xs
xsm
sm
md
lg

นัดเจรจา “โลตัส” เว้นวรรคเปิดสาขาวิเศษฯ-นายกเล็กศาลเจ้าฯชี้ ปชช.ยังไม่พ้นวิกฤต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน-นายกเทศมนตรีตำบลศาลเจ้าโรงทอง พร้อม นอภ.วิเศษชัยชาญ ปรับแผนใหม่ เตรียมนำพ่อค้า”ตลาดเก่าร้อยปี”จับเข่าคุย“โลตัส”ขอให้เว้นวรรคเปิดสาขาวิเศษชัยชาญ ออกไปอีก 3-5 ปี ระบุเพราะประชาชนยังไม่พ้นวิกฤตจากเหตุการณ์ไฟไหม้ ด้านแกนนำสมาพันธ์ต้านห้างยักษ์ทุนนอก ยันไม่ให้สร้างแม้ให้เวรวรรค เชื่อกลุ่มพ่อค้าที่พาไปเป็น “นอมินี”ด้าน“ชาวตลาดตาคลี”ลั่นโผล่มาอีกเจอปิดล้อมแน่ “โชวห่วยอุทัยธานี”เตรียมรวมตัวบ้างหลังได้ข่าวห้างยักษ์มีแผนเปิด 2 สาขาที่หน้า“ม.ราม-ตลาดหนองฉาง” แฉเบื้องหลังแกนนำหลายพื้นที่โดนผู้มีอิทธิพลขุ่จนไม่กล้าออกมาเคลื่อนไหว

นายวิชัย ลิมป์วัฒนะชัย นายกเทศมนตรีตำบลศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เปิดเผยว่า ตามที่ห้างเทสโก้ โลตัส มีโครงการจะเข้าไปเปิดสาขาในเขตเทศบาลตำบลศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญนั้นที่ผ่านมาได้ถูกคัดค้านมาโดยตลาดจากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าชาวตลาดวิเศษชัยชาญ และตนก็เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ที่ชาวตลาดศาลเจ้าโรงทอง ยังไม่พ้นวิกฤตหลังจากที่โดนไฟไหม้ไปเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.48 ที่ผ่านมา ดังนั้น ตนจึงมีความเห็นว่าควรจะไปเจรจากับทางโลตัส เพื่อขอให้มีการเว้นวรรคในการก่อสร้างอาคารห้างสรรพสินค้าออกไปก่อน 3-5 ปี หลังจากนั้นค่อยมาเริ่มต้นหารือกันใหม่

“ตอนนี้ผมได้มอบหมายให้ทางปลัดเทศบาลฯ เป็นฝ่ายประสานกับทางผู้บริหารโลตัส แล้วว่าทางเราจะไปขอความเมตตาเพื่อให้เว้นวรรคการก่อสร้างออกไปก่อนสักประมาณ 3-5 ปี เพราะตอนนี้ชาวตลาดศาลเจ้าโรงทอง ยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟไหม้อยู่ โดยผมจะไปพร้อมกับนายอำเภอวิเศษชัยชาญ และพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเก่าร้อยปีอีก 4-5 คน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมาว่า ทางโลตัส จะให้เราเข้าไปเจรจาด้วยหรือไม่ เมื่อไร แต่คิดว่าคงจะไม่มีปัญหาอะไร” นายวิชัย กล่าว

ส่วนการฟื้นฟูตลาดศาลเจ้าโรงทอง หรือตลาดเก่าร้อยปีวิเศษชัยชาญ ที่ถูกไฟไหม้นั้น นายวิชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทุกอย่างใกล้จะเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าคงจะเข้าไปดำเนินการฟื้นฟูตามแผนได้ภายในอีก 3-4 เดือนข้างหน้านี้ โดยจะใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูประมาณ 1 ปีเศษ ส่วนบริษัทที่จะเข้ามารับเหมาดำเนินการฟื้นฟูนั้นขณะนี้ยังไม่มี แต่สวนตัวตนคิดว่าคงจะต้องเอาบริษัทใหญ่ๆ ที่มีศักยภาพเข้ามาดำเนินการ เพราะถ้าไม่เช่นนั้นการดำเนินการฟื้นฟูก็จะไม่เสร็จตามที่กำหนดไว้

นายสมศักดิ์ เทพมังกร กำนันตำบลศาลเจ้าโรงทอง กล่าวว่า สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่คัดค้านก็ยังคงมีอยู่เป็นช่วงๆ แต่เท่าที่ทราบตอนนี้ ทางเทศบาลฯกำลังประสานกับทางโลตัส เพื่อเจรจาขอให้เว้นวรรคไปก่อน 3-5 ปี เพราะถ้าให้ก่อสร้างตอนนี้คงจะทำไม่ได้ เนื่องจากยังมีการคัดค้านกันอยู่ ส่วนการฟื้นฟูตลาดเก่าร้อยปีที่ถูกไฟไหม้นั้นคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในตุลาคม หรือไม่ก็ปลายปี 49 นี้ ถ้าไม่มีปัญหาติดขัดในเรื่องใด

แกนนำยันเสียงแข็งไม่เอาโลตัส

ด้านนายพันธุ์เทพ สุลีสถิร ฝ่ายประสานงานสมาพันธ์ต้านห้างค้าปลีกข้ามชาติ แกนนำคัดค้านห้างโลตัส ที่มีโครงการจะเข้าไปเปิดสาขาในพื้นที่ อ.วิเศษชัยชาญ กล่าวว่า เท่าที่ตนได้ข้อมูลมา ทราบว่าทางเทศบาลฯมีข้อเสนอให้กับทางโลตัส 2 แนวทาง คือ 1.จะขอให้ทางโลตัส เว้นวรรคในการมาก่อสร้างห้างออกไปประมาณ 3-5 ปีจริง เพื่อรอให้เรื่องนี้สงบและเงียบลงเสียก่อน และ 2.ถ้าทางโลตัสไม่ยอมก็จะอนุญาตให้ก่อสร้างได้หลังจากที่มีการฟื้นฟูตลาดเก่าศาลเจ้าโรงทอง หลังจากที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งขณะนี้แผนการฟื้นฟูนั้นได้ผ่านการพิจารณาจากทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว คาดว่าคงจะเข้าไปดำเนินการฟื้นฟูได้ไม่ภายในสิ้นปี 49 หรือไม่ก็ต้นปี 50 ที่จะถึงนี้ ซึ่งเท่ากับว่าทางเทศบาลฯ ก็ยังต้องการให้ทางโลตัส เข้าไปเปิดสาขาที่ อ.วิเศษชัยชาญ ซ้ำเติมชาวตลาดเก่าร้อยปีที่ถูกไฟไหม้อยู่ดี

นายพันธุ์เทพ กล่าวต่อว่า ส่วนการนำกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในตลาดศาลเจ้าโรงทองไปเจรจากับทางโลตัส โดยไม่ประสงค์ให้กลุ่มแกนนำคัดค้านเดินทางไปร่วมเจรจากับทางโลตัสด้วยนั้น เนื่องจากทางเทศบาลฯเห็นว่าพวกแกนนำที่คัดค้านเป็นพวกคนหัวรุนแรง

“ถ้าไม่ให้กลุ่มแกนนำที่คัดค้านไปร่วมเจรจากับทางโลตัสด้วยก็ไม่เป็นไร แต่เราก็ยังยืนยันเช่นเดิมว่าจะคัดค้านห้างเหล่านี้ต่อไปในนามของสมาพันธ์ต้านค้าปลีกข้ามชาติ แม้จะให้มีการเว้นวรรค หรือไม่เว้นวรรคก็ตาม สิ่งที่เราต้องการก็คือ พวกเราไม่เอาโลตัส” นายพันธุ์เทพ กล่าว และว่า

ส่วนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่เทศบาลฯ จะพาไปเจรจากับโลตัสนั้น ตนเชื่อว่าพวกเขาก็ไม่ต้องการให้โลตัส เข้าไปเปิดสาขาที่ อ.วิเศษชัยชาญเช่นกัน และคิดว่าทางเทศบาลฯจะไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรในการเข้าไปเจรจาครั้งนี้ และคงไม่เอากลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นนอมินี ที่เทศบาลฯสามารถสั่งซ้ายหันขวาหันได้ไปเจรจาเพื่อหาทางออก ขอให้ทำอย่างโปร่งใส่ เพื่อประชาชน เพื่อผู้ประกอบการในตลาดศาลเจ้าโรงทองไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

ชาวตาคลีลั่นมาอีกโดนปิดล้อมแน่

ทางด้านนายชัยรัตน์ ทรัพย์วรนิช ตัวแทนผู้ค้าชาวตลาดตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ 1 ในแกนนำสมาพันธ์ต้านห้างค้าปลีกข้ามชาติ เปิดเผยว่า หลังจากที่ตัวแทนโลตัส เข้าหนังสือต่อทางเทศบาลเมืองตาคลี เพื่อขออนุญาตเปิดสาขาที่ อ.ตาคลี ขนาดพื้นที่ขาย 1,230 ต.รม.แล้ว ทางเทศบาลฯได้ตีเรื่องนี้กลับไปให้ทางดลตัส นำไปแก้ไขแบบแปรนใหม่ เนื่องจากกฎหมายอนุญาตให้ก่อสร้างได้แค่ 300-1,000 ต.รม.เท่านั้น จนขณะนี้เท่าที่ทราบทางโลตัส ยังไม่ได้ส่งเรื่องกลับมายังทางเทศบาลฯ ซึ่งพวกตนจะเข้าไปสอบถามทางเทศบาลฯ อีกครั้งหนึ่งว่า ถ้าทางโลตัส มายื่นขออนุญาตอีกครั้งจะอนุญาตให้ก่อสร้างหรือไม่ และขอยืนยันว่าทางแม้เทศบาลฯจะอ้างกฎหมายว่า เขายื่นขอมาอย่างถูกต้องจำเป็นต้องอนุญาตให้ไปตามกฎหมาย พวกตนก็จะคัดค้านจนถึงที่สุด

“ในฐานะที่เป็นประชาชนเราต้องปฏิบัติตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่ความเป็นจริงกฎหมายได้ช่วยให้ร้านค้าปลีก โชวห่วยท้องถิ่นไม่ได้รับผลกระทบหลังจากที่ทางห้างค้าปลีกข้ามชาติเหล่านี้มาเปิดได้หรือไม่ ช่วยให้ร้านค้าปลีก โชวห่วยที่ต้องปิดกิจการลงไปแล้วไม่รู้กี่รายเพราะได้รับผลกระทบต่อการเข้าไปเปิดสาขาของห้างค้าปลีกเหล่านี้กลับฟื้นคืนมาได้เหมือนเดิมได้หรือไม่ ถ้าทำได้ก็มาเปิดได้เลย ผมสนับสนุน แต่ถ้าทำไม่ได้อย่ามา ถ้ามาก็ต้องพบกับพลังของสมาพันธ์ฯปิดล้อมแน่” นายชัยรัตน์ กล่าว

โชวห่วยอุทัยฯเตรียมต้านบ้าง

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยใน จ.อุทัยธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางโลตัส มีโครงการที่จะเข้าไปเปิดสาขาอีก 2 แห่งใน จ.อุทัยธานี โดยแห่งแรกจะเปิดที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ส่วนอีกแห่งที่บริเวณตลาดหนองฉาง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี แต่ตอนนี้ทางโลตัส ยังไม่ได้เข้ายื่นหนังสือขออนุญาตก่อสร้างกับท้องถิ่น แต่ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบสถานที่จะก่อสร้างแล้ว

“ในส่วนของผู้ประกอบการค้าปลีก และโชวห่วยในพื้นที่ทั้ง 2 แห่งนั้นขณะนี้เริ่มมีการเคลื่อนไหวกันแล้ว เพียงแต่รอดูความชัดเจนก่อนว่าทางห้างค้าปลีกข้ามชาติรายนี้จะเข้าไปยื่นขออนุญาตก่อสร้างเมื่อใด ซึ่งถ้าเข้าไปกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกท้องถิ่นและร้านค้าโชวห่วยทุกร้านคงต้องออกมาเคลื่อนไหวแน่นอน”

แฉอิทธิพลขู่แกนนำห้ามคัดค้าน

ขณะที่แหล่งข่าวจากแกนนำต่อต้านห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ข้ามชาติรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาห้างเหล่านี้ก่อนที่มีแผนจะเข้าไปเปิดสาขาในพื้นที่ใดจะต้องมีการเข้าหาผู้ที่มีอิทธิพลในท้องถิ่นเสียก่อน เพราะความสะดวกในการเข้าไปเปิดสาขาห้างในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งมีหลายพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหว แต่ในที่สุดก็ถูกข่มขู่จากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ โดยมีทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ และนักการเมืองในระดับท้องถิ่น และระดับชาติ ยิ่งถ้าห้างค้าปลีกข้ามชาติเหล่านี้สามารถเข้าไปเช่าพื้นที่ของผู้ที่มีอิทธิพลกลุ่มดังกล่าวได้ก็จะยิ่งง่ายขึ้น เพราะคนพวกนี้จะมีสมุนคอยปฏิบัติหน้าที่ข่มขู่แกนนำหรือผู้ที่ออกมาคัดค้าน จนในที่สุดไม่กล้าออกมาเคลื่อนไหวอีก

“มีหลายคน หลายพื้นที่ที่จะเข้ามาร่วมกับสมาพันธ์ต้านห้างค้าปลีกข้ามชาติ แต่กลัวอิทธิพลของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เช่นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทราบมาว่าที่ดินที่ทางแม็คโคร คาร์ฟู บิ๊กซี ที่จะเข้าไปเปิดสาขาห้างนั้นเกี่ยวข้องกับนักการเมือง เลยทำให้แกนนำซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการเคลื่อนไหวอยู่บ้าง แต่มาช่วงหลังได้เงียบหายไป เพราะถูกข่มขู่สั่งให้หยุดเคลื่อนไหว นอกจากนี้ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่โดนในลักษระเดียวกัน” แหล่งข่าวผู้นี้เปิดเผย




กำลังโหลดความคิดเห็น