ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ขนส่งโคราชสั่งคุมเข้มรถรับจ้างรับ-ส่ง นักเรียน ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจจับทุกพื้นที่ ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซาก วอนผู้ปกครองอย่าใช้บริการรถเถื่อน เพื่อความปลอดภัยของบุตรหลาน เผยทั้งจังหวัดได้รับอนุญาตถูกต้องแค่ 141 คันเท่านั้น ที่เหลือเถื่อนหมด ขณะที่อาการของเด็กนักเรียน โรงเรียนไตรรัตน์วิทยาคาร อ.ปากช่อง แพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน 1 ราย ส่วนอีก 5 คน ยังน่าห่วงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ ด.ช.ธีระพงษ์ อาการหนักสุด ยังไม่รู้สึกตัว
วันนี้ (22 มิ.ย.) นายอนุสรณ์ วิทูรากร ขนส่งจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงกรณีรถรับ-ส่งนักเรียนเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง และล่าสุด เมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.) รถรับ-ส่งนักเรียนโรงเรียนไตรรัตน์วิทยาคาร ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เกิดอุบัติเหตุ ทำให้มีนักเรียนเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 6 ราย ว่า
จากการตรวจสอบพบว่า รถรับ-ส่งนักเรียนคันดังกล่าว เป็นรถกระบะที่นำมาใช้ผิดประเภท โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้รับจ้างรับ-ส่งนักเรียน ตามระเบียบกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยการขออนุญาตและการอนุญาต ให้ใช้รถรับจ้างรับส่งนักเรียน พ.ศ.2547 แต่อย่างใด ซึ่งรถประเภทนี้มีวิ่งอยู่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างอำเภอ แม้เจ้าหน้าที่จะทำการปราบปราม และดำเนินการตรวจจับแล้วก็ยังไม่หมดไป
ฉะนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นซ้ำซ้อนอีก จึงได้สั่งการให้สำนักงานขนส่งสาขา ทั้ง 7 แห่ง ของจังหวัดนครราชสีมา ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดตรวจจับ ประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกตรวจเข้มรถรับจ้างรับส่งนักเรียนที่ผิดกฎหมาย หรือรถรับส่งนักเรียนเถื่อนในทุกพื้นที่แล้ว
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน จ.นครราชสีมา มีรถที่จดทะเบียน เป็นรถรับส่งนักเรียนที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องทั้งสิ้นจำนวน 141 คัน ทางสำนักงานได้จัดอบรมพนักงานขับรถรับส่งนักเรียนไปเมื่อปลายปี 2548 ที่ผ่านมา โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมจำนวนกว่า 400 คน นอกจากนี้ ยังได้จัดสัมมนาผู้บริหารโรงเรียน เรื่องรูปแบบการดำเนินการรถรับ-ส่งนักเรียนที่มีคุณภาพ ไปแล้วเช่นกัน เพื่อให้โรงเรียนช่วยสอดส่องดูแลรถที่นำมาใช้สำหรับรับส่งนักเรียน
ทั้งนี้ รถรับส่งนักเรียนต้องมีอุปกรณ์สำหรับรถครบถ้วนถูกต้องตามกฎหมายกำหนด และเป็นรถที่ไม่ค้างชำระภาษี รวมทั้งต้องจัดให้มี ดังนี้ คือ แผ่นป้ายข้อความพื้นสีส้มขนาดกว้างไม่น้อยกว่า 25 เซนติเมตร (ซม.) ยาวไม่น้อยกว่า 60 ซม.ระบุข้อความว่า “รถรับส่งนักเรียน” เป็นตัวอักษรสีดำ ความสูงไม่น้อยกว่า 15 ซม.ติดที่ด้านหน้าและด้านท้ายของตัวรถ ให้สามารถมองเห็นข้อความได้ชัดเจน ไม่น้อยกว่า 50 เมตร และเมื่อไม่ได้ใช้รถรับส่งนักเรียนให้ถอดแผ่นป้ายหรือปิดคลุมแผ่นป้าย
นอกจากนี้ ไฟสัญญาณสีเหลืองอำพันหรือสีแดง ต้องปิดเปิดเป็นระยะๆ ด้านหน้าและด้านท้ายตัวรถ ให้เห็นได้ชัดเจนไม่น้อยกว่า 150 เมตร เมื่อไม่ได้ใช้รถนั้นให้งดใช้ไฟสัญญาณ, ต้องมีเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุฉุกเฉิน เช่น เครื่องดับเพลิง ค้อนทุบกระจก 1 อัน, ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ใช้รถรับส่งนักเรียนต้องไม่บรรทุก หรือยินยอมให้ผู้อื่นบรรทุกผู้โดยสารอื่นไปกับนักเรียน เว้นแต่เป็นผู้ควบคุมนักเรียน หรือผู้ปกครอง
ผู้ขับรถรับส่งนักเรียนต้องไม่มีประวัติเสียหายอันเกิดจากการขับรถ และเป็นผู้ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย การขนส่งทางบกทุกประเภท หรือใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ หรือใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี
ผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้รถรับส่งนักเรียน ต้องจัดให้มีผู้ควบคุมดูแลนักเรียนอายุไม่น้อยกว่า 18 ปี ประจำอยู่ในรถตลอดเวลาที่ใช้รับส่งนักเรียน โดยหนังสืออนุญาตให้ใช้รถรับส่งนักเรียนนั้น นายทะเบียนอนุญาตให้ใช้รถได้ครั้งละไม่เกิน 6 เดือน ผู้ประกอบการจะต้องนำมาต่ออนุญาตพร้อมกับนำรถมาตรวจสภาพด้วย ทุกครั้ง
นายอนุสรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ต้นปี 2549 เป็นต้นมา สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาได้ทำการตรวจจับรถรับส่งนักเรียนที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 21,60 แล้วจำนวน 5 ราย โดยมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
“อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือผู้ปกครองที่จะจ้างรถรับส่งให้กับบุตรหลานไปเรียนหนังสือได้หันมาใช้รถ รับส่งนักเรียนที่ถูกต้องตามกฎหมายโดยสังเกตได้จากสติกเกอร์ที่กรมการขนส่งทางบกอนุญาต ให้ติดไว้บริเวณด้านหน้ารถ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตลูกหลานของท่านเอง” นายอนุสรณ์ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของเด็กนักเรียน โรงเรียนไตรรัตน์วิทยาคาร ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 6 ราย จากอุบัติเหตุรถรับส่งนักเรียนชนกับรถบรรทุก 10 ล้อที่ ต.หนองสร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.) และทางโรงพยาบาลปากช่องนานา อ.ปากช่อง ได้ส่งผู้ป่วยมารักษาต่อ ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นั้น
ล่าสุดวันนี้ (22 มิ.ย.) ทางคณะแพทย์ของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า อาการของเด็กนักเรียนทั้ง 6 คน ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยเด็กนักเรียนชายพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 5 ตึกอาคารเฉลิมพระเกียรติ โดยเฉพาะ ด.ช.ธีระพงษ์ ไตรสูงเนิน อายุ 13 ขวบ นั้นมีอาการสาหัสมากที่สุด คือ ผู้ป่วยยังมีอาการช็อกอยู่ตลอดและไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และให้ยากระตุ้นหัวใจอยู่ตลอดเวลา
ส่วน ด.ช.ณัฐพงษ์ ศิริจันท์ อายุ 12 ขวบ มีอาการเลือดคั่งและมีลมในช่องเยื้อหุ้มปอด ต้องใส่สายเข้าไปในช่องปอด แต่คนไข้รู้สึกตัวดี, ด.ช.เจตรินทร์ เหล่าศรี อายุ 14 ขวบ มีอาการอาเจียน เป็นระยะแพทย์ให้รอดูอาการทางสมอง, ด.ช.เกียรติศักดิ์ กลีบกลาง อายุ 12 ขวบ มีอาการชอกช้ำช่องอก ซี่โครงข้างขวาหัก ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่คนไข้รู้สึกตัวดี
สำหรับเด็กนักเรียนหญิงอีก 2 คน คือ ด.ญ.ณัฐสุดา ลอยมา อายุ 12 ขวบ และ ด.ญ.สุนีย์ สายขุนทด อายุ 9 ขวบ พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องศัลยกรรมหญิง ซึ่งผู้ป่วยรู้สึกตัวดี แต่ทุกคนยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดเช่นกัน ล่าสุด มีรายงานว่า เด็กนักเรียนหญิง 1 ใน 2 คน ข้างต้นแพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว