อุบลราชธานี - นศ.โวยหอพักในตัวเมืองอุบลฯ แอบติดกล้องวงจรปิดถึงห้องนอน-ห้องน้ำ เชื่อหวังแอบถ่ายกิจกรรมส่วนตัวนักศึกษาหญิง แจ้งความตำรวจกลับเฉย อ้างรอให้มีผู้เสียหายร้องทุกข์ก่อน
รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.นพดล ช่วยบุญ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากนายภานุวัฒน์ ทองขันธ์ อายุ 20 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 119 หมู่ที่ 3 ต.อ่างศิลา อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ได้มาพักอาศัยอยู่ในหอพักชั้นเดียวไม่มีชื่อตั้งอยู่เลขที่ 107/9 ซอยชาญบริการ ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี โดยเข้าพักอยู่ในห้องหมายเลข 07
เมื่อเข้ามาอยู่ได้เกือบสัปดาห์ นายภานุวัฒน์สังเกตที่บริเวณฝ้าเพดาน ห้องพัก ตรงกับที่นอนของตนเอง มีรูขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร จึงเกิดความสงสัยปืนขึ้นไปเปิดดู พบเลนส์ถ่ายภาพแบบใช้กับกล้องทีวีวงจรปิด พร้อมมีสายลากจากตัวเลนส์ผ่านห้องที่อยู่ติดกัน จึงเล่าให้ผู้เช่าห้องติดกันทราบ และช่วยกันตรวจสอบก็พบว่า นอกจากห้องนายภานุวัฒน์ ยังมีการวางเลนส์ชนิดเดียวกันไว้ในห้องข้างเคียง โดยบางห้องถูกวางไว้ในห้องน้ำด้วย
จึงคาดว่าผู้นำเลนส์มาซุกซ่อนไว้ตามห้องพัก อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าของหอพัก เพื่อใช้แอบดูนักศึกษาสาวๆ ขณะทำกิจกรรมส่วนตัว เพราะเป็นหอพักเปิดให้ทุกคนมาเช่าอยู่ได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล จึงมาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบด้วย
ด้าน พ.ต.ท.นพดล พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีกล่าวว่า เนื่องจากกรณีที่เกิดขึ้น ยังไม่มีหลักฐานการทำผิดว่ามีการแอบถ่ายจริงหรือไม่ รวมทั้งไม่มีผู้เสียหายที่ถูกละเมิดแน่ชัด มีแต่ความสงสัยในพฤติกรรม จึงเป็นความผิดทางแพ่ง
แต่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งไว้เป็นหลักฐาน และจะได้ออกหมายเรียกเชิญผู้ดูแลหอพักที่ต้องสังสัยมาพูดคุยให้ปากคำเร็วที่สุด ถ้าการสอบสวนพบมีหลักฐานเพิ่มเติม ก็จะสามารถดำเนินคดีตามความผิดฐานละเมิดได้ต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.นพดล ช่วยบุญ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากนายภานุวัฒน์ ทองขันธ์ อายุ 20 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 119 หมู่ที่ 3 ต.อ่างศิลา อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ได้มาพักอาศัยอยู่ในหอพักชั้นเดียวไม่มีชื่อตั้งอยู่เลขที่ 107/9 ซอยชาญบริการ ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี โดยเข้าพักอยู่ในห้องหมายเลข 07
เมื่อเข้ามาอยู่ได้เกือบสัปดาห์ นายภานุวัฒน์สังเกตที่บริเวณฝ้าเพดาน ห้องพัก ตรงกับที่นอนของตนเอง มีรูขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร จึงเกิดความสงสัยปืนขึ้นไปเปิดดู พบเลนส์ถ่ายภาพแบบใช้กับกล้องทีวีวงจรปิด พร้อมมีสายลากจากตัวเลนส์ผ่านห้องที่อยู่ติดกัน จึงเล่าให้ผู้เช่าห้องติดกันทราบ และช่วยกันตรวจสอบก็พบว่า นอกจากห้องนายภานุวัฒน์ ยังมีการวางเลนส์ชนิดเดียวกันไว้ในห้องข้างเคียง โดยบางห้องถูกวางไว้ในห้องน้ำด้วย
จึงคาดว่าผู้นำเลนส์มาซุกซ่อนไว้ตามห้องพัก อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าของหอพัก เพื่อใช้แอบดูนักศึกษาสาวๆ ขณะทำกิจกรรมส่วนตัว เพราะเป็นหอพักเปิดให้ทุกคนมาเช่าอยู่ได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล จึงมาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบด้วย
ด้าน พ.ต.ท.นพดล พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีกล่าวว่า เนื่องจากกรณีที่เกิดขึ้น ยังไม่มีหลักฐานการทำผิดว่ามีการแอบถ่ายจริงหรือไม่ รวมทั้งไม่มีผู้เสียหายที่ถูกละเมิดแน่ชัด มีแต่ความสงสัยในพฤติกรรม จึงเป็นความผิดทางแพ่ง
แต่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งไว้เป็นหลักฐาน และจะได้ออกหมายเรียกเชิญผู้ดูแลหอพักที่ต้องสังสัยมาพูดคุยให้ปากคำเร็วที่สุด ถ้าการสอบสวนพบมีหลักฐานเพิ่มเติม ก็จะสามารถดำเนินคดีตามความผิดฐานละเมิดได้ต่อไป