xs
xsm
sm
md
lg

นายทุนฮุบลำเหมืองสาธารณะ - 200 ฮวงซุ้ย ติด “บิ๊กซีแพร่” จมน้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แพร่ – วิบากกรรมซ้ำบรรพบุรุษตระกูลแซ่ของเมืองแพร่ ถูกน้ำท่วมมิดฮวงซุ้ยกว่า 200 หลัง ในป่าช้าจีนติดกับ “บิ๊กซี” สาขาแพร่ทันที หลังเกิดเหตุน้ำป่าทะลักเมืองแพร่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ฮวงซุ้ยคนไทยเชื้อสายจีนที่มีมากว่า 100 ปีแห่งนี้ ไม่เคยถูกน้ำท่วมมาก่อน เผย ต้นเหตุใหญ่ของน้ำท่วมขัง มาจากถูกนายทุนฮุบลำเหมืองสาธารณะ ออกโฉนดขายนายทุน

เมื่อคราวที่เกิดน้ำป่า – โคลนถล่มเมืองแพร่ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 22-23 พ.ค.2549 นอกเหนือไปจากจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านหลายท้องที่อย่างหนักแล้ว ปรากฏว่า เหตุการณ์คราวนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงพยานหลักฐานเชิงประจักษ์ ที่เกิดขึ้นชัดเจนต่อวิถีชีวิต– วัฒนธรรมในชุมชนท้องถิ่นเมืองแพร่ หลังการเข้ามาเปิดสาขาของ “บิ๊กซี” ที่ก่อสร้างสาขาแพร่เมื่อต้นปี 2549 และเปิดบริการอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2549 ก่อนที่จะเปิดบริการเต็มตัว 6 มิ.ย.2549

ท่ามกลางกระแสการคัดค้านจากกลุ่มทุนค้าปลีกรายย่อย – กลุ่มตระกูลแซ่ในเมืองแพร่ ที่รวมตัวกันยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ ซึ่งล่าสุดเรื่องยังอยู่ระหว่างการไต่สวนอยู่ ยังไม่มีกำหนดว่า จะมีการตัดสินวันไหน

เหตุการณ์ที่ถือเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ดังกล่าว ก็คือ ป่าช้าจีนที่มีพื้นที่ติดกับด้านข้างห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสาขาแพร่ ต่อเนื่องไปถึงด้านหลัง ซึ่งเป็นป่าช้าเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี มีร่างไร้วิญญาณของคนไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดแพร่ ถูกฝังอยู่ไม่น้อยกว่า 200 ศพ และฮวงซุ้ยในป่าช้าแห่งนี้บางหลัง ต้องเกิดรอยแตกร้าวขึ้นเพราะแรงสั่นสะเทือน จากการตอกเสาเข็มเมื่อคราวการก่อสร้างอาคารของ “บิ๊กซี” มาแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่ในจังหวัดแพร่ ฮวงซุ้ยกว่า 200 หลังในป่าช้าจีนแห่งนี้ ล้วนจมอยู่ใต้น้ำทั้งสิ้น แม้ว่าโดยหลักการทั่วไปของการเลือกทำเลฮวงซุ้ย ส่วนใหญ่จะเป็นเนิน หรือที่สูง เช่นเดียวกับป่าช้าจีนเมืองแพร่ ที่ในอดีตกว่า 100 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่เคยเกิดขึ้นเช่นกัน

ยกเว้นคราวน้ำท่วม 22-33 พ.ค.2549 จำเพาะเจาะจง เป็นน้ำท่วมหลังห้างบิ๊กซีสาขาแพร่ สร้างเสร็จและให้บริการ

นายเอกภาพ อู่โชตนานันท์ เจ้าของร้านเกษตรสินค้าพืชไร่ มีบ้านพักอยู่ที่ 249-251 ถนนเจริญเมือง อ.เมือง จ.แพร่ ที่ยืนยันว่า การทำมาหากินของเขาไม่เกี่ยวกับค้าปลีก แต่ต้องออกมาต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม เพราะเห็นว่า ฮวงซุ้ยฝังศพบรรพบุรุษคนไทยเชื้อสายจีนในเมืองแพร่ ที่มีมากกว่า 15 ตระกูลแซ่ ต้องได้รับผลกระทบกับการอนุญาตให้บิ๊กซีเปิดสาขาแพร่ กล่าวว่า เขาเป็นผู้หนึ่งที่เป็นตัวแทนผู้ได้รับความเดือดร้อน จากการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่บังคับใช้กฎหมายต่อห้างบิ๊กซีอย่างเสมอภาคกับกิจการอื่นๆ ในจังหวัดแพร่

ทั้งที่ความจริงกฎหมายควบคุมไม่ให้ผู้คนในสังคมเดือดร้อน และได้รับความเป็นธรรมถ้วนหน้า การละเมิดกฎหมายของกิจการดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนโดยตรง และทางด้านจิตใจ โดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายจีนในเมืองแพร่ ยังถูกรุกรานทางวัฒนธรรมความเชื่ออีกด้วย

เขาบอกว่า เหตุการณ์น้ำท่วมป่าช้าระหว่าง 22-24 พ.ค.2549 ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะความเป็นจริงป่าช้าจีนเป็นที่สูงที่คนในอดีตใช้ฝังศพ แต่วันนี้กลายเป็นบ่อน้ำ ไม่มีทางระบายออก เพราะมีการถมลำเหมืองสาธารณะที่เคยมีอยู่มาชั่วนาตาปี ตั้งแต่ศูนย์การค้ากาดน้ำทอง มาจนถึงโรงแรมน้ำทอง และห้างบิ๊กซี แล้วเอาไปออกโฉนดขายให้แก่นายทุนใหญ่ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ระบายน้ำไม่ได้

“ป่าช้าจีนถ้าถึงฤดูฝน น้ำที่ไหลผ่านไม่สามารถไปไหนได้ก็ต้องไหลลงที่ต่ำ และแน่นอนว่า หมู่บ้านต่างๆ อาจต้องประสบปัญหาเดือดร้อนต่อไป โดยที่เรียกหาคนรับผิดชอบไม่ได้เลย”

นายเจนถิ่น เจนสุริยา เจ้าของร้านทองเจนถิ่น ตั้งอยู่ถนนช่อแฮ อ.เมืองแพร่ ที่ฮวงซุ้ยของพ่อเขา ถูกเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ ที่นำมาใช้ก่อสร้างห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาแพร่ จนทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างหนัก ได้รับความเสียหาย แท่นหินที่เป็นแม่ธรณีถึงกับล้มลง ย้ำว่า ปัญหาสำคัญขณะนี้เราต้องสืบค้นลำเหมืองที่ขาดหายไปเป็นไปได้อย่างไร

นางดาราณี ชัยนิชยกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท แสงไทยแพร่ จำกัด เจ้าของกิจการห้างสรรพสินค้ามาร์คโฟร์ พลาซ่า กล่าวว่า การต่อสู้กับการเอาเปรียบทางสังคม บางครั้งสังคมอาจมองไปถึงการแข่งขันทางการค้า แต่ในความจริงแล้วเทสโก้โลตัส ที่ตั้งสาขาในเมืองแพร่ ไม่มีกลุ่มคนในตลาดไปต่อต้าน มีแต่การรวมพลังของผู้ประกอบการในท้องถิ่น เพื่อต่อสู้แข่งขันทางการค้าตามปกติ ส่วนห้างฯบิ๊กซีที่คนส่วนใหญ่ออกมาต่อต้าน เป็นเรื่องของการละเมิดกฎหมาย ที่ส่งผลไปถึงวัฒนธรรมของผู้คนทั้งเมือง

“จากวันนี้เป็นต้นไป ฝนตกลงมาเมื่อไหร่น้ำก็จะท่วมป่าช้าจีน ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าไม่มีการละเมิดกฎหมาย และไม่ทำให้ลำเหมืองระบายน้ำสาธารณะหายไป”

ทั้งนี้ คนไทยเชื้อสายจีนในเมืองแพร่ นำศพญาติพี่น้อง บรรพบุรุษ ฝังไว้ในป่าช้าจีนแห่งนี้ต่อเนื่องกันมากกว่า 100 ปี ซึ่งที่ดินที่ใช้เป็นป่าช้าจีนแห่งนี้ กลุ่มชาวจีนในยุคแรกๆ ได้ร่วมกันจัดซื้อเป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ เพื่อใช้ทำป่าช้า เพราะเชื่อว่าเป็นทำเลที่ดี ลูกหลานจะทำมาค้าขึ้น แต่เนื่องจากชาวจีนไม่สามารถเป็นเจ้าของได้เพราะเป็นต่างด้าว จึงได้มอบให้ อ.เมืองแพร่ เป็นผู้ดูแล ตรงนี้จึงกลายเป็นที่สาธารณะ โดยมีวัตถุประสงค์ในการใช้เป็นป่าช้า

เมื่อปี 2546 บิ๊กซี และโลตัส ได้เข้ามาขออนุญาตตั้งในจังหวัดแพร่ แต่ในที่สุด โลตัส สามารถดำเนินการได้ก่อน ส่วนบิ๊กซีขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคารแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2546 จนสร้างเสร็จและเริ่มเปิดให้บริการ (อย่างไม่เป็นทางการ) ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.2549 ท่ามกลางกระแสต่อต้านจากกลุ่มทุนในท้องถิ่น / ลูกหลานคนไทยเชื้อสายจีนในเมืองแพร่อย่างต่อเนื่อง


ก่อนหน้านี้ นายเอกชัย วงศ์วรกุล ประธานหอการค้าจังหวัดแพร่ นายเอกภาพ โชตนานนท์ ฝ่ายธุรกิจการเกษตร นายกิจชัย กิจภิญโญ เลขานุการหอการค้าจังหวัดแพร่ และนางจีรพันธ์ โชติรัตนวิมล กรรมการหอการค้าจังหวัดแพร่ ได้เดินทางเข้าพบ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เพื่อยื่นหนังสือประท้วง อบต.นาจักร ที่อนุญาตห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ตั้งในเขตตัวเมืองแพร่ ติดกับมัสยิดอิสลาม และฌาปณสถาน (ป่าช้าจีน)

ทั้งนี้ ได้ให้เหตุผลว่า ตามที่ อบต.นาจักร อนุญาตให้ก่อสร้างห้างสรรพสินค้าในตัวเมือง ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎกระทรวงปี 2547 ควบคุมอาคารใน อ.เมืองแพร่ และ อ.สูงเม่น และฝ่าฝืน พ.ร.บ.ผังเมือง ดังนั้น หอการค้าจังหวัดแพร่ ได้เรียกร้องให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง ในการอนุญาตของ อบต.นาจักร ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งถ้าผลออกมาอย่างไรจังหวัดจะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ภายหลังการเข้าหารือ กับผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ โยธาธิการและผังเมือง จังหวัดแพร่ อบต.นาจักร รวมทั้งข้าราชการอีกหลายหน่วยร่วมหารือ เพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยผลการประชุมไม่สามารถหาข้อยุติได้เนื่องจากไม่ได้รับความกระจ่างจาก อบต.นาจักร โดยนายสถิตพงศ์ ธรรมสรางกูร ปลัด อบต.นาจักร ยืนยันว่าการขออนุญาตจาก อบต.นาจักรดำเนินการอย่างถูกต้องทุกประการแล้ว

ขณะที่กลุ่มลูกหลานคนไทยเชื้อสายจีน มากกว่า 15 ตระกูลแซ่ ในจังหวัดแพร่ ได้ร่วมกันฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ในข้อหา อบต.นาจักร ละเว้นการบังคับใช้กฎหมาย เปิดทางให้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่คือห้างฯบิ๊กซี มาตั้งในเขตผังเมืองรวม หรือพื้นที่ควบคุมของผังเมืองรวมจังหวัดแพร่ ทำให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อป่าช้าจีน และประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งขณะนี้เรื่องกำลังอยู่ระหว่างพิจารณา ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พ.ค.2549 ตุลาการศาลปกครอง ได้ลงพื้นที่ “เดินเผชิญสืบ” มาแล้วครั้งหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น