“ธนาธร” ส่งส้มสายน้ำผึ้งเข้า “คาร์ฟูร์” - บุกยุโรป

เชียงใหม่ - “ธนาธร” จับมือ “คาร์ฟูร์” ดันส้มสายน้ำผึ้งกว่า 3 พันตันขึ้นขายบนห้าง 23 สาขาทั่วประเทศ พร้อมเปิดทางกระจายสู่ตลาดยุโรป มั่นใจลบภาพ “สายน้ำผึ้ง-สายน้ำพิษ” กระตุ้นบริโภคส้มในประเทศมากขึ้น ขณะเดียวกันหนุนให้เจ้าของสวนทั่วเชียงใหม่ปลูกส้มให้มีคุณภาพติดตลาด ด้าน “คาร์ฟูร์” พร้อมนำสินค้าไทยกระจายสู่สาขาทั่วโลกอีกหลายรายการ


นายบัณฑูร จิระวัฒนากุล ประธานบริษัท เชียงใหม่ ธนาธรฟาร์ม จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้สวนส้มธนาธร ได้ลงนามกับห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ เพื่อผลิตส้มสายน้ำผึ้งวงจรคุณภาพ ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดตลาดให้ส้มสายน้ำผึ้งได้มีช่องทางการจำหน่ายได้มากขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งเป็นการกระตุ้นให้เกษตรกรในพื้นที่ อ.ฝาง. อ.ไชยปราการ และอ.แม่อาย ที่ถือว่าเป็นพื้นที่ที่ปลูกส้มมากที่สุดในประเทศ ให้หันมาเน้นปลูกส้มที่มีคุณภาพเพื่อการส่งออกให้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ส้มสายน้ำผึ้ง เป็นที่รู้จักและสร้างรายได้ให้เกษตรกรด้วย

การลงนามดังกล่าว สวนส้มธนาธรจะส่งส้มให้ห้างคาร์ฟูร์ทุกสาขาในประเทศทั้งหมด โดยปริมาณในแต่ละเดือนจะขึ้นอยู่ตามความต้องการของผู้บริโภค ว่ามีความต้องการมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเดือน ม.ค-ก.พ.ที่ผ่านมาได้ส่งส้มสายน้ำผึ้งให้แก่คาร์ฟูร์แล้วทั้งสิ้นกว่า 300 ตัน และคาดว่าในแต่ละปีจะส่งส้มให้ทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 3,000 ตัน

สำหรับส้มสายน้ำผึ้งที่จะส่งให้กับคาร์ฟูร์ จะดูแลและตรวจสอบอย่างเข้มงวด จากเจ้าหน้าที่ในทุกขั้นตอนตั้งแต่การปลูก การให้น้ำ การใช้สารเคมี การดูแลรักษา และการบรรจุกล่อง โดยเฉพาะการใช้สารเคมี จะมีเจ้าหน้าที่จากคาร์ฟูร์และหน่วยงานของราชการเข้ามาร่วมตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อให้ส้มปลอดสารพิษ และปลอดภัยต่อผู้บริโภค

นายบัณฑูร กล่าวอีกว่า นอกจากส้มสายน้ำผึ้งในอนาคตยังเตรียมส่งส้มสายพันธุ์อื่นให้กับห้างคาร์ฟูร์ด้วย เนื่องจาก สวนส้มธนาธรได้ปลูกส้มไว้หลายชนิด เช่น ส้มเขียวหวาน ส้มโอเชี่ยนหรือนัมเบอร์วัน เป็นต้น โดยปัจจุบันส้มทั้งหมดจะส่งขายในประเทศประมาณ 95% ส่วนอีก 5% ส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ เช่น ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย แคนาดา จีน และฟิลิปปินส์

“ถึงแม้ว่าปริมาณการส่งออกไปต่างประเทศจะไม่สูง แต่ในอนาคตเชื่อว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะต่างประเทศยังไม่ทราบว่าในประเทศสามารถปลูกส้มที่มีคุณภาพได้ ดังนั้นการร่วมมือกับห้างคาร์ฟูร์ จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยโปรโมตส้มจากประเทศไทยให้ต่างชาติรู้จักมากขึ้น” นายบัณฑูร กล่าว

ด้าน นายแยนนิค ดูวิลล์ ผู้จัดการฝ่ายอาหารสดบริษัท เซ็นคาร์ จำกัด (ห้างฯคาร์ฟูร์) ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การลงนามร่วมกับบริษัท เชียงใหม่ธนาธร ฟาร์ม จำกัด เป็นการร่วมมือกันในโครงการวงจรคุณภาพของคาร์ฟูร์ ที่เปิดตัวในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2543 ในการนำเสนอแนวทางใหม่ให้แก่ลูกค้า ในการเลือกซื้อสินค้าที่รับประกันความปลอดภัยจากการปนเปื้อนของสารเคมีในระหว่างการเพาะปลูก จนถึงขั้นตอนการบรรจุภัณฑ์ ซึ่งมีมาตรฐานระดับสากลรองรับ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเกษตรกร และอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศไทยต่อไป

สำหรับสวนส้มธนาธร เป็น 1 ใน 8 บริษัทที่ห้างฯคาร์ฟูร์ ได้ร่วมลงนามในสัญญาด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับหลายบริษัทในต่างประเทศ เพื่อนำสินค้ามาจำหน่ายยังห้างฯคาร์ฟูร์ อาทิ มะม่วง จากประเทศสิงคโปร์ และ กุ้ง จากประเทศเกาหลี

ทั้งนี้ จากสถิติที่ผ่านมาเป็นตัวการันตีว่า สินค้าในโครงการวงจรคุณภาพ เช่น มะม่วง กุ้ง สับปะรด เนื้อหมู ผักปลอดสารพิษ เมื่อเข้าไปจำหน่ายในห้างคาร์ฟูร์ทั่วโลกมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น โดยในปี 2547 มีอัตราการเติบโตสูงกว่า ปี 2546 ถึง 90% และในปี 2548 มีอัตราการเติบโตสูงถึง 30% จากปี 2547

นายแยนนิค กล่าวอีกว่า ในส่วนของส้มสายน้ำผึ้ง จากสวนส้มธนาธร ได้เริ่มวางขายให้ห้างฯคาร์ฟูร์ 23 สาขาประเทศไทย มาตั้งแต่เดือน ม.ค.ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ซึ่งได้วางแผนเตรียมนำส้มสายน้ำผึ้งไปจำหน่ายยังสาขาในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศฝรั่งเศส และสเปน เนื่องจากมีความต้องการบริโภคส้มสูงมาก

นอกจากนี้ ในอนาคตได้นำสินค้าในประเทศไทย เข้าร่วมโครงการวงจรคุณภาพ อีกหลายชนิด เช่น แคนตาลูป ส้มโอ ทุเรียน กล้วย รวมทั้งปลานิล และปลาทับทิม ซึ่งบริษัทที่จะเข้าร่วมโครงการ ต้องมีศักยภาพเพียงพอเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค และผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ

ลบภาพส้มสายน้ำผึ้ง - ส้มสายน้ำพิษ

นายบัณฑูร กล่าวต่ออีกว่า ตามที่มีกระแสข่าวว่าส้มจาก อ.ฝาง อ.ไชยปราการ อ.แม่อาย มีสารพิษตกค้างนั้น เชื่อว่าภายหลังการทำพิธีลงนามดังกล่าว จะเป็นการลบภาพของส้มจากที่นี่ด้วย นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกส้มที่มีคุณภาพมากขึ้นด้วย

“ปัจจุบันทั้ง 3 อำเภอมีพื้นที่ปลูกส้มประมาณ 170,000 กว่าไร่ ให้ผลผลิตทั้งสิ้น 1.5 แสนกว่าตัน สร้างรายได้ทั้งหมดประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งการลงนามจะเป็นการฉุดกระแส ให้เกษตรที่ปลูกส้มทั้งหมด หันมาเน้นที่คุณภาพและปลอดสารพิษมากขึ้น”

ในส่วนของสวนส้มธนาธร มีพื้นที่ปลูกส้มทั้งหมดประมาณ 5,000ไร่ แต่ให้ผลผลิตประมาณ 3,000 ไร่เท่านั้น โดยส้มทั้งหมดจะมีการตรวจหาสารตกค้าง เพื่อให้ผู้บริโภคไม่ได้รับสารพิษตกค้างอย่างแน่นอน

“ในการปลูกส้มต้องมีการใช้สารเคมีบ้าง เพื่อป้องกันแมลงที่จะมาทำลายผลส้ม อย่างไรก็ตามสวนส้มธนาธรได้ใช้สารเคมีที่ไม่กระทบต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายขั้นตอน ซึ่งขอยืนยันว่าปลอดภัย 100%” นายบัณฑูร กล่าว