เชียงราย – รักษาการ ส.ว.เชียงราย นำคณะต่างประเทศเจรจาไถ่ชีวิตปลาบึกที่พรานชาวลาวจับได้ ก่อนทำการติดไมโครชิปที่ตัวปลาเพื่อให้ทราบประวัติแล้วปล่อยลงสู่แม่น้ำโขง ย้ำจะเป็นปลาบึกตัวสุดท้ายที่ถูกล่า ขณะที่ “เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก” พร้อมทีมงานครบชุดเตรียมทำสารคดีการเดินทางของปลาบึกตัวนี้อย่างเจาะลึก โดยใช้อุปกรณ์ทันสมัยในการติดตาม
หลังจากที่เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 10 พ.ค.2549 นายน้อย บุญจันทร์ชา ชาวลาวกับพวกรวม 5 คน ได้นำเรือออกวางอวนในแม่น้ำโขง เพื่อล่าปลาบึกบริเวณหน้าวัดหาดไคร้ ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย และสามารถจับปลาบึกได้หนึ่งตัวเป็นเพศเมีย ความยาวประมาณ 2 เมตร และน้ำหนักประมาณ 240 กิโลกรัม จึงนำไปผูกไว้ในบริเวณเกาะกลางแม่น้ำ ที่ชาวลาวได้จัดทำกระท่อมที่พักให้พรานปลาบึก โดยปลาบึกตัวดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่นั้น
ช่วงเย็นวานนี้ (11 พ.ค.) นางเตือนใจ ดีเทศน์ รักษาการ ส.ว.เชียงราย และประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา และนายวีระชัย เชื้อเจ็ดตน เจ้าหน้าที่บริหารงานกรมประมง สำนักงานประมงจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์สำรวจแม่น้ำโขง ก่อนที่จะลงจอดที่บ้านหาดไคร้ และนั่งเรือหางยาวข้ามไปยังเกาะกลางแม่น้ำโขงตรงข้ามบ้านหาดไคร้ เพื่อเจรจาขอไถ่ชีวิตปลาบึกตัวที่ถูกจับได้ โดยมีการมอบเงิน 86,000 บาท เพื่อขอซื้อปลาบึกดังกล่าว ซึ่งสามารถตกลงกันได้ พร้อมประสานงานไปยัง ท้าวแสนคำมงคล รองเจ้าเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ให้มาร่วมเป็นสักขีพยานในการไถ่ชีวิตปลาบึก
ทั้งนี้ ก่อนที่ปล่อยปลาบึกตัวดังกล่าวกลับลงสู่แม่น้ำโขง ได้มีการติดไมโครชิปไว้ที่ครีบของปลาบึก เพื่อให้ทราบประวัติและสามารถติดตามปลาบึกตัวนี้ได้ ซึ่งหลังจากติดไมโครชิปเรียบร้อยได้มีการปล่อยปลาบึกลงสู่แม่น้ำโขง โดยปลาบึกได้ว่ายน้ำหายไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความดีใจของคณะทำงานกว่า 100 คน ที่มาชม
ขณะที่ นายเซฟ ฮาร์เกน และทีมนักวิจัยชาวอเมริกัน พร้อมด้วยทีมงานสารคดีและช่างเทคนิคของเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก ได้ใช้อุปกรณ์ติดตามปลาบึกในแม่น้ำโขง 20 จุด เพื่อศึกษาการเดินทางของปลาบึกตัวนี้ด้วย
นางเตือนใจ ดีเทศน์ กล่าวว่า หลังจากมีการร่วมมือกับ นายพุ่ม บุญหนัก ประธานชมรมปลาบึกหาดไคร้ อ.เชียงของ จ.เชียงราย เพื่อจะอนุรักษ์ปลาบึกแล้วปรากฏว่าชาวลาวจับปลาบึกได้ จึงรวบรวมเงินจากกลุ่มเอ็นจีโอมาไถ่ชีวิต และจะเป็นปลาบึกตัวที่สุดท้ายในแม่น้ำโขงบริเวณนี้ที่ถูกจับ เนื่องจากได้หารือกับรองเจ้าเมืองต้นผึ้งแล้วพร้อมขอความร่วมมือว่าอยากให้ร่วมกันอนุรักษ์ปลาบึก ไม่ให้มีการจับปลาบึกอีก ซึ่งฝ่ายลาวพร้อมที่จะร่วมมือ และจะหาแนวทางร่วมกันซึ่งถือเป็นแนวทางที่ดีในการอนุรักษ์ และต่อไปนี้จะมีการอนุรักษ์แม่น้ำโขง ทั้งเรื่องสภาพแวดล้อมต่างๆ ด้วย ถือว่าวันนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี และนับเป็นความสำเร็จครั้งแรกในโลกที่มีการติดไมโครชิปที่ปลาบึก ทั้งนี้ คาดว่า ปลาบึกจะมีชีวิตรอด เพราะตอนปล่อยปลาบึกตัวดังกล่าวได้ลืมตามองคณะที่ร่วมปล่อยด้วย ซึ่งเป็นความประทับใจมาก
ส่วนการหาเงินตอบแทนเพื่อซื้ออวนล่าปลาบึกจำนวน 68 ปาก มูลค่าอวนละ 20,000 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 1,360,000 บาท เพื่อให้ชาวประมงนำไปใช้เป็นทุนในการประกอบอาชีพอื่นทดแทนนั้น ขณะนี้ในส่วนของต่างประเทศ คือ สหภาพอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสากล (IUCN) หาทุนได้แล้ว 22,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8 แสนบาทเศษ ทราบว่า ส่วนหนึ่งได้มาจาก บริษัท เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก ซึ่งเป็นผู้ผลิตนิตยสารและผู้ผลิตสารคดีเกี่ยวกับชีวิตสัตว์ชื่อดังของโลก ส่วนของประเทศไทย คือ มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ทางผู้ดำเนินงานได้ติดต่อภาคเอกชน เช่น ปตท. และหลายฝ่าย เพื่อขอการสนับสนุน คาดว่า อาจจะได้รับการสนับสนุนทุนอีกราว 18,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6 แสนบาทเศษ ซึ่งก็จะครบตามกำหนด และทยอยมอบเงินซื้ออวนล่าปลาบึก ซึ่งเงินก้อนแรกจะจ่ายให้ชาวประมงหาดไคร้รายละ 10,000 บาท ในปลายเดือน พ.ค.นี้ และงวดที่สองอีก 10,000 บาท ต่อราย จะจ่ายเดือน ต.ค.49 นี้ หลังจากส่งมอบอวน
สำหรับการมอบเงินช่วยเหลือชาวประมงบ้านหาดไคร้นั้น รายงานข่าวแจ้งว่า นางเตือนใจ มีแนวทางที่จะเชิญ นายวรชัย อุตตมชัย รักษาการผู้ว่าราชการ จังหวัดเชียงราย มาร่วมกันมอบเงินช่วยเหลือชาวประมง พร้อมรับมองอวนจากชาวประมงหาดไคร้อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 มิ.ย.2549 นี้ ที่ อ.เชียงของ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในปีมหามงคลทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี