ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านโวยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแปดริ้ว แต่เช้าตรู่ เหตุจ่ายกระแสไฟฟ้าแรงดันตกเหลือเพียง 75 โวลต์เข้าวงจร ทำอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าประชาชนพังเกลื่อน พร้อมแฉเหตุการณ์ไฟฟ้าตกจนอุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหายเกิดขึ้นเป็นประจำจนชาวบ้านต่างระอากันทั่วหน้า แต่ไร้หนทางเพราะไม่รู้วิธีแก้ไข
วันนี้ (5 ก.ค.) เวลา 06.30 น.ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางสมศรี มั่นคง อยู่บ้านเลขที่ 36/1 ม.6 ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ว่า เมื่อช่วงเช้ามืดตั้งแต่เวลาประมาณ 05.00 น.ขณะที่ตนได้เปิดโทรทัศน์รับชมรายการข่าวยามเช้า ทิ้งไว้ และเตรียมหุงข้าวทำกับข้าวเพื่อให้ลูกหลานกินก่อนออกเดินทางไปทำงาน หลังตนซาวข้าวใส่น้ำหม้อหุงข้าวไฟฟ้าเพื่อหุงข้าวทิ้งไว้เป็นเวลานานหม้อข้าวก็ไม่ยอมเดือด แต่มีลักษณะร้อนอุ่นๆ และเมื่อสังเกตโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งไว้กลับเงียบสนิท หลอดไฟฟ้าบางหลอดติดไม่สว่างเต็มดวง รวมถึงพัดลมที่เปิดไว้หมุนช้าเอื่อยๆ เหตุจากกระแสไฟฟ้าตก
ตนจึงได้รีบถอดปลั๊กสายอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านออกทั้งหมด เพราะหวั่นเกรงว่าจะได้รับความเสียหาย โดยลักษณะอาการดังกล่าวได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งเป็นประจำ จนทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหายมาแล้วหลายครั้ง ทั้งหลอดไฟ ตู้เย็น ซึ่งตนได้รับความเดือดร้อน ในวันนี้ก็หุงข้าวไม่สุก จนต้องใช้เตาแก๊สหุงข้าวแทน ทำให้ล่าช้าลูกหลานไม่ได้กินข้าวและไปทำงานสาย
ด้าน นายบุญสืบ วัฒนสิทธิ์ ชาวบ้าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ส.อบต.ม.4 ผู้ใช้ไฟฟ้าในเขตรอยต่อจังหวัด ริมคลองฝั่งตรงข้ามตำบลเทพราช ซึ่งใช้กระแสไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดฉะเชิงเทรา ในเส้นทางเดียวกัน กล่าวว่า ตนเป็นลูกค้าของ กฟภ.ฉะเชิงเทรา จากการขยายเขตมาตั้งแต่ปี 2515 โดยเมื่อก่อนในเขตนี้การไฟฟ้านครหลวงยังไม่มีการเดินสายไฟฟ้ามาถึง
สำหรับเหตุการณ์กระแสไฟฟ้าตกในเขตนี้นั้น มักเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ ที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่บ้านตนเสียหายหลายสิบตัว เพราะตนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าสามเฟส ในการปั่นใบพัดตีน้ำในบ่อเลี้ยงปลากะพงแทนน้ำมัน เพราะมีราคาต้นทุนถูกกว่า
โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้มอเตอร์ได้รับความเสียหาย คือ ไฟฟ้าทั้งสามเฟสถูกจ่ายมาไม่เท่ากัน จากการใช้มัลติมิเตอร์ทดลองวัดเทียบดูกับสายดิน (N) เมื่อเช้านี้ที่เกิดกระแสไฟฟ้าตกพบว่า ไฟฟ้าเฟสแรก (เฟส R) มีกระแสไฟฟ้ามาตามปกติ คือ 220 โวลต์ เฟสที่สอง (เฟส S) มีแรงดันที่จ่ายเข้ามาเพียง 160 โวลต์ และเฟสที่สาม (เฟส T) มีแรงดันเหลือเพียง 75 โวลต์เท่านั้น และจากไฟฟ้าตกเมื่อเช้านี้ทำให้มอเตอร์ขนาด 3 แรงม้า 3 เฟส ไหม้เสียหายไปอีก 1 ตัว เพราะตนเดินทางไฟตัดมอเตอร์ที่บ่อเลี้ยงปลาออกจากวงจรไม่ทัน
โดยตนคาดว่า ชาวบ้านในเขตนี้ต่างก็ได้รับผลกระทบมอเตอร์ไฟฟ้าเสียหายจากไฟฟ้าตก เช่นเดียวกันกับตน เพราะปัจจุบันชาวบ้านที่เลี้ยงกุ้ง และปลากะพงในเขตนี้ ต่างหันมาใช้มอเตอร์ไฟฟ้าปั่นหมุนใบพัดตีน้ำแทนเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันกันเกือบหมดทุกรายแล้ว