ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ชัยภูมิ เปิด “พระตำหนักเขียว” ย้อนรอยประวัติศาสตร์การเสด็จฯเยือน และประทับแรม ณ จังหวัดชัยภูมิ เมื่อ 51 ปีที่แล้วเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี รวมทั้งให้ประชาชนชาวชัยภูมิได้ศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าและศิลปวัฒนธรรมแห่งความภาคภูมิใจในสถานที่อันเป็นมงคลยิ่งแห่งนี้สืบไป
วานนี้ (16 มิ.ย.) ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ นายประภากร สมิติ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า จังหวัดชัยภูมิได้เปิด “พระตำหนักเขียว” ที่ตั้งอยู่ในจวนผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นที่ประทับแรม เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถฯ เสด็จพระราชดำเนินเยือนและประทับแรม ณ จังหวัดชัยภูมิ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2498 หรือประมาณ 51 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อให้เยาวชน และประชาชนชาวชัยภูมิ ได้ศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมทรงคุณค่าในตำหนักดังกล่าว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ซึ่งในปัจจุบันจังหวัดชัยภูมิ ได้ปรับปรุงซ่อมแซม “พระตำหนักเขียว” เพื่ออนุรักษ์สถานที่ความทรงจำอันทรงคุณค่าและเป็นสิริมงคลยิ่งของชาวชัยภูมิแห่งนี้ไว้ให้เยาวชนลูกหลานได้ศึกษาเรียนรู้ตลอดไป
สำหรับประวัติความเป็นมาของ “พระตำหนักเขียว” นั้น เดิมเป็นบ้านพักของผู้ว่าราชจังหวัดชัยภูมิ ต่อมาในปี 2498 ได้ปรับปรุงเป็นพระตำหนักที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรภาคตะวันอออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 2-20 พฤศจิกายน 2498
โดยในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2498 พระองค์เสด็จฯจากจังหวัดนครราชสีมา ถึงสี่แยกหนองบัวโคก แล้วหยุดประทับให้ราษฎรอำเภอด่านขุนทด จ.นครราชสีมา และอำเภอจัตุรัส จ.ชัยภูมิ บางส่วนเข้าเฝ้าฯ หลังจากนั้นเสด็จฯ หยุดประทับ ณ ที่ว่าการอำเภอจัตุรัส เพื่อให้ราษฎรอำเภอจัตุรัส เข้าเฝ้าฯ และเสด็จฯ ถึงตัวจังหวัดชัยภูมิ เวลา 11.30 น. เสวยพระสุธารส ณ บ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ และเสด็จฯ ไปประทับหน้ามุขศาลากลางจังหวัดฯ มีราษฎรชาวจังหวัดชัยภูมิเฝ้ารับเสด็จฯ เพื่อชื่นชมพระบารมีอย่างล้นหลาม ทรงมีพระปฏิสันถารกับราษฎรอย่างใกล้ชิด ไม่ถือพระองค์ ยังความปราบปลื้ม แก่ราษฎรผู้เฝ้ารอรับเสด็จ เป็นอย่างมาก จากนั้นเสด็จกลับประทับแรม ณ พระตำหนักเขียว หรือบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิในสมัยนั้น
หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จกลับเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ แล้ว จังหวัดชัยภูมิได้อนุรักษ์บ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดฯหลังนั้น ให้เป็น “พระตำหนักเขียว” และเป็น “พิพิธภัณฑ์ผ้าไหมชัยภูมิ”
นายประภากร กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน “พระตำหนักเขียว” เกิดชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา จังหวัดชัยภูมิจึงได้ให้ทำการปรับปรุง ซ่อมแซมพระตำหนักขึ้น โดยด้านบนให้เป็นสถานที่จัดแสดงภาพประวัติศาสตร์ เครื่องใช้ส่วนพระองค์ เมื่อครั้งเสด็จฯ เยือนจังหวัดชัยภูมิ และจำลองเป็นห้องที่ประทับ ห้องทรงงาน และ ห้องเสวยสุธารส ด้านล่างพระตำหนัก ให้เป็นสถานที่แหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ด้านการทอผ้าไหมอันล้ำค่าของจังหวัดชัยภูมิ โดยเฉพาะผ้าไหมชัยภูมิ ที่มีลายผ้าเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดมากกว่า 150 ลาย ซึ่งได้จัดแสดงและบันทึกไว้ในแฟ้มประวัติ ณ พระตำหนักเขียวแห่งนี้
“ดังนั้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จังหวัดชัยภูมิ จึงได้จัดให้เปิด พระตำหนักเขียว เพื่อให้เยาวชน และประชาชนชาวชัยภูมิได้ศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าของจังหวัดชัยภูมิ ดังกล่าว” นายประภากร กล่าว