ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ผู้ประกอบการโรงสีข้าว 7 รายโคราชรุดมอบตัวสู้คดีถูกกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงปลอมปนข้าวหอมมะลิในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2547/48 คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 5,200 ล้านบาท แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาขอสู้คดีในชั้นศาลพร้อมร้องขอความเป็นธรรมไม่เคยคิดโกง เผยที่ผ่านมาให้ความร่วมมือรัฐเป็นอย่างดี ขณะที่ยักษ์ใหญ่ “เจียเม้ง” เจ้าของโรงสีข้าวและผู้ผลิตข้าวหอมมะลิตรา “หงษ์ทอง” ถูกกล่าวหาหนักสุดกว่า 4,649 ล้านถึงกับเป็นลมฟุบกลางห้องสอบสวน
วันนี้ (2 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ สภ.อ.เมืองนครราชสีมา เจ้าของโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาลผลิต 2547/48 ในจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 4 ราย
ประกอบด้วย นางประพิศ มานะธัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจียเม้ง จำกัดพร้อม นายวรรลภ มานะธัญญา กรรมการบริษัทฯ ผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ของประเทศไทยยี่ห้อ“หงษ์ทอง” ,หจก.ราชสีมาบุญนภา , นายธีระ เอื้ออภิธร และบริษัท สยามเลเบิลมาสเตอร์ จำกัด ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองนครราชสีมา หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาและสอบปากคำเบื้องต้นในคดี ร่วมกันฉ้อโกง ปลอมปนข้าวหอมมะลิในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2547/48 ของกระทรวงพาณิชย์
ตามที่ นายไวยวุฒิ ดินอุดมณ์ ตัวแทนองค์การคลังสินค้า (อคส.) กระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองนครราสีมา เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา ให้ดำเนินคดีกับเจ้าของโรงสีที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 7 ราย 25 โกดัง ประกอบด้วย นางประพิศ มานะธัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจียเม้ง จำกัด, หจก.ราชสีมาบุญนภา , นายธีระ เอื้ออภิธร และ นายวรรลภ มานะธัญญา,คณะบุคคลราชสีมาแวเฮาส์, บริษัท ตงฮั่ว บัวใหญ่ 1994 จำกัด และบริษัท นครราชสีมาศิริโชคชัย จำกัด ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง
ส่วนผู้ประกอบการที่เหลืออีก 3 ราย ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่สถานีตำรวจในพื้นที่ที่เกิดเหตุ คือ อ.โชคชัย และ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ในวันเดียวกันนี้ ( 2 มิ.ย.)
พ.ต.อ.กรกต สาริยา โฆษกตำรวจภูธรภาค 3 และรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.)นครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าสุดสืบสวนคดีทุจริตข้าวหอมมะลิของอคส.ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากชุดสายตรวจข้าว ประกอบด้วย ตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมการค้าภายใน,อคส.,กรมสอบสวนคดีพิเศษ ,กระทรวงพาณิชย์ และตัวแทนบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซอร์เวเยอร์) ซึ่งแต่งตั้งโดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธาน คณะกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาลผลิต 2547/48
ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบปริมาณ และคุณภาพข้าวหอมมะลิในโกดังของโรงสีข้าว ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีฤดูกาลผลิต 2547/48 ของ อคส. กระทรวงพาณิชย์ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พบว่า มีโกดังของโรงสีข้าวที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและเก็บข้าว ที่ไม่ได้มาตรฐานตามที่กระทรวงพาณิชย์ กำหนดไว้ในโกดัง รวม 25 แห่ง เป็นผู้ประกอบการโรงสีจำนวน 7 ราย ทำให้เกิดความเสียหายแก่ภาครัฐมากถึง 5,282 ล้านบาท รวมข้าวหอมมะลิน้ำหนักกว่า 300,000 ตัน โดยโกดังข้าวของบริษัท เจียเม้ง ถูกกล่าวหามากที่สุด มูลค่าเสียหายกว่า 4,649 ล้านบาท รองลงมาเป็นโกดังของ หจก.ราชสีมาบุญนภา มูลค่าเสียหาย 209 ล้านบาท
ทั้งนี้ผู้ประกอบการทั้ง 7 ราย ได้ทำสัญญารับฝากข้าวกับทางอคส.ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีฤดูกาลผลิต 2547/48 ซึ่งชุดสายตรวจข้าวได้เก็บตัวอย่างข้าวหอมมะลิของโกดังต่าง ๆ ไปทำการตรวจสอบทางพันธุกรรม ( DNA) ข้าวที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และผลการตรวจสอบปรากฏว่า คุณภาพข้าวหอมมะลิไม่ถึง 92% ตามมาตรฐานของกระทรวงพาณิชย์กำหนด ถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน เข้าข่ายมีการลักลอบปลอมปนข้าวหอมมะลิ และโกดังจำนวน 25 แห่งของผู้ประกอบการทั้ง 7 ราย ก็เข้าข่ายข้าวหอมมะลิในโกดังไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
ดังนั้นในวันนี้(2 มิ.ย.) ทางพนักงานสอบสวนในแต่ละท้องที่ รวม 13 อำเภอ ตามที่ตั้งของแต่ละโกดังทั้ง 25 แห่ง จึงเรียกผู้ประกอบการทั้ง 7 บริษัท มารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกัน โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเพื่อทำบันทึกประกอบสำนวนพร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือจัดทำประวัติและแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดให้การปฏิเสธและขอต่อสู้ในชั้นศาล จึงปล่อยตัวไปชั่วคราว
“หลังจากเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาและสอบปากคำแล้ว พนักงานสอบสวน จะรวบรวมพยานหลักฐานส่วนอื่นๆ เพิ่มเติม คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ จากนั้นจะส่งสำนวนคดีให้อัยการพิจารณาส่งฟ้องศาลต่อไป ” พ.ต.อ.กรต กล่าว
ด้าน นายวรรลภ มานะธัญญา กรรมการ บริษัท เจียเม้ง จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 119 ม. 8 ต.หนองงูเหลือม อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา หนึ่งในผู้ถูกล่าวหาในคดีร่วมกันฉ้อโกง กล่าวว่า รู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นและจะไม่ยอมรับข้อกล่าวหาเด็ดขาด เพราะไม่ได้มีเจตนาฉ้อโกง จนถึงขณะนี้ยังไม่รู้เลยว่าผิดตรงไหนและผิดอย่างไร
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาขอตัวอย่าง ข้าวหอมมะลิของโกดังไปตรวจ ตั้งแต่ปีที่แล้ว จนมาถึงปีนี้เพิ่งจะมาบอกว่าข้าวของโกดังตนเอง ปลอมปนไม่ได้มาตรฐาน ไม่รู้เลยว่าขั้นตอนการตรวจสอบเป็นอย่างไร เพราะไปตรวจลับหลัง และตรวจกันเองโดยผู้ประกอบการไม่เคยรับรู้เลย จึงอยากจะขอความเป็นธรรมให้กับพวกตนด้วย เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการให้ความร่วมมือมาโดยตลอด แต่วันนี้กลับมาแจ้งความดำเนินคดีกัน
ส่วนนางประพิศ มานะธัญญา อายุ 51 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจียเม้ง จำกัด กล่าวว่า ผู้ประกอบการไม่ยอมรับข้อกล่าวหาดังกล่าว เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมในหลายเรื่อง โดยเฉพาะขั้นตอนการตรวจสอบข้าว ซึ่งทางอคส.ไม่ยอมเปิดเผยให้ชัดเจน เคยทำหนังสือสอบถามไปยัง อคส. แต่ก็ไม่กล้าตอบ และออกมากล่าวหาเจ้าของโกดังว่าฉ้อโกง ทำการปลอมปนข้าวหอมมะลิจนข้าวไม่ผ่านคุณภาพ ซึ่งผู้ประกอบการเองก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้าว การกระทำของอคส.เป็นการทำลายตัวเอง และยืนยันจะต่อสู้คดีในชั้นศาลให้ถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่ผู้ประกอบการทั้ง 3 รายกำลังอยู่ในระหว่างการพิมพ์ลายนิ้วมือและให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่นั้น นางประพิศ มานะธัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจียเม้ง จำกัด หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา เกิดอาการหน้ามืดเป็นลมฟุบลงกับโต๊ะ เนื่องจากเกิดอาการเครียดจัดจากการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกมาดำเนินคดี ทำให้เจ้าหน้าที่และผู้ติดตามต้องช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำตัวนางประพิศออกจากห้องไปรับอากาศด้านนอกชั่วคราว ก่อนจะนำตัวกลับมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง