อุบลราชธานี -พบหมู่บ้านหลุดพ้นความจนในเมืองดอกบัว “หมู่บ้านตำแย” ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงในหลวงดำเนินชีวิต จนตั้งกลุ่มออมทรัพย์ พัฒนาเป็นธนาคารหมู่บ้าน มีเงินหมุนเวียนร่วม 7 ล้านบาท รายได้ครัวเรือนเฉลี่ยต่อเดือน 2-3 หมื่นบาท
นายแก่น มีสิทธิ์ดี พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงดีเด่น ว่า หมายถึงหมู่บ้านที่มีรูปแบบการบริหารจัดการระบบหมู่บ้าน ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงมหาดไทย คือ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ มีการออม มีการดำรงชีวิต การอนุรักษ์ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม และการเอื้ออาทร
หมู่บ้านที่เป็นตัวอย่าง 1 ใน 19 หมู่บ้านของภาคอีสาน คือ บ้านตำแย หมู่ที่ 11 ต.ม่วงสามสิบ อ.ม่วงสามสิบ โดยหมู่บ้านดังกล่าวสามารถระดมทุน ตั้งเป็นสถาบันการเงิน หรือธนาคารประจำหมู่บ้านได้เอง ปัจจุบันมีเงินทุนใช้หมุนเวียนในชุมชนถึง 7 ล้านบาท
นายแก่น กล่าวต่อว่า สำหรับหมู่บ้านตำแย ถือเป็นหมู่บ้าน ที่นำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้รวมกลุ่มตั้งเป็นกลุ่มต่างๆ เพื่อหารายได้เข้าสู่ครอบครัว โดยราษฎรหมู่บ้านตำแยมีรายได้เฉลี่ยครอบครัวละ 20,000-30,000 บาท/ครอบครัว/เดือน เฉพาะปี 2548 ราษฎรบ้านตำแยในกลุ่มต่างๆ มีผลกำไรรวมกันกว่า 4 ล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากราษฎรในหมู่บ้านมีต้นทุนการผลิตต่ำ จากการทำเกษตรกรรมแบบพึ่งพาธรรมชาติ นำของเหลือใช้ในหมู่บ้าน มาทำประโยชน์อย่างเต็มที่ ทำให้หมู่บ้านประสบความสำเร็จหลุดพ้นจากความยากจนอย่างเด็ดขาดแล้ว
ขณะนี้ นายประดิษฐ์ สมชาติ ผู้ใหญ่บ้านตำแย ซึ่งมีส่วนสำคัญในความสำเร็จของหมู่บ้านเล่าว่า ราษฎรบ้านตำแยมีทั้งสิ้น 134 ครอบครัว ประชากรรวม 618 คน ส่วนมากประกอบอาชีพทำนา ต่อมามีการนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจแบบพอเพียง ปลูกจิตสำนึกให้คนในชุมชนนำมาใช้ ทำให้เกิดการรวมตัว ตั้งกลุ่มสร้างรายได้ให้แก่ตนเองอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งไม่ต้องเดินทางไปขายแรงงานในสถานที่อื่น ปัจจุบันมีการตั้งกลุ่มประกอบอาชีพ รวมทั้งสิ้น 13 กลุ่ม อาทิ กลุ่มออมทรัพย์ เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนให้ชุมชนใช้ประกอบอาชีพ และยังมีการปลูกฝังถึงลูกหลานในวัยกำลังศึกษารู้จักการออม โดยให้นำเงินที่เหลือจากการไปโรงเรียนเข้ามาร่วมฝากไว้กับกลุ่มออมทรัพย์ด้วย
ส่วนกลุ่มอาชีพที่เหลือเป็นกลุ่มทอผ้ากาบบัว กลุ่มเพาะพันธุ์ปลา กลุ่มเลี้ยงโค กลุ่มเลี้ยงสุกร กลุ่มแปรรูปผลิตผล ซึ่งกลุ่มอาชีพทั้งหมดเกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชน เพื่อจะแก้ไขปัญหาความยากจนให้หมดไปจากหมู่บ้าน ถึงปัจจุบันกล่าวได้ว่าหมู่บ้านตำแย ไม่มีคนจนเหลืออยู่แม้แต่คนเดียว เพราะชุมชนมีการบูรณาการทุนที่มีอยู่ แล้วนำมาใช้จนเกิดประโยชน์กับคนในชุมชนทุกคน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับ นายประดิษฐ์ ผู้ใหญ่บ้านตำแยที่นำพาราษฎรยึดการประกอบอาชีพตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจแบบพอเพียง ได้รับรางวัลผู้นำชุมชนดีเด่นประจำปี 2546 เพราะเป็นผู้นำให้ราษฎรหลุดพ้นจากความยากจนของกระทรวงมหาดไทย