ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - คนร้ายวางระเบิดแสวงเครื่องใต้ท้องรถเสี่ยเจ้าของสัมปทานรถโดยสารรายใหญ่เมืองโคราช เป็นเหตุได้ 2 สามีภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส ตำรวจมุ่งประเด็นขัดแย้งธุรกิจเดินรถในตัวเมืองโคราช และความขัดแย้งส่วนตัว
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 5 พ.ค. พ.ต.ต.อภิชาติ ประพิณ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองนครราชสีมาว่าได้เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ที่บริเวณ ถ.สุรนารายณ์ แยกกลับรถหน้าปั๊มน้ำมันบางจาก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย
ภายหลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น ซีอาร์วี สีดำ หมายเลขทะเบียน ศข-7987 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าถูกแรงระเบิดพังยับกระจกหน้ารถและบานประตูแตก บริเวณใต้ที่นั่งคนขับมีรูขนาด 40 เซนติเมตร กว้าง 20 เซนติเมตร และมีรอยเลือดตกอยู่ที่เบาะและพื้นถนนเป็นจำนวนมาก
ก่อนหน้านั้นมีพลเมืองดีได้นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จำนวน 2 ราย ทราบชื่อภายหลังคือนายชาตรี วงศ์วาณิชกังวาล หรือ “เสี่ยน้อย” อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2010 ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขาขวา แขนขวาและลำคอ
นายชาตรี เป็นเจ้าของบริษัทเฉลิมพลขนส่งจำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานเดินรถเมล์โดยสารและรถสองแถวสาย 1 และสาย 6 ในตัวเมืองนครราชสีมา และเป็นเจ้าของสัมปทานเดินรถบัสโดยสารสายโคราช-ยโสธร
ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือนางฐานิศ วงศ์วาณิชกังวาล อายุ 48 ปี ภรรยานายชาตรี ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยถูกสะเก็ดระเบิดที่ใบหน้าและลำคอ โดยแพทย์ได้นำผู้บาดเจ็บทั้งสองเข้าห้องผ่าตัดช่วยเหลือชีวิตเป็นการด่วนและ ล่าสุดอาการทั้งสองคนปลอดภัยแล้ว
ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.อำนาจ อันอาตม์งาม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.อ.กรกต สาริยา รองผู้บังคับการฯและพ.ต.อ.ประจวบ จันทร์ประวิตร ผกก.สภ.อ.เมืองนครราชสีมาได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าระเบิดที่คนร้ายนำมาผูกเอาไว้ใต้ท้องรถ บริเวณที่นั่งคนขับเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นระเบิดแสวงเครื่องชนิดซีโฟร์
จากการสอบสวนนายชาตรี และนางฐานิศ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายชาตรี ได้ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี คันเกิดเหตุดังกล่าวไปตรวจงานเพื่อเช็คคิวรถเมล์โดยสารในอู่ที่บ้านเกาะ จากนั้นได้ขับรถไปนั่งดื่มกาแฟที่บริเวณร้านกาแฟภายในปั๊มน้ำมันเจ็ท ถนนมิตรภาพ ต.บ้านเกาะประมาณ 1 ชั่วโมง และขับรถมารับนางฐานิศ ภรรยาที่อู่รถอีกแห่งหนึ่งใน ต.บ้านเกาะเพื่อเดินทางกลับบ้าน เมื่อรถวิ่งมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว บริเวณที่นั่งคนขับ เป็นเหตุให้นายชาตรีและภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว
สำหรับสาเหตุของการวางระเบิดครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากความขัดแย้งเกี่ยวกับการสัมปทานเส้นทางเดินรถและการวิ่งทับเส้นทางรถเมล์และรถสองแถวในเขตตัวเมืองนครราชสีมา รวมทั้งความแค้นส่วนตัว เนื่องจากนายชาตรีฯ มีนิสัยโผงผางเสียงดัง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการลอบวางระเบิดครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนหาเพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 5 พ.ค. พ.ต.ต.อภิชาติ ประพิณ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองนครราชสีมาว่าได้เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ที่บริเวณ ถ.สุรนารายณ์ แยกกลับรถหน้าปั๊มน้ำมันบางจาก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย
ภายหลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น ซีอาร์วี สีดำ หมายเลขทะเบียน ศข-7987 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าถูกแรงระเบิดพังยับกระจกหน้ารถและบานประตูแตก บริเวณใต้ที่นั่งคนขับมีรูขนาด 40 เซนติเมตร กว้าง 20 เซนติเมตร และมีรอยเลือดตกอยู่ที่เบาะและพื้นถนนเป็นจำนวนมาก
ก่อนหน้านั้นมีพลเมืองดีได้นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จำนวน 2 ราย ทราบชื่อภายหลังคือนายชาตรี วงศ์วาณิชกังวาล หรือ “เสี่ยน้อย” อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2010 ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขาขวา แขนขวาและลำคอ
นายชาตรี เป็นเจ้าของบริษัทเฉลิมพลขนส่งจำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานเดินรถเมล์โดยสารและรถสองแถวสาย 1 และสาย 6 ในตัวเมืองนครราชสีมา และเป็นเจ้าของสัมปทานเดินรถบัสโดยสารสายโคราช-ยโสธร
ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือนางฐานิศ วงศ์วาณิชกังวาล อายุ 48 ปี ภรรยานายชาตรี ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยถูกสะเก็ดระเบิดที่ใบหน้าและลำคอ โดยแพทย์ได้นำผู้บาดเจ็บทั้งสองเข้าห้องผ่าตัดช่วยเหลือชีวิตเป็นการด่วนและ ล่าสุดอาการทั้งสองคนปลอดภัยแล้ว
ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.อำนาจ อันอาตม์งาม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.อ.กรกต สาริยา รองผู้บังคับการฯและพ.ต.อ.ประจวบ จันทร์ประวิตร ผกก.สภ.อ.เมืองนครราชสีมาได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าระเบิดที่คนร้ายนำมาผูกเอาไว้ใต้ท้องรถ บริเวณที่นั่งคนขับเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นระเบิดแสวงเครื่องชนิดซีโฟร์
จากการสอบสวนนายชาตรี และนางฐานิศ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายชาตรี ได้ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี คันเกิดเหตุดังกล่าวไปตรวจงานเพื่อเช็คคิวรถเมล์โดยสารในอู่ที่บ้านเกาะ จากนั้นได้ขับรถไปนั่งดื่มกาแฟที่บริเวณร้านกาแฟภายในปั๊มน้ำมันเจ็ท ถนนมิตรภาพ ต.บ้านเกาะประมาณ 1 ชั่วโมง และขับรถมารับนางฐานิศ ภรรยาที่อู่รถอีกแห่งหนึ่งใน ต.บ้านเกาะเพื่อเดินทางกลับบ้าน เมื่อรถวิ่งมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว บริเวณที่นั่งคนขับ เป็นเหตุให้นายชาตรีและภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว
สำหรับสาเหตุของการวางระเบิดครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากความขัดแย้งเกี่ยวกับการสัมปทานเส้นทางเดินรถและการวิ่งทับเส้นทางรถเมล์และรถสองแถวในเขตตัวเมืองนครราชสีมา รวมทั้งความแค้นส่วนตัว เนื่องจากนายชาตรีฯ มีนิสัยโผงผางเสียงดัง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการลอบวางระเบิดครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนหาเพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป


