xs
xsm
sm
md
lg

พม่ากลับลำ! ปฏิเสธรับผิดชอบยิง ฮ.ไทย - อ้างทหารไทยบินล้ำแดน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย – พม่าล้มข้อตกลงชดใช้ค่าเสียหาย กรณียิง ฮ.ฉก.ร.7 หวิดร่วงที่ชายแดนแม่ฮ่องสอน อ้างทหารไทยบินล้ำแดน จึงต้องยิง หน่วยเหนือปฏิเสธรับผิดชอบ ย้ำทั้ง 2 ฝ่ายต้องระวังกันเอง แถมยื่นประท้วงไทยอีก 2 เรื่อง กล่าวหาเปิดพื้นที่ ให้ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าจัดประชุมที่ชายแดนแม่ฟ้าหลวง – แม่สาย ขณะที่ TBC ไทยปฏิเสธทุกกรณี พร้อมรายงานด่วนถึง มทภ.3 แล้ว ประกาศพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งหน่วยเหนือทันที


เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (11 ส.ค.) ได้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดน ไทย-พม่า ส่วนท้องถิ่น (TBC) ครั้งที่ 48 ณ โรงแรมลิตเติ้ลดั๊ก อ.เมือง จ.เชียงราย มี พ.อ.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล ประธาน TBC ฝ่ายไทย และ ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง นำคณะ เช่น นายชูศักดิ์ อุปนันท์ นายอำเภอแม่สาย, พ.ต.อ.เจษฎา ใยสุ่น ผกก.ด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สาย, นายชูชัย อุดมโภชน์ นายด่านศุลกากรแม่สาย, ป.ป.ส.ฯลฯ หารือกับ พ.ท.ส่อโมเอ ผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็ก และประธาน TBC ฝ่ายพม่า โดยใช้เวลาหารือกันกว่า 2 ชั่วโมง

รายงานข่าวจากที่ประชุม แจ้งว่า วาระแรกของการประชุมฝ่ายไทยได้ขอทราบความคืบหน้ากรณีที่ ทหารพม่า พัน ร.66 ใช้ปืนเล็กยาวยิงเฮลิคอปเตอร์ส่งเสบียง ฉก.ร.7 ที่ชายแดน อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2549 ต่อมาเมื่อวันที่ 13 ก.ค.2549 พ.อ.สุทัศน์ จารุมณี ผบ.ฉก.ร.7 จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย พ.อ.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล ประธานคณะกรรมการชายแดน ไทย-พม่า อ.แม่สาย จ.เชียงราย (TBC) ได้หารือ กับ พลจัตวา เมี้ยนห่าน ผู้บัญชาการกรมทหารท่าขี้เหล็ก สหภาพพม่า ที่ท่าขี้เหล็ก

สรุปเบื้องต้นว่า พม่ายอมรับผิด และแสดงความเสียใจ โดยรับว่าจะลงโทษพลทหารพม่า และผู้บังคับกองพันในพื้นที่ พร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้

แต่ปรากฏว่า ในการประชุม TBC ครั้งที่ 48 ฝ่ายพม่าได้เกริ่นในช่วงเปิดประชุมว่า คณะทีบีซี พม่าเป็นหน่วยงานเล็กๆ ที่ต้องรับคำสั่งจากหน่วยเหนือ กรณีทหารพม่ายิง ฮ.ไทย ทางหน่วยเหนือได้สั่งการมาแล้วว่า เรื่องนี้นักบิน ฮ.ของไทย ได้บินล้ำแดนเข้าไปในเขตประเทศพม่า จึงถือว่าไทยเป็นฝ่ายผิด และไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก จึงต้องระมัดระวังทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะไม่มีการชดใช้ค่าเสียหายแต่อย่างใด

เมื่อได้ฟังดังนั้น พ.อ.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล ประธาน TBC ฝ่ายไทย และ ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ได้ทักท้วงทันทีว่า คำตอบในวันนี้ (11 ส.ค.) ต่างกับวันที่มีการเจรจาครั้งก่อนอย่างสิ้นเชิงจึงอยากทราบเหตุผล

แต่ทางพม่าได้ตอบว่าเรื่องนี้หน่วยเหนือสั่งการมา จึงต้องนำมาตอบ และไม่สามารถจะชี้แจงได้มากกว่านี้ ทำให้การประชุมชะงักงันไปชั่วขณะ ก่อนที่จะประชุมหารือกันในเรื่องอื่นต่อไปได้

ทั้งนี้ ไทยขอความร่วมมือกับทางพม่า ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดน ที่มีมากขึ้น, ปัญหาคนลักลอบหลบหนีเข้าเมืองจากพม่า ที่ต้องช่วยกันสกัดกั้น พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน และฝ่ายพม่าได้มีข้อหารือเรื่องเดิม คือ ปัญหาบริเวณพื้นที่ดอยลาง สหภาพพม่า ที่พม่าอ้างว่า ฐานทหารไทยตั้งรุกล้ำเขตแดนจำนวน 22 ฐาน และบริเวณแนวเส้นสันเขตแดน จำนวน 10 ฐาน รวมทั้งสิ้น 32 ฐานรุกล้ำเข้ามาในเขตประเทศสหภาพเมียนม่าร์

ฝ่ายไทยก็ยืนยันเช่นเดิมว่า กรณีปัญหาบริเวณพื้นที่ดอยลาง ฝ่ายไทยได้ตอบชี้แจงหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ฝ่ายไทย ก็ขอยืนยันว่า กำลังทหารไทย ทั้ง 32 ฐาน วางกำลังอยู่ในดินแดนของประเทศไทยและฝ่ายไทย ได้ปฏิบัติตามผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ครั้งที่ 39 (RBC-19)

จากผลการประชุม RBC ครั้งที่ 22 ที่เชียงตุง ประเทศพม่า ระหว่างวันที่ 29 เม.ย.- 1 พ.ค.2548 ทั้งสองฝ่ายมีแนวทางที่จะนำปัญหานี้ ไปแก้ไขในการประชุมระดับ JBC ต่อไป รวมทั้งในการประชุม TBC ครั้งที่ 47 ฝ่ายไทยก็แจ้งให้ฝ่ายพม่าแล้วว่า การแก้ปัญหาเส้นเขตแดนพื้นที่บริเวณดอยลาง เป็นปัญหาที่อยู่เหนือจากอำนาจของ TBC และ RBC จึงเป็นหน้าที่ของ เจ้าหน้าที่ JBC ไทย-พม่า ซึ่งทราบว่า JBC ฝ่ายไทย พร้อมที่จะหารือแก้ไขปัญหา จึงอยากจะหารือกับฝ่ายพม่า เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อประชุมระดับ JBC ต่อไป

ฝ่ายพม่ายังได้ประท้วงฝ่ายไทยอีก 2 กรณี คือ เรื่องที่พม่าอ้างว่า เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 26 มิ.ย.2549 ที่ อบต.ภูสาน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้มีครูบาบุญชุม พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ไทย ประชุมเรื่องจะจัดสรรที่ดินทำกินให้ประชาชนที่บ้านหินแตก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ซึ่งพม่าเชื่อว่า เป็นการหาที่อยู่ให้กับกองกำลังที่ต่อต้านรัฐบาลพม่า

ขณะที่ฝ่ายไทย ยืนยันว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่ ไม่มี องค์การบริหารส่วนตำบลภูสาน ที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และไม่ใกล้เคียงกับชื่อใด รวมทั้งยืนยันว่า ไม่มีการประชุมเพื่อจะหาที่อยู่ให้กับกองกำลังต่อต้านรัฐบาลพม่า ซึ่งห้วงเวลาดังกล่าว ทราบว่ามีเพียงการประชุมสำรวจ เรื่องการลงทะเบียนคนจน ที่แม่ฟ้าหลวงเท่านั้น

อีกกรณีหนึ่งที่พม่าประท้วง ก็คือ เหตุการณ์เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 3 มิ.ย.2549 ที่คริสจักรไต้หวัน อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีการประชุมด้านศาสนา และในวันเดียวกันในการประชุมครั้งที่สอง ในสถานที่แห่งเดิม ได้มีการเชิญนายไหน่ถ่อ อายุ 56 ปี รองหัวหน้าคนที่สอง หรือสาม ของพรรคมอญใหม่ หรือหม่นตี่ปิดป่าตี่ เข้ามาในการประชุม ซึ่งเป็นบุคคลที่ต่อต้านรัฐบาลพม่า ทางพม่าจึงขอประท้วง

ฝ่ายไทยยืนยันว่า ในห้วงดังกล่าว ไม่มีบุคคลที่พม่าอ้างถึงเข้ามาในพื้นที่ และยืนยันว่า ไทย-พม่า มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอมา และยึดมั่นในแนวทางร่วมมือกัน จึงไม่มีเหตุดังกล่าวแน่

หลังจากนั้น ก็มีการปิดประชุม TBC ครั้งที่ 48 นี้ลงทันที และคณะทั้ง 2 ฝ่ายได้เดินทางไปนมัสการวัดพระแก้ว อ.เมืองเชียงราย ก่อนที่จะนำคณะผู้แทนจากพม่า เดินทางไปซื้อของใช้ในตัวเมือง ก่อนเดินทางไปกลับในช่วงเย็นวันเดียวกัน

หลังการประชุม พ.อ.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล ประธาน TBC ฝ่ายไทย และ ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายพม่า ได้ระบุว่า ฮ.ไทย บินล้ำแดนจนถูกทหารพม่ายิง ซึ่งผิดไปจากการหารือในเบื้องต้นเมื่อวันที่ 13 ก.ค.2549 ที่พม่ายอมรับผิดชอบและจะขอชดใช้ว่า เรื่องนี้ทางฝ่ายไทยได้ทำหนังสือถึงพม่ามาตั้งแต่วันเกิดเหตุ จนมีการประชุมในวันที่ 13 ก.ค.เมื่อมาทราบคำตอบในวันนี้ ก็ถือว่าประหลาดใจที่ พม่าเปลี่ยนจากการยอมรับผิด เป็นระบุว่าทหารไทยบินล้ำแดน

จากการตรวจสอบของฝ่ายไทย นักบินทหารไทย ระบุว่า บินในเส้นทางเดิมที่เคยบิน และไม่เคยถูกยิงมาก่อน เรื่องนี้ได้รายงานด่วนให้แม่ทัพภาคที่ 3 แล้ว หากมีคำสั่งการลงมาก็จะดำเนินการ



กำลังโหลดความคิดเห็น