เชียงใหม่ – คดีมรดกแพะเชอรี่แอนยังยืดเยื้อ หลัง “เสี่ยแจ๊ค” เบี้ยวอีกรอบไม่ยอมมารับฟังคำพิพากษาศาลฎีกา
วันนี้ (1 มิ.ย.) ศาลเชียงใหม่ ได้นัดแถลงอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีแพะเชอรี่แอน ซึ่ง นายวินัย ชัยพานิช หรือเสี่ยแจ๊ค ยื่นคำร้องคัดค้าขอเป็นผู้จัดการมรดก ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบเงินชดเชยค่าเสียหายจำนวน 12 ล้านบาท ให้แก่ นางสาวรัชนี กิจประยูร ทายาทของนายธวัช กิจประยูร และทายาทอีก 3 คน เป็นผู้จัดการมรดก หลัง นายธวัช ถูกจับกุมและตกเป็นแพะรับบาปในคดีอุ้มฆ่านางสาวเชอรี่แอน ดันแคน เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว จนตรอมใจตาย ปรากฏว่า นายวินัย ยังคงเบี้ยวไม่ยอมมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาอีกเป็นครั้งที่ 2
หลังเมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) ก็ไม่ยอมเดินทางมาตามนัด ทำให้บรรดาทายาทของนายธวัชต้องรอเก้อ โดยได้เรียกร้องวิงวอนให้นายวินัยมารับฟังคำพิพากษา เพื่อให้เรื่องจบโดยเร็ว เพราะที่ผ่านมาต้องกู้ยืมเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาศาลตลอด
นายเจริญ แก้วยอดหล้า ทนายความของทายาท นายธวัช บอกว่า หลังจากที่นายวินัยไม่มาฟังคำพิพากษาในวันนี้ ศาลก็จะออกหมายเรียก ให้มารับฟังคำตัดสินใหม่ภายใน 60 วัน หากยังผิดนัดอีกก็จะอ่านคำตัดสินเบื้องหลังว่า ผู้ใดจะเป็นผู้จัดการมรดกของนายธวัช ระหว่างนายวินัยกับทายาททั้ง 4 คน
ทั้งนี้ หากศาลฎีกาตัดสินให้ทายาทของ นายธวัช เป็นผู้จัดการมรดก นายวินัยก็จะหมดสิทธิในมรดกดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาในศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ต่างตัดสินให้ทายาทเป็นผู้จัดการมรดก โดยพิจารณาว่า พินัยกรรมที่นายวินัย อ้างว่า นายธวัช ลงชื่อยินยอมให้นายวินัยเป็นผู้จัดการมรดกไม่สมบูรณ์ ทั้งนี้ หากศาลออกหมายเรียกให้นายวินัย มารับฟังคำแถลงตัดสินของศาลฎีกาอีกครั้ง ในวันที่ 28 ก.ค.2549 หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่มา ก็สามารถอ่านคำแถลงเบื้องหลังได้เลย
สำหรับคดีเชอรี่แอนนั้น เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน โดยนายธวัช ซึ่งเป็นลูกน้องของนายวินัยพร้อมกับพวกถูกใส่ร้ายโดยมีการสร้างพยานเท็จขึ้นมา ว่าเป็นคนร้ายที่อุ้มฆ่านางสาวเชอรี่แอน ดันแคน นักศึกษาสาวที่นายวินัยไปติดพัน จนถูกจับกุมและตัดสินจำคุกนานหลายปี จนตรอมใจ
ภายหลังมีการรื้อคดีขึ้นมาใหม่ และจับคนร้ายพร้อมทั้งผู้บงการได้ จึงพ้นโทษออกมาและตรอมใจตาย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงชดใช้เงินค่าเสียหายให้กับทายาทจำนวน 12 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2546 โดยมี นางสาวรัชนี กิจประยูร บุตรสาวคนโตของนายธวัช เป็นผู้จัดการมรดก แต่ต่อมา นายวินัย ได้อ้างว่าก่อนนายธวัชเสียชีวิต ได้ลงนามมอบอำนาจให้นายวินัยเป็นผู้จัดการมรดก จึงยื่นคำร้องต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งที่ผ่านมา ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ทายาทเป็นผู้จัดการมรดก เนื่องจากพินัยกรรมที่นายวินัยอ้างไม่สมบูรณ์
วันนี้ (1 มิ.ย.) ศาลเชียงใหม่ ได้นัดแถลงอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีแพะเชอรี่แอน ซึ่ง นายวินัย ชัยพานิช หรือเสี่ยแจ๊ค ยื่นคำร้องคัดค้าขอเป็นผู้จัดการมรดก ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบเงินชดเชยค่าเสียหายจำนวน 12 ล้านบาท ให้แก่ นางสาวรัชนี กิจประยูร ทายาทของนายธวัช กิจประยูร และทายาทอีก 3 คน เป็นผู้จัดการมรดก หลัง นายธวัช ถูกจับกุมและตกเป็นแพะรับบาปในคดีอุ้มฆ่านางสาวเชอรี่แอน ดันแคน เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว จนตรอมใจตาย ปรากฏว่า นายวินัย ยังคงเบี้ยวไม่ยอมมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาอีกเป็นครั้งที่ 2
หลังเมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) ก็ไม่ยอมเดินทางมาตามนัด ทำให้บรรดาทายาทของนายธวัชต้องรอเก้อ โดยได้เรียกร้องวิงวอนให้นายวินัยมารับฟังคำพิพากษา เพื่อให้เรื่องจบโดยเร็ว เพราะที่ผ่านมาต้องกู้ยืมเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาศาลตลอด
นายเจริญ แก้วยอดหล้า ทนายความของทายาท นายธวัช บอกว่า หลังจากที่นายวินัยไม่มาฟังคำพิพากษาในวันนี้ ศาลก็จะออกหมายเรียก ให้มารับฟังคำตัดสินใหม่ภายใน 60 วัน หากยังผิดนัดอีกก็จะอ่านคำตัดสินเบื้องหลังว่า ผู้ใดจะเป็นผู้จัดการมรดกของนายธวัช ระหว่างนายวินัยกับทายาททั้ง 4 คน
ทั้งนี้ หากศาลฎีกาตัดสินให้ทายาทของ นายธวัช เป็นผู้จัดการมรดก นายวินัยก็จะหมดสิทธิในมรดกดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาในศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ต่างตัดสินให้ทายาทเป็นผู้จัดการมรดก โดยพิจารณาว่า พินัยกรรมที่นายวินัย อ้างว่า นายธวัช ลงชื่อยินยอมให้นายวินัยเป็นผู้จัดการมรดกไม่สมบูรณ์ ทั้งนี้ หากศาลออกหมายเรียกให้นายวินัย มารับฟังคำแถลงตัดสินของศาลฎีกาอีกครั้ง ในวันที่ 28 ก.ค.2549 หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่มา ก็สามารถอ่านคำแถลงเบื้องหลังได้เลย
สำหรับคดีเชอรี่แอนนั้น เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน โดยนายธวัช ซึ่งเป็นลูกน้องของนายวินัยพร้อมกับพวกถูกใส่ร้ายโดยมีการสร้างพยานเท็จขึ้นมา ว่าเป็นคนร้ายที่อุ้มฆ่านางสาวเชอรี่แอน ดันแคน นักศึกษาสาวที่นายวินัยไปติดพัน จนถูกจับกุมและตัดสินจำคุกนานหลายปี จนตรอมใจ
ภายหลังมีการรื้อคดีขึ้นมาใหม่ และจับคนร้ายพร้อมทั้งผู้บงการได้ จึงพ้นโทษออกมาและตรอมใจตาย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงชดใช้เงินค่าเสียหายให้กับทายาทจำนวน 12 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2546 โดยมี นางสาวรัชนี กิจประยูร บุตรสาวคนโตของนายธวัช เป็นผู้จัดการมรดก แต่ต่อมา นายวินัย ได้อ้างว่าก่อนนายธวัชเสียชีวิต ได้ลงนามมอบอำนาจให้นายวินัยเป็นผู้จัดการมรดก จึงยื่นคำร้องต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งที่ผ่านมา ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ทายาทเป็นผู้จัดการมรดก เนื่องจากพินัยกรรมที่นายวินัยอ้างไม่สมบูรณ์