รถคนร้ายจะขับหลบหนีไป หลังเกิดเหตุสามีตนจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพบว่าลูกสาวที่กำลังท้องได้ 3 เดือน และลูกเขย ถูกยิงเสียชีวิต
พ.ต.ท.ชัชวาล กล่าวว่า หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกอยู่จำนวน 27 ปลอก ซึ่งคาดว่าคนร้ายลงมือยิงไม่ต่ำกว่า 30 นัด หมายสังหารให้ตายหมดทั้งคันจนกระสุนหมด 40 นัด แต่ปลอกกระสุน อาจกระเด็นตกไปในรถคนร้ายด้วย จึงได้ให้เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน พ.ต.ท.ชัชวาล กล่าว
ด้าน นายการุณ อินฉาย อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 ม.11 ต.บางปะกง เพื่อนสนิทของ นายชูชาติ หรือ ป้อม กล่าวว่า ปกติครอบครัวนี้ เป็นคนดีขยันทำมาหากินไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใครมาก่อน เพราะตื่นเช้าก็เดินทางออกจากบ้านแต่เช้ามืด ไปซื้อของทำข้าวแกงขายในโรงงาน โดยนางติ๋ม พร้อมด้วยลูกสาวลูกเขยอยู่ทำอาหารขายตลอดทั้งวัน จนเย็นจึงเดินทางกลับเข้าบ้าน ส่วน นายป้อม หลังไปส่งภรรยา และลูกขายข้าวแกงแล้ว ก็จะเดินทางกลับมาขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง วินเดียวกันกับตนที่บริเวณใต้สะพานคลองอ้อม และไม่เคยพบว่าเคยมีเรื่องทะเลาะกับใครมาก่อน เพราะ นายป้อม เป็นคนไม่ค่อยพูด
ส่วน นางติ๋ม ทราบว่า มีคู่แข่งในการประมูลร้านขายอาหารในโรงงาน และเป็นคนปากร้าย จนเคยมีปากเสียงกับคู่แข่งมาแล้ว แต่ก็อยู่แต่ในโรงงานตลอด จึงคาดว่า ปัญหาในโรงงานน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหลังการประมูลร้านอาหารได้ เมื่อ 3 เดือนก่อน ขณะ นางติ๋มขับรถจักยานยนต์ ไปซื้อของในตลาด และเคยถูกลอบยิงมาแล้ว 1 ครั้ง กระสุนปืนเข้าที่หัวไหล่ด้านขวา บริเวณยูเทิร์นกลับรถหน้าวัดล่างบางปะกง แต่ก็รอดชีวิตมาได้
หลังได้รับรายงานเมื่อเวลา 10.30 น.พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผบช.ภ.2 ได้เดินทางมาเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตรวจสอบสำนวนคดี เพื่อหาแนวทางในการจับกุมคนร้าย พร้อมกล่าวว่า คดีนี้คาดว่ามีสาเหตุมาจากเรื่องส่วนตัวมากกว่าเรื่องอื่น เพราะครอบครัวนี้มีฐานะยากจน ไม่มีสมบัติอะไร โดยมีอาชีพขายข้าวแกง และไม่พบว่ามีประเด็นความขัดแย้งเรื่องอื่น หรือเคยมีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจผิดกฎหมายมาก่อน
วันนี้ (18 ส.ค.) เวลา 03.05 น.พ.ต.ต.เฉลิมฉัตร นาคเสน สารวัตรเวรสอบสวน สภ.อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้าย ใช้อาวุธสงครามซุ่มยิงรถแม่ค้าขายข้าวแกง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณเชิงสะพานคลองอ้อม ริมถนนสายบางนา-ตราด ระหว่าง กม.41-42 ฝั่งขาออกมุ่งหน้าชลบุรี ม.12 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
ในที่เกิดเหตุบริเวณคอสะพาน พบรถยนต์กระบะแค็บ มิตซูบิชิ ไทรตัน สีฟ้า หมายเลขทะเบียน บธ-6598 ฉช จอดอยู่ในลักษณะขวางลำปิดช่องทางเลี้ยวจากใต้สะพาน ขึ้นสู่ตัวสะพานถูกยิงด้วยอาวุธสงครามจากมุมหน้ารถด้านขวา ทะลุออกด้านข้างกระบะแค็บด้านซ้ายเป็นรอยกระสุนจนพรุนทั่วทั้งคันกว่า 20 นัด ภายในรถมีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ราย ทราบชื่อต่อมา คือ นายนาวิน วัฒนศิริ อายุ 22 ปี นั่งอยู่ในเบาะหน้าด้านซ้าย และนางเทียนทิพย์ ยิ่งดี อายุ 19 ปี นั่งอยู่ในเบาะแค็บด้านหลัง ถูกกระสุนปืนอาวุธสงครามยิงจนพรุนทั่วทั้งร่าง
นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย คือ นายชูชาติ แขกอ้น (ป้อม) อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/20 ม.12 ต.บางปะกง คนขับถูกยิงที่ต้นแขนขวา 1 นัด และมีรอยกระสุนถากเป็นรอยถลอกที่หน้าอก และแผ่นหลัง ส่วนผู้ที่นั่งมาในรถด้านเบาะแค็บหลัง คนขับอีก 1 คน คือ นางสิริมา ยิ่งดี (ติ๋ม) อายุ 38 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบสวน นางสิริมา กล่าวว่า ตนมีอาชีพขายข้าวแกง ในโรงงานพาวเวอร์เชฟ ในเขตพื้นที่ตำบลบางวัว อ.บางปะกง ขณะเกิดเหตุคนในครอบครัว ประกอบด้วย สามี ลูกสาว และลูกเขย รวม 4 คน กำลังออกเดินทางจากบ้านไปซื้อของยังตลาดสด ที่ตลาดล่างบางปะกง เพื่อไปทำกับข้าวขายภายในโรงงาน ขณะขับรถออกจากบ้านมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้เพียงประมาณ 100 เมตร พบรถยนต์กระบะสีขาวไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน จอดรออยู่บริเวณเชิงสะพาน
ขณะที่สามีตนกำลังจะกลับรถ เพื่อเลี้ยวขึ้นสะพานถนนสายบางนา-ตราด ได้สังเกตเห็นผู้หญิงที่นั่งมาในกระบะรถคันสีขาวจำนวน 2-3 คน ลุกขึ้นยืน จากนั้นจึงได้ยินเสียงปืนดังรัวขึ้นหลายสิบนัด ตนจึงได้ก้มลงมอบ ก่อนที่รถคนร้ายจะขับหลบหนีไป หลังเกิดเหตุสามีตนจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพบว่าลูกสาวที่กำลังท้องได้ 3 เดือน และลูกเขย ถูกยิงเสียชีวิต
พ.ต.ท.ชัชวาล กล่าวว่า หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกอยู่จำนวน 27 ปลอก ซึ่งคาดว่าคนร้ายลงมือยิงไม่ต่ำกว่า 30 นัด หมายสังหารให้ตายหมดทั้งคันจนกระสุนหมด 40 นัด แต่ปลอกกระสุน อาจกระเด็นตกไปในรถคนร้ายด้วย จึงได้ให้เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน พ.ต.ท.ชัชวาล กล่าว
ด้าน นายการุณ อินฉาย อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 ม.11 ต.บางปะกง เพื่อนสนิทของ นายชูชาติ หรือ ป้อม กล่าวว่า ปกติครอบครัวนี้ เป็นคนดีขยันทำมาหากินไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใครมาก่อน เพราะตื่นเช้าก็เดินทางออกจากบ้านแต่เช้ามืด ไปซื้อของทำข้าวแกงขายในโรงงาน โดยนางติ๋ม พร้อมด้วยลูกสาวลูกเขยอยู่ทำอาหารขายตลอดทั้งวัน จนเย็นจึงเดินทางกลับเข้าบ้าน ส่วน นายป้อม หลังไปส่งภรรยา และลูกขายข้าวแกงแล้ว ก็จะเดินทางกลับมาขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง วินเดียวกันกับตนที่บริเวณใต้สะพานคลองอ้อม และไม่เคยพบว่าเคยมีเรื่องทะเลาะกับใครมาก่อน เพราะ นายป้อม เป็นคนไม่ค่อยพูด
ส่วน นางติ๋ม ทราบว่า มีคู่แข่งในการประมูลร้านขายอาหารในโรงงาน และเป็นคนปากร้าย จนเคยมีปากเสียงกับคู่แข่งมาแล้ว แต่ก็อยู่แต่ในโรงงานตลอด จึงคาดว่า ปัญหาในโรงงานน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหลังการประมูลร้านอาหารได้ เมื่อ 3 เดือนก่อน ขณะ นางติ๋มขับรถจักยานยนต์ ไปซื้อของในตลาด และเคยถูกลอบยิงมาแล้ว 1 ครั้ง กระสุนปืนเข้าที่หัวไหล่ด้านขวา บริเวณยูเทิร์นกลับรถหน้าวัดล่างบางปะกง แต่ก็รอดชีวิตมาได้
หลังได้รับรายงานเมื่อเวลา 10.30 น.พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผบช.ภ.2 ได้เดินทางมาเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตรวจสอบสำนวนคดี เพื่อหาแนวทางในการจับกุมคนร้าย พร้อมกล่าวว่า คดีนี้คาดว่ามีสาเหตุมาจากเรื่องส่วนตัวมากกว่าเรื่องอื่น เพราะครอบครัวนี้มีฐานะยากจน ไม่มีสมบัติอะไร โดยมีอาชีพขายข้าวแกง และไม่พบว่ามีประเด็นความขัดแย้งเรื่องอื่น หรือเคยมีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจผิดกฎหมายมาก่อน