สภาเมืองพัทยาไฟเขียวคอนโด 91 ชั้น ริมหาดจอมเทียน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - สภาเมืองพัทยาเห็นชอบ คอนโดมิเนียม 91 ชั้น ของบริษัทหุ้นส่วนต่างชาติ ริมชายหาดจอมเทียน ขณะสมาชิกสภาเมืองฯ หลายคนคัดค้าน หวั่นทำลายภูมิทัศน์ ระบบสธารณูปโภครองรับไม่เพียงพอ

นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร นายกเมืองพัทยา เผยว่าเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมสภาเมืองพัทยาได้มีมติ เห็นชอบให้บริษัทสยาม เบสท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ของนายบรูโน่ พิลเกล ดำเนินการก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียม และพลาซ่า ขนาดใหญ่ Ocean 1 Tower ในความสูง 91 ชั้น บริเวณริมชายหาดจอมเทียน เมืองพัทยา

โครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม และพลาซา Ocean 1 Tower เป็นโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม 91 ชั้น ความสูงกว่า 300 เมตร และอาคารพลาซา 2 ชั้น สูง 14.80 เมตร บนเนื้อที่ 10-3-96 ไร่ ในงบประมาณการก่อสร้างกว่า 6,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ถนนหาดจอมเทียนสาย 2 เมืองพัทยา ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ซึ่งจัดเป็นที่ดินประเภทพานิชยกรรม ตามผังเมืองรวมพัทยา

โครงการนี้ได้ทำการศึกษาและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เสนอต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.)แล้ว อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นอาคารสูงและใหญ่เป็นพิเศษ ทางสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงมีมติให้สอบถามนโยบายของเมืองพัทยาในการควบคุมอาคารสูง และขอความคิดเห็นของสมาชิกสภาเมืองพัทยา ในการก่อสร้างเพื่อประกอบการพิจารณาอีกครั้ง

นายธงชัย อาจทรง สมาชิกสภาเมืองพัทยา เปิดเผยว่าการสร้างคอนโดมิเนียมสูง 91 ชั้น บริเวณชายหาดจอมเทียนนั้น แม้ว่าจะเกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวและสภาพเศรษฐกิจ แต่ก็ต้องคำนึงถึงความเป็นอยู่ของชุมชนในละแวกใกล้เคียงด้วย ทั้งนี้คาดว่าหากมีการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนแล้วก็คงจะถูกคัดค้านอย่างแน่นอน
 
เนื่องจากอาคารแห่งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการบดบังสภาพภูมิทัศน์ทางธรรมชาติของแหล่งท่องเที่ยวโดยรวม นอกจากนี้หากมีการก่อสร้างจริง ปัญหาที่เกิดขึ้นคงเป็นเรื่องของระบบสาธารณูปโภคมากมาย ที่เมืองพัทยาจำเป็นจะต้องมารองรับ และประชาชนในพื้นที่เดิมต้องได้รับผลกระทบ
 
โดยเฉพาะเรื่องของปัญหาการจราจร เรื่องของน้ำเสียที่จะต้องมีเพิ่มขึ้นอีกวันละหลายพันลูกบาศก์เมตร ขณะที่มาตรการรองรับน้ำเสียในปัจจุบันบริเวณชายหาดจอมเทียนนั้นก็ถือว่าไม่เพียงพอต่อความต้องการแล้ว จึงถือว่าการสร้างคอนโดฯดังกล่าวจะเป็นการสร้างภาระให้กับท้องถิ่นที่ต้องมาแบกรับไว้ด้วย

ทางด้านนายอุฤทธิ์ นทสุรศักดิ์ สมาชิกสภาเมืองพัทยา กล่าวว่านอกจากปัญหาข้างต้นแล้ว ยังคงมีเรื่องของสิ่งปฏิกูลหรือขยะมูลฝอยที่เมืองพัทยาจะต้องแบกรับขึ้นอีก รวมถึงเรื่องของกระแสไฟฟ้าที่คาดว่าจะต้องใช้เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก จึงอาจมีการวางเสาไฟฟ้าแรงสูงผ่านเข้าสู่ระบบของอาคาร ซึ่งถือไม่สอดคล้องกับนโยบายของเมืองพัทยา
 
โดยเฉพาะบริเวณถนนจอมเทียนสายสองซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ ที่จะไม่อนุญาตให้มีการตั้งเสาไฟฟ้าโดยเด็ดขาด นอกจากจะวางสายผ่านอุโมงค์ใต้ดิน ซึ่งทางบริษัทต้องหาวิธีการด้วย ขณะที่กำลังผลิตกระแสไฟฟ้านั้นปัจจุบันก็แทบไม่เพียงพอต่อความต้องการ และหากคอนโดแห่งนี้มีการใช้กระแสไฟฟ้าเพิ่มก็อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนด้วย จึงควรจะมีการวางแผนให้รัดกุมเพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นด้วย

ด้านนายบันลือ กุลละวนิชย์ สมาชิกสภาเมืองพัทยา กล่าวว่าสิ่งสำคัญที่หลายฝ่ายจะต้องคำนึงนอกจากจะเป็นเรื่องของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แล้ว คงต้องห่วงในเรื่องของความปลอดภัยด้วย เนื่องจากอาคารดังกล่าวมีขนาดความสูงถึงกว่า 91 ชั้น แต่ระบบการรองรับความปลอดภัยนั้นไม่มีการนำเสนอที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากนัก
 
ดังนั้น หากเกิดเหตุขึ้นก็อาจทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ เรื่องนี้จะมาถึงท้องถิ่นอย่างเดียวไม่ได้ เพราะแม้ว่าเมืองพัทยาจะมีรถดับเพลิงและอุปกรณ์เข้าข่ายทันสมัยที่สุดในประเทศ แต่การรองรับความสูงระดับนี้ถือว่าเป็นเรื่องลำบาก จึงควรมีการพิจารณาที่รอบคอบ เพราะอาจเกิดปัญหาได้เหมือนครั้งเหตุการณ์ไฟไหม้โรงแรมขนาดใหญ่ที่ผ่านมา

ด้านปกรณ์ สุคนธชาติ ที่ปรึกษานายกเมืองพัทยา กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าสมาชิก
สภาเมืองพัทยาไม่ควรมองปัญหาในเรื่องดังกล่าว เพราะการสร้างอาคารแห่งนี้ถือว่ามีการลงทุนหลายพันล้านบาท จึงควรจะให้ความสนใจในด้านการส่งเสริมการตลาดและการท่องเที่ยวมากกว่า ส่วนเรื่องของสาธารณูปโภคนั้น ทางสิ่งแวดล้อมควรจะต้องมาดำเนินการจัดแผนรองรับ และไม่น่าจะเป็นหน้าที่ของผู้ลงทุนแต่อย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวได้มีสมาชิกสภาเมืองพัทยาหลายคนลุกขึ้นอภิปรายถึงความเหมาะสม และปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของการบดบังสภาพภูมิทัศน์ และปัญหาเกี่ยวกับสาธารณูปโภคในการรองรับต่างๆ อาทิ ระบบรองรับน้ำเสีย น้ำอุปโภคบริโภค ขยะมูลฝอย ปัญหาการจราจร และเรื่องของกระแสไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพความเป็นอยู่ของชุมชนในละแวกใกล้เคียง รวมถึงการรองรับที่มีประสิทธิภาพของเมืองพัทยาในอนาคต ซึ่งอาจเกิดปัญหาได้เนื่องจากปัจจุบันก็ยังมีสภาพปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างเบ็ดเสร็จ

โดยเรื่องนี้ทางบริษัทได้ทำการชี้แจงว่าจะจัดทำระบบรองรับที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งการก่อสร้างคอนโดมีเนียมดังกล่าวยังจะเป็นการสร้างจุดท่องเที่ยว สร้างแรงงาน และแหล่งเงินทุนมากมาย พร้อมกันนี้การนำเสนอโครงการดังกล่าวก็เพื่อเป็นการขอรับความคิดเห็นเท่านั้น โดยเรื่องนี้ถึงที่สุดแล้วสภาเมืองพัทยาก็มีมติเห็นชอบในการก่อสร้างคอนโดแห่งนี้ พร้อมจะได้นำผลมติที่ได้เสนอต่อ สผ.เพื่อพิจารณาต่อไป

อนึ่ง อาคาร Ocean 1 Tower มีความสูงถึงยอดประมาณ 367 เมตร หากก่อสร้างเสร็จจะกลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดยส่วนพักอาศัยอยู่ในระดับความสูงที่สุด 327 เมตร ภายในอาคารประกอบด้วยห้องชุดจำนวน 611 ยูนิต ยูนิตละ 1 - 3 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 50 - 380 ตารางเมตร และห้องเพนต์เฮาส์ขนาดตั้งแต่ 800 -1,200 ตารางเมตร ถือเป็นโครงการที่พักอาศัยขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองพัทยาขณะนี้