กาฬสินธุ์- จังหวัดกาฬสินธุ์มีคำสั่ง ปลด “นายถาวร บุตรศรี นายก อบต.ทุ่งคลอง” พ้นตำแหน่งนายก โทษฐานมีพฤติกรรมทุจริตต่อหน้าที่ สังเวยคดีงาบสินบน ทุจริตสอบ 300 ล้านบาท พร้อมดำเนินคดีกับเครือข่ายทั้งหมด
กรณี นายกวี กิตติสถาพร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งการให้ดำเนินคดีกับ นายเคน หนองเสนา คณะกรรมการพนักงานส่วนตำบล (ก.อบต.) กาฬสินธุ์ สายผู้ทรงคุณวุฒิ เนื่องจากแจ้งมติที่ประชุมเป็นเท็จ ต่อนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุ่งคลอง อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ไปเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตการสอบพนักงานส่วนตำบล อบต.ทุ่งคลอง
โดยมีการเรียกรับสินบนจากผู้สอบรวมกว่า 300 ล้านบาท ซึ่ง พล.ต.ต.กวี สุภานันท์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ยังได้เปิดเผยถึงกระบวนการทุจริตโดยชี้เส้นทางการเรียกรับสินบนคล้ายแชร์ลูกโซ่ ที่มีทั้ง นักการเมือง ข้าราชการ และ ก.อบต.เข้าไปมีเอี่ยวในคดีนี้ด้วย
ล่าสุด เมื่อวันนี้ (27 มิ.ย.).ที่ห้องประชุม 4/1 ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีการประชุมคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบล (ก.อบต.) กาฬสินธุ์ ที่มีทั้งสายผู้ทรงคุณวุฒิและสายการเมืองและฝ่ายปกครองเข้าร่วมประชุมรวม 27 คน โดยมี นายกวี กิตติสถาพร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ในฐานะประธาน ก.อบต.และ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ ในฐานะทำหน้าที่กำกับดูแลงานท้องถิ่นจังหวัด
โดยที่ประชุมได้หารือเพื่อรับรองมติในการประชุมในคราวที่แล้ว และการหารือในการแก้ไขปัญหาทุจริตคดีสินบน 300 ล้านบาท ท่ามกลางความเคร่งเครียดภายในที่ประชุม เนื่องจากทางจังหวัดกำลังดำเนินคดีกับ นายเคน หนองเสนา ก.อบต.กาฬสินธุ์ สายผู้ทรงคุณวุฒิ ที่กระทำการแจ้งมติอันเป็นเท็จ ซึ่ง วันนี้ นายเคน หนองเสนา ยังได้เดินทางเข้าร่วมประชุมด้วย
นายกวี กล่าวภายหลังการประชุม ว่า การประชุมครั้งนี้ ได้มีการพิจารณาหารือ เพื่อแก้ไขปัญหากรณีสินบนสอบ อบต.ทุ่งคลอง เป็นหลัก ซึ่ง ก.อบต.ได้มีมติรับรองผลการประชุม ก.อบต.เมื่อครั้งที่ 4/2549 ที่มีปัญหาการแจ้งความกันอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ได้ปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำของนายเคน หนองเสนา ก.อบต.ซึ่งแจ้งมติที่ประชุมเป็นเท็จ แต่เมื่อมีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร
สำหรับการแก้ไขปัญหากรณี อบต.ทุ่งคลอง ทางจังหวัดก็จะเป็นสื่อกลางส่งความเห็นของ ก.อบต.กาฬสินธุ์ ในการแก้ไขปัญหา ให้ อบต.ทุ่งคลอง ส่งไปยัง ก.อบต.กลาง เพื่อดำเนินการพิจารณาต่อไป
แต่สำหรับกรณี นายเคน หนองเสนา ก.อบต.จว.กาฬสินธุ์ ที่แจ้งมติที่ประชุมเป็นเท็จ ก็จะต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย เพื่อสร้างบรรทัดฐานให้กับสังคม ดังนั้น สำหรับ ก.อบต.รวม 15 คน ที่ต้องเดินทางไปให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ก็ขอให้ปากคำไปตามความจริง ทั้งนี้ ขอวิงวอนให้มีความสำนึกในการปฏิบัติหน้าที่ ของ ผู้ทรงคุณวุฒิ ในงาน ก.อบต.ที่จำเป็นต้องเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อน ซึ่งหาก ก.อบต.มีจิตใจที่ไม่โปร่งใส แล้วจะให้ใครพึ่งพาได้ นายกวี กล่าว
ด้าน นายเพิ่ม รัฐไชย ก.อบต.จว.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็น 1 ใน 15 คน ที่ไปพัวพันกับการแจ้งมติที่ประชุมเท็จ ได้ปฏิเสธว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นในการกระทำของ นายเคน ซึ่งตนรู้สึกละอายใจมากที่ถูกนำชื่อไปพัวพัน และพร้อมที่จะให้การต่อพนักงานสอบสวนอย่างตรงไปตรงมาเช่นเดียวกับ ก.อบต.หลายคนที่ได้ปฏิเสธเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อลากคอพวกทุจริต และเพื่อเกียรติยศศักดิ์ศรีของวงศ์ตระกูลด้วย
นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ก.อบต.กาฬสินธุ์ สายผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวถึงแนวทางแก้ไขปัญหาการสอบ อบต.ทุ่งคลอง ว่าในขณะนี้คงต้องปล่อยให้ทางจังหวัด ได้เสนอ ความเห็นไปยังก.อบต.กลางเนื่องจาก คดีสินบนทุ่งคลอง มีความซับซ้อน และไม่ต้องการจะพูดอะไร อีกทั้งในส่วนกรณีของ นายเคนฯ ตนไม่อยากพูดถึงเนื่องจากเกรงว่าจะทำให้ ก.อบต.บางคนไม่พอใจได้
ขณะที่มีรายงานว่า ภายหลังการประชุม ก.อบต.จว.กาฬสินธุ์ นายเคน หนองเสนา ก.อบต.จว.กาฬสินธุ์ สายผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ต้องหา คดีแจ้งมติเท็จ ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวและได้ขึ้นรถหลบหนีไป
ส่วนความคืบหน้ากรณีนายถาวร บุตรศรี นายก.อบต.ทุ่งคลอง ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนอำเภอคำม่วง โดยนายพิบูลย์ สุวรรณศรี รักษาการนายอำเภอคำม่วง ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 90 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ให้ปฏิบัตหน้าที่ ล่าสุดนายเดชา ตันติยวรงค์ รอง.ผวจ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ในขณะนี้ทางจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้พิจารณาปัญหาของ นายถาวร บุตรศรี นายก.อบต.ทุ่งคลอง และได้มีคำสั่งให้นายถาวร บุตรศรี พันจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งคลองไปแล้ว โดยคำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2549
นายเดชา กล่าวว่า การสั่งให้ นายถาวร บุตรศรี พ้นจากตำแหน่ง นายก อบต.ทุ่งคลอง เป็นไปตามการพิจารณาของคณะกรรมการจังหวัด ซึ่งจังหวัด มีสิทธิ์ที่จะใช้ อำนาจตามความในมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5)พ.ศ.2546 สำหรับ ผู้บริหารในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่
กรณีนายถาวร บุตรศรี จึงถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ของกาฬสินธุ์ ที่ถูกพิจารณาขึ้นเป็นรายแรก ซึ่งสาเหตุการใช้อำนาจตามมาตรา 92 นั้นประกอบด้วย การสอบสวนข้อเท็จจริง ที่จังหวัดได้รับจาก อำเภอคำม่วง ที่มีมูลเหตุทำให้การสอบไม่โปร่งใส โดยเฉพาะกรณีการเรียกบรรจุพนักงานส่วนตำบลจากบัญชีผู้สอบแข่งขัน ตามประกาศ อบต.ทุ่งคลองฉบับวันที่ 13 มิถุนายน 2549 ซึ่งคณะกรรมการพบว่า นายถาวร ได้กระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ รวม 4 กรณี คือ
1.การลงนามในหนังสือ อบต.ทุ่งคลอง เลขที่ กส.75001/ว 15 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 เรื่องการบรรจุและแต่งตั้ง พนักงานส่วนตำบล ประจำปี พ.ศ.2548 รวม 12 ตำแหน่ง ซึ่งได้กระทำการโดยไม่ผ่านความเห็นชอบของ ก.อบต.จังหวัด
2.การลงนามในหนังสือ องค์การบริหารส่วนตำบล ที่ กส.75001/ว 40 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2549ที่ได้แจ้งเชิญคณะกรรมการ ก.อบต.จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อมาประชุมในวันที่ 31 มีนาคม 2549 ณ โรงเรียนมิตรภาพ 32 ซึ่งนายถาวร บุตรศรี ไม่มีอำนาจและหน้าที่แจ้งเชิญคณะกรรมการ ก.อบต.จังหวัดมาประชุม แต่อย่างใด
3.การลงนามในคำสั่ง อบต.ทุ่งคลองที่ 48/2549 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2549 เรื่องการพิทักษ์และคุ้มครองสิทธิของผู้สอบแข่งขันได้เป็นพนักงานส่วนตำบลขององค์กรบริหารส่วนตำบลทุ่งคลองประจำปี 2548 และแจ้งเวียนไปยังอำเภอต่างๆ
และ 4.การลงนามในหนังสือ องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งคลอง ที่ กส.75001/ว 51 ลงวันที่ 20 เมษายน 2549 แจ้งให้ผู้สอบแข่งขันได้ นอกจาก 12 ตำแหน่งที่ออกคำสั่งบรรจุไปแล้ว เข้ารับการปฐมนิเทศในวันที่ 29 เมษายน 2549 ณ วิทยาลัยการอาชีพคำม่วง
"การกระทำดังกล่าว ทำให้เกิดความเข้าใจสับสน หลงผิด ทำให้บุคคลอื่น เชื่อว่า การดำเนินการสอบแข่งขัน อบต.ทุ่งคลอง เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีปัญหา"
นายเดชา กล่าวว่า การกระทำดังกล่าว ของ นายถาวร บุตรศรี ตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งคลอง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเห็นว่าบุคคลดังกล่าวมีเจนาที่จะกระทำการโดยไม่ชอบด้วยระเบียบกฏหมายเป็นการกระทำเกินกว่าอำนาจหน้าที่ที่กฏหมายกำหนดไว้ตามมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545
หากนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งคลองดำรงตำแหน่งต่อไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการและเป็นการฝ่าฝืนความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน จังหวัด จึงเห็นควรให้นายถาวร บุตรศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งคลอง พ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2546
ประกอบกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้รายงานผลการดำเนินการตรวจสอบคดีทุจริตการสอบ อบต.ทุ่งคลองว่า นายถาวร มีพฤติกรรมทุจริตต่อหน้าที่ตำแหน่งราชการตามประมวลกฏหมายอาญาและความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฏหมาอื่นซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3(5) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 จริง จึงมีคำสั่งให้นายถาวร บุตรศรี พ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งคลอง ตั้งแต่บัดนี้เป็นไปต้นไป
กรณี นายกวี กิตติสถาพร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งการให้ดำเนินคดีกับ นายเคน หนองเสนา คณะกรรมการพนักงานส่วนตำบล (ก.อบต.) กาฬสินธุ์ สายผู้ทรงคุณวุฒิ เนื่องจากแจ้งมติที่ประชุมเป็นเท็จ ต่อนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุ่งคลอง อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ไปเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตการสอบพนักงานส่วนตำบล อบต.ทุ่งคลอง
โดยมีการเรียกรับสินบนจากผู้สอบรวมกว่า 300 ล้านบาท ซึ่ง พล.ต.ต.กวี สุภานันท์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ยังได้เปิดเผยถึงกระบวนการทุจริตโดยชี้เส้นทางการเรียกรับสินบนคล้ายแชร์ลูกโซ่ ที่มีทั้ง นักการเมือง ข้าราชการ และ ก.อบต.เข้าไปมีเอี่ยวในคดีนี้ด้วย
ล่าสุด เมื่อวันนี้ (27 มิ.ย.).ที่ห้องประชุม 4/1 ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีการประชุมคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบล (ก.อบต.) กาฬสินธุ์ ที่มีทั้งสายผู้ทรงคุณวุฒิและสายการเมืองและฝ่ายปกครองเข้าร่วมประชุมรวม 27 คน โดยมี นายกวี กิตติสถาพร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ในฐานะประธาน ก.อบต.และ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ ในฐานะทำหน้าที่กำกับดูแลงานท้องถิ่นจังหวัด
โดยที่ประชุมได้หารือเพื่อรับรองมติในการประชุมในคราวที่แล้ว และการหารือในการแก้ไขปัญหาทุจริตคดีสินบน 300 ล้านบาท ท่ามกลางความเคร่งเครียดภายในที่ประชุม เนื่องจากทางจังหวัดกำลังดำเนินคดีกับ นายเคน หนองเสนา ก.อบต.กาฬสินธุ์ สายผู้ทรงคุณวุฒิ ที่กระทำการแจ้งมติอันเป็นเท็จ ซึ่ง วันนี้ นายเคน หนองเสนา ยังได้เดินทางเข้าร่วมประชุมด้วย
นายกวี กล่าวภายหลังการประชุม ว่า การประชุมครั้งนี้ ได้มีการพิจารณาหารือ เพื่อแก้ไขปัญหากรณีสินบนสอบ อบต.ทุ่งคลอง เป็นหลัก ซึ่ง ก.อบต.ได้มีมติรับรองผลการประชุม ก.อบต.เมื่อครั้งที่ 4/2549 ที่มีปัญหาการแจ้งความกันอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ได้ปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำของนายเคน หนองเสนา ก.อบต.ซึ่งแจ้งมติที่ประชุมเป็นเท็จ แต่เมื่อมีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร
สำหรับการแก้ไขปัญหากรณี อบต.ทุ่งคลอง ทางจังหวัดก็จะเป็นสื่อกลางส่งความเห็นของ ก.อบต.กาฬสินธุ์ ในการแก้ไขปัญหา ให้ อบต.ทุ่งคลอง ส่งไปยัง ก.อบต.กลาง เพื่อดำเนินการพิจารณาต่อไป
แต่สำหรับกรณี นายเคน หนองเสนา ก.อบต.จว.กาฬสินธุ์ ที่แจ้งมติที่ประชุมเป็นเท็จ ก็จะต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย เพื่อสร้างบรรทัดฐานให้กับสังคม ดังนั้น สำหรับ ก.อบต.รวม 15 คน ที่ต้องเดินทางไปให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ก็ขอให้ปากคำไปตามความจริง ทั้งนี้ ขอวิงวอนให้มีความสำนึกในการปฏิบัติหน้าที่ ของ ผู้ทรงคุณวุฒิ ในงาน ก.อบต.ที่จำเป็นต้องเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อน ซึ่งหาก ก.อบต.มีจิตใจที่ไม่โปร่งใส แล้วจะให้ใครพึ่งพาได้ นายกวี กล่าว
ด้าน นายเพิ่ม รัฐไชย ก.อบต.จว.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็น 1 ใน 15 คน ที่ไปพัวพันกับการแจ้งมติที่ประชุมเท็จ ได้ปฏิเสธว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นในการกระทำของ นายเคน ซึ่งตนรู้สึกละอายใจมากที่ถูกนำชื่อไปพัวพัน และพร้อมที่จะให้การต่อพนักงานสอบสวนอย่างตรงไปตรงมาเช่นเดียวกับ ก.อบต.หลายคนที่ได้ปฏิเสธเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อลากคอพวกทุจริต และเพื่อเกียรติยศศักดิ์ศรีของวงศ์ตระกูลด้วย
นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ก.อบต.กาฬสินธุ์ สายผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวถึงแนวทางแก้ไขปัญหาการสอบ อบต.ทุ่งคลอง ว่าในขณะนี้คงต้องปล่อยให้ทางจังหวัด ได้เสนอ ความเห็นไปยังก.อบต.กลางเนื่องจาก คดีสินบนทุ่งคลอง มีความซับซ้อน และไม่ต้องการจะพูดอะไร อีกทั้งในส่วนกรณีของ นายเคนฯ ตนไม่อยากพูดถึงเนื่องจากเกรงว่าจะทำให้ ก.อบต.บางคนไม่พอใจได้
ขณะที่มีรายงานว่า ภายหลังการประชุม ก.อบต.จว.กาฬสินธุ์ นายเคน หนองเสนา ก.อบต.จว.กาฬสินธุ์ สายผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ต้องหา คดีแจ้งมติเท็จ ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวและได้ขึ้นรถหลบหนีไป
ส่วนความคืบหน้ากรณีนายถาวร บุตรศรี นายก.อบต.ทุ่งคลอง ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนอำเภอคำม่วง โดยนายพิบูลย์ สุวรรณศรี รักษาการนายอำเภอคำม่วง ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 90 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ให้ปฏิบัตหน้าที่ ล่าสุดนายเดชา ตันติยวรงค์ รอง.ผวจ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ในขณะนี้ทางจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้พิจารณาปัญหาของ นายถาวร บุตรศรี นายก.อบต.ทุ่งคลอง และได้มีคำสั่งให้นายถาวร บุตรศรี พันจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งคลองไปแล้ว โดยคำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2549
นายเดชา กล่าวว่า การสั่งให้ นายถาวร บุตรศรี พ้นจากตำแหน่ง นายก อบต.ทุ่งคลอง เป็นไปตามการพิจารณาของคณะกรรมการจังหวัด ซึ่งจังหวัด มีสิทธิ์ที่จะใช้ อำนาจตามความในมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5)พ.ศ.2546 สำหรับ ผู้บริหารในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่
กรณีนายถาวร บุตรศรี จึงถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ของกาฬสินธุ์ ที่ถูกพิจารณาขึ้นเป็นรายแรก ซึ่งสาเหตุการใช้อำนาจตามมาตรา 92 นั้นประกอบด้วย การสอบสวนข้อเท็จจริง ที่จังหวัดได้รับจาก อำเภอคำม่วง ที่มีมูลเหตุทำให้การสอบไม่โปร่งใส โดยเฉพาะกรณีการเรียกบรรจุพนักงานส่วนตำบลจากบัญชีผู้สอบแข่งขัน ตามประกาศ อบต.ทุ่งคลองฉบับวันที่ 13 มิถุนายน 2549 ซึ่งคณะกรรมการพบว่า นายถาวร ได้กระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ รวม 4 กรณี คือ
1.การลงนามในหนังสือ อบต.ทุ่งคลอง เลขที่ กส.75001/ว 15 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 เรื่องการบรรจุและแต่งตั้ง พนักงานส่วนตำบล ประจำปี พ.ศ.2548 รวม 12 ตำแหน่ง ซึ่งได้กระทำการโดยไม่ผ่านความเห็นชอบของ ก.อบต.จังหวัด
2.การลงนามในหนังสือ องค์การบริหารส่วนตำบล ที่ กส.75001/ว 40 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2549ที่ได้แจ้งเชิญคณะกรรมการ ก.อบต.จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อมาประชุมในวันที่ 31 มีนาคม 2549 ณ โรงเรียนมิตรภาพ 32 ซึ่งนายถาวร บุตรศรี ไม่มีอำนาจและหน้าที่แจ้งเชิญคณะกรรมการ ก.อบต.จังหวัดมาประชุม แต่อย่างใด
3.การลงนามในคำสั่ง อบต.ทุ่งคลองที่ 48/2549 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2549 เรื่องการพิทักษ์และคุ้มครองสิทธิของผู้สอบแข่งขันได้เป็นพนักงานส่วนตำบลขององค์กรบริหารส่วนตำบลทุ่งคลองประจำปี 2548 และแจ้งเวียนไปยังอำเภอต่างๆ
และ 4.การลงนามในหนังสือ องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งคลอง ที่ กส.75001/ว 51 ลงวันที่ 20 เมษายน 2549 แจ้งให้ผู้สอบแข่งขันได้ นอกจาก 12 ตำแหน่งที่ออกคำสั่งบรรจุไปแล้ว เข้ารับการปฐมนิเทศในวันที่ 29 เมษายน 2549 ณ วิทยาลัยการอาชีพคำม่วง
"การกระทำดังกล่าว ทำให้เกิดความเข้าใจสับสน หลงผิด ทำให้บุคคลอื่น เชื่อว่า การดำเนินการสอบแข่งขัน อบต.ทุ่งคลอง เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีปัญหา"
นายเดชา กล่าวว่า การกระทำดังกล่าว ของ นายถาวร บุตรศรี ตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งคลอง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเห็นว่าบุคคลดังกล่าวมีเจนาที่จะกระทำการโดยไม่ชอบด้วยระเบียบกฏหมายเป็นการกระทำเกินกว่าอำนาจหน้าที่ที่กฏหมายกำหนดไว้ตามมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545
หากนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งคลองดำรงตำแหน่งต่อไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการและเป็นการฝ่าฝืนความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน จังหวัด จึงเห็นควรให้นายถาวร บุตรศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งคลอง พ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2546
ประกอบกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้รายงานผลการดำเนินการตรวจสอบคดีทุจริตการสอบ อบต.ทุ่งคลองว่า นายถาวร มีพฤติกรรมทุจริตต่อหน้าที่ตำแหน่งราชการตามประมวลกฏหมายอาญาและความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฏหมาอื่นซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3(5) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 จริง จึงมีคำสั่งให้นายถาวร บุตรศรี พ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งคลอง ตั้งแต่บัดนี้เป็นไปต้นไป