เจ้าของร้าน “แดง แหนมเนือง” เปิดใจหลังตกเป็นข่าวโฆษณาร้านกับองค์หลวงพ่อพระใส พระคู่เมืองหนองคาย เป็นเรื่องเจ็บปวดที่สุดในชีวิต เหตุไปแก้บนกับหลวงพ่อ ยันไม่ได้บอกช่างให้ปักชื่อหราขนาดนั้น ทักท้วงแล้วแต่ทางวัดยืนยันใช้ได้ เพราะถวายไม่นาน เผยเคยถวายมาแล้วนับ 100 ผืน วอนสังคมเข้าใจ เจ้าอาวาสวัด เผย เป็นธรรมเนียมปฏิบัติแก้บนชาวหนองคาย แต่หาทางป้องกันกำชับผู้ถวายผ้างดปักชื่อหวั่นเกิดปัญหาซ้ำ
นางสาววิภาดา จิตนันทกุล อายุ 53 ปี หรือ แดง โวถิ เจ้าของร้านแดงแหนมเนือง เลขที่ 526-527 ม.4 ถนนริมโขง อ.เมือง จ.หนองคาย เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้ร้องเรียนการปักชื่อ “แดงแหนมเนือง” บนผ้าอังสะพาดองค์หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวหนองคาย ที่ประดิษฐานที่พระอุโบสถวัดโพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย ว่า พอได้เห็นพาดหัวข่าวหน้า 1 ใน นสพ.ข่าวสด รู้สึกงงไปหมด และเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเจตนาที่ถวายผ้าอังสะไม่ใช่เพื่อเป็นการโฆษณา หรือหากินกับพระตามที่ตกเป็นข่าวแต่อย่างใด
อยากจะชี้แจงให้ประชาชนทราบว่าที่ตนถวายผ้าอังสะนั้น ตนไปแก้บนกับหลวงพ่อพระใส เมื่อช่วงหลังสงกรานต์ที่ผ่านมา เมื่อวันที่จะไปแก้บนนั้น ช่างทำผ้าอังสะคนหนึ่งได้นำผ้ามาให้แล้วปักชื่อ “แดง แหนมเนือง” ตัวใหญ่มาก ตนก็คัดค้านแล้ว เพราะรู้สึกเหมือนไม่เหมาะเท่าใดนัก และช่างคนนั้นก็ไม่รู้ว่าต้องปักผ้ายังไง จึงแจ้งให้พระทางวัดโพธิ์ชัยทราบ พระท่านก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอกใช้ผ้าผืนนี้ก็ได้ เพราะไม่ได้ห่มองค์หลวงพ่อนาน เพียงแค่ 3-5 ศีล ก็นำผ้าลงแล้ว ถือเป็นการแก้บนอย่างสมบูรณ์ ใครก็สามารถทำได้ ตนจึงถวายผ้า และคิดไว้ว่าเมื่อผ่านไป 3 ศีล หมายถึงครบรอบวันพระ 3 ครั้ง ก็จะแจ้งทางวัดให้นำผ้าลง แต่นี่ยังไม่ถึง 2 ศีลด้วยซ้ำ ก็เกิดเรื่องแล้ว และยืนยันว่า ทุกครั้งที่ถวายผ้าอังสะไม่เคยบอกว่าถ้าไม่มีชื่อตนเอง หรือชื่อร้านจะไม่ถวาย ไม่ยอม ไม่เคยพูดเลยสักครั้ง ซึ่งครั้งนี้ที่เกิดเรื่องขึ้นตนก็ยอมรับว่าตัวอักษรใหญ่เกินไปจริง
เจ้าของร้านแหนมเนืองชื่อดัง กล่าวต่อว่า ตามธรรมเนียมปฏิบัติตั้งแต่โบราณชาวหนองคายไม่ใช่เฉพาะตนคนเดียวที่นำผ้าอังสะถวาย ชาวหนองคายส่วนใหญ่ หรือแม้แต่ระดับผู้ว่าราชการจังหวัดในอดีตก็เคยถวายมาแล้ว และมีชื่อหราบนผ้าเช่นเดียวกัน ก็ไม่เห็นมีใครทักท้วงว่าอย่างไร แต่พอมาถึงคิวของตนกลับมาเจอเรื่องร้องเรียน ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงมาก ทั้งที่ตนนั้นเป็นโยมอุปถาก ช่วยเหลือสนับสนุนกิจการงานบุญ งานกุศลของทางวัดโพธิ์ชัย สร้างศาลา สร้างโบสถ์มามาก ช่วยงานทางจังหวัด หรือแม้แต่งานสาธารณะกุศลอื่นๆ ในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 40 ปี ถวายผ้าอังสะมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ผืน แต่ทุกผืนที่ผ่านมาช่างปักชื่อไม่ได้ปักชื่อให้ใหญ่ขนาดนี้ และปักไว้ริมชายผ้า ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าผู้ที่ร้องเรียนต้องการอะไร ตนทำอะไรให้เจ็บช้ำน้ำใจ ถึงได้ร้องเรียนผู้สื่อข่าวเช่นนั้น หรือผู้ร้องเรียนไม่เข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติในการแก้บนของชาวหนองคายก็น่าจะศึกษาให้ดีก่อนแล้วค่อยร้องเรียน เพราะเรื่องนี้ทำให้ตนรู้สึกเสียใจมาก
น.ส.วิภาดา ยังกล่าวอีกว่า ตนได้อาศัยใบบุญ เคยกินข้าวก้นบาตรพระมาแล้วตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และทำบุญทำทาน ตั้งจิตอธิษฐานกับองค์หลวงพ่อมาโดยตลอด จึงทำให้มีร้านอาหารเวียดนามมีชื่อเสียงมาจนถึงวันนี้กว่า 40 ปี เพราะตนยึดมั่นในศรัทธาพระพุทธศาสนา ไม่เคยเอาเปรียบ คดโกง ไม่เคยคิดที่จะหากินหรือโฆษณาแอบแฝงกับพระแต่อย่างใด เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นชาวหนองคายคงจะไม่ให้ความรัก ช่วยเหลือ หรือสนับสนุนกิจการของร้านมายาวนานขนาดนี้แน่ อีกทั้งตนไม่เคยคิด หรือไม่กล้าแม้แต่จะคิด ที่จะหาผลประโยชน์จากหลวงพ่อพระใส ที่เคารพนับถือ ถ้าใครคิดเช่นนั้นก็ถือว่าจิตใจแย่มาก
ก่อนหน้านี้ ตนไปดูดวง หมอดูบอกว่า ปีนี้เคราะห์ไม่ดี ดวงคอขาด ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงก็จะเจอมรสุมชีวิต คิดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้คงเป็นไปตามดวง แต่ก็เป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากที่สุดในชีวิตที่ตนเคยเจอ แต่ก็เชื่อว่าชาวหนองคายคงจะเข้าใจและเห็นใจว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในการแก้บนจริงๆ ซึ่งครั้งต่อไปในอนาคตจะไม่ปักชื่อ หรือตัวอักษรใดๆ ลงบนผ้าอังสะที่จะถวายหลวงพ่ออีกเลย แต่อย่างไรก็ตาม ตนก็จะยังคงทำบุญ ทำกุศล ช่วยเหลือกิจกรรมของวัดเท่าที่ช่วยได้ ในฐานะที่เป็นชาวพุทธคนหนึ่งต่อไป และอยากชี้แจงสาเหตุพร้อมทั้งความรู้สึกจากส่วนลึกให้สังคมได้เข้าใจ
ด้าน พระเทพมงคลรังษี เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย เจ้าคณะจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ตอนนี้ทางวัดได้เปลี่ยนผ้าอังสะหลวงพ่อพระใสใหม่แล้วหลังจากที่เกิดการร้องเรียนถึงความไม่เหมาะสมขึ้น ซึ่งชาวหนองคายมีธรรมเนียมปฏิบัติในการบนบานสานกล่าว หรือมาแก้บนกับองค์หลวงพ่อพระใส รวมทั้งพระบริวารซ้ายขวาของหลวงพ่อเช่นนี้อย่างยาวนานแล้ว ไม่เฉพาะแค่ร้านแดงแหนมเนืองเท่านั้น ที่ผ่านมา มีหลายคนที่ถวายผ้าอังสะและปักชื่อ ทางวัดก็ไม่ได้ห้าม เพราะเป็นการแก้บนและเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ไม่ได้พาดผ้าอังสะห่มหลวงพ่อตลอดไป
ทั้งนี้ เพราะหลวงพ่อพระใสเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวหนองคาย และชาวพุทธอย่างมาก ทางวัดไม่ได้มีเจตนาตีความเป็นอย่างอื่น อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ทางวัดจะกำชับให้ผู้ที่ต้องการแก้บนกับองค์หลวงพ่อ หากจะถวายผ้าอังสะไม่ให้ปักชื่อ หรือถ้าต้องการให้ปักไว้ที่ริมชายผ้าด้านล่าง ตัวอักษรเล็กๆ ก็พอ และเชื่อว่า ทุกคนคงให้ความร่วมมือ เพราะสิ่งเหล่านี้ทางวัดไม่ได้มองว่าเป็นการโฆษณาสินค้า หรือโฆษณาร้านค้าแต่อย่างใด ทางวัดมองดูที่เจตนาในการเป็นชาวพุทธคนหนึ่งที่เลื่อมใสศรัทธา อยากจะแก้บน เสริมดวงชะตาให้ตนเอง ให้ผ่านพ้นเคราะห์กรรมต่างๆ ที่ประสบ และอยากชี้แจงให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจในเรื่องดังกล่าวด้วย