xs
xsm
sm
md
lg

เปิดแฟ้ม ....คดีทุจริตซื้อที่ดินทิ้งขยะเขาไม้แก้วของเมืองพัทยา.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วันที่ 17 มีนาคม 2535 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ดำเนินการตามโครงการเร่งด่วนเพื่อฟื้นฟูเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก(สพอ.)ซึ่งได้อนุมัติให้เมืองพัทยารับผิดชอบดำเนินการตามโครงการกำจัดขยะและสิ่งปฏิกูล ระยะเวลาดำเนินการ3ปี(พ.ศ.2535-2537)โดยให้เมืองพัทยาจัดซื้อที่ดินไว้เป็นที่ทิ้งขยะ จำนวนไม่น้อยกว่า140ไร่ โดยมีระยะห่างจากเมืองพัทยา ไม่เกิน๑๕กิโลเมตร งบประมาณในการจัดซื้อทั้งสิ้น 98 ล้านบาท

ปี พ.ศ.2535 เมืองพัทยา มีนายกเมืองชื่อนายอนุพงษ์ อุดมรัตนกูลชัย มีปลัดเมืองพัทยาชื่อ นายวิทยา คุณานุกรกุล( ซึ่งเมื่อเหตุของคดีนี้เกิดขึ้นนายวิทยา รับราชการในตำแหน่งปลัดเมืองพัทยา )มีนายวิริยะ บุญกูล เป็นหัวหน้างานนิติกรรม ระดับ๖ ได้รับแต่งตั้งจากนายวิทยา คุณานุกรกุลให้เป็นกรรมการจัดการซื้อที่ดินใช้เป็นที่ทิ้งขยะเมืองพัทยาโดยใช้วิธีพิเศษ มีนายประเสริฐ ภู่พงษ์ รับราชการประจำสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาบางละมุง ในตำแหน่งเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี (สาขา)ระดับ๗ ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจรับที่ดินทิ้งขยะเมืองพัทยา จำนวน140 ไร่.

มีผู้เสนอขายที่ดินให้กับเมืองพัทยา ๒รายคือรายของนายพหล คลังพหล เสนอขายที่ดินในเขตตำบลหนองปลาไหล และรายของนายพีระ ศิลรัตน์ เสนอขายที่ดิน ที่ตำบลเขาไม้แก้ว ต่อมาปรากฏว่ารายของนายพีระ ศิลรัตน์ เป็นผู้ที่เมืองพัทยาตกลงซื้อที่ดินตำบลเขาไม้แก้วเป็นที่ดินทิ้งขยะของเมืองพัทยา จากราคาไร่ละ 720,000บาทนายพีระ ลดให้เหลือไร่ละ668,000 บาท รวมเป็นเงิน 93,520,000 บาท

พล.ต.ต.เสรี เตมียเวส สมัยที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานตำรวจ อยู่ที่ชลบุรี เข้าจับคดีตามคำร้องเรียนว่ามีการทุจริตในการซื้อขายที่ดินทิ้งขยะของเมืองพัทยาในปี พ.ศ. 2537 นำทีมตำรวจสืบสวนสอบสวน จนกระทั่งมีการจับกุมผู้ถูกกล่าวหาเป็นจำเลยรวมทั้งหมด5 คน ส่งสำนวนให้เจ้าพนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี

ต่อมาเจ้าพนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี ดำเนินการส่งคดีทุจริตซื้อขายที่ดินทิ้งขยะเมืองพัทยา (ที่ดินตำบลเขาไม้แก้ว)ฟ้องต่อศาล ศาลประทับฟ้องและนัดพิจารณาตั้งแต่วันที่16กรกฎาคม 2540 เป็นต้นมา เป็นคดีหมายเลขดำที่ 2295 / 2540 ระหว่างพนักงานอัยการโจทก์ และนายสมชาย คุณปลื้มกับพวกรวม 5 คน เป็นจำเลย

ตามคำฟ้องของพนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี ปรากฏมี 1.นายสมชาย คุณปลื้ม
2.นายศิวดลหรือดำ สุคนธสิทธิ 3.นายวินัย สมทรัพย์ 4.นายวิริยะ บุญกูล 5.นายประเสริฐ ภู่พงษ์ เป็นจำเลยที่1-5 ตามลำดับ

วันที่ 30 มีนาคมพ.ศ.2546 ศาลชั้นต้นจังหวัดชลบุรี ตัดสินคดีพิพากษาว่า จำเลยที่1 นายสมชาย คุณปลื้ม มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144,151,86 จำเลยที่ 2 นายศิวดล หรือดำ สุคนธสิทธิ์ จำเลยที่3 นายวินัย สมทรัพย์ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151,86,267,84 จำเลยที่4 นายวิริยะ บุญกูล มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา151 กรณีของจำเลยที่1ที่2ที่3 ให้เรียงกระทงลงโทษตามมาตรา 91 ฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน จำคุกจำเลยที่1 นายสมชาย คุณปลื้ม มีกำหนด 2 ปี ฐานสนับสนุนให้เจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต จำคุกจำเลยที่1 นายสมชาย จำเลยที่ 2 นายศิวดล จำเลยที่3 นายวินัย มีกำหนดคนละ3 ปี 4 เดือน ฐานใช้ให้ผู้อื่นแจ้งข้อความอันเป็นเท็จตามฟ้องข้อ ง.และข้อ ฉ.รวมสองกระทง จำคุกจำเลยที่ 2 นายศิวดล จำเลยที่3 นายวินัย มีกำหนดกระทงละคนละ1 ปี ฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต จำคุกจำเลยที่ 4 นายวิริยะ บุญกูล มีกำหนด 5ปี รวมจำคุกจำเลยที่1ที่2ที่3มีกำหนดคนละ5ปี 4 เดือน ริบของกลางทั้งหมด ยกฟ้องจำเลยที่5และยกฟ้องจำเลยที่2ที่3 เฉพาะคำฟ้องข้อ จ.คำขออื่นให้ยก.

ปูมหลังที่ดินเขาไม้แก้ว

.....จากเดิม ที่ดิน ผืนดังกล่าว เป็นป่าอยู่ในอำเภอบางละมุง บริษัทเอส.อาร์ ครอบครองเพื่อปลูกมันสำปะหลัง.(เป็นที่ดินของตระกูล นายสุริยนต์ ไรวา) โดยมี หนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.)เลขที่1218 ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเมืองพัทยา ซื้อสำหรับใช้เป็นที่ทิ้งขยะ

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม2498 บริษัท เอส.อาร์ มอร์เตอร์ จำกัด ได้ยื่นแบบแจ้งการครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าว เนื้อที่ 3,087 ไร่ ตามคำขอฉบับลงวันที่29 พฤษภาคม2598

เมื่อวันที่28 ธันวาคม2499 บริษัทแป้งมัน เอส.อาร์ จำกัด นำสค.1 หมายเลข๓316 ไปยื่นคำขอหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามคำขอรับรองการทำประโยชน์ฉบับลงวันที่28 ธันวาคม2499

ต่อมาอำเภอบางละมุงได้ประกาศเรื่องมีผู้ขอคำรับรองการทำประโยชน์ที่ดิน เพื่อที่จะออกน.ส.3 ให้กับผู้ยื่นคำขอตามประกาศ ฉบับลงวันที่๒มกราคม2500

ต่อมาอำเภอบางละมุงได้ออกน.ส.3ให้กับบริษัทเอส.อาร์ มอร์เตอร์จำกัดเนื้อที่1917 ไร่3 งาน83 ตารางวา ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่317 ลงวันที่27 กุมภาพันธ์2500

ภายหลังจากที่ได้ออกน.ส.3 ให้กับบริษัทเอส.อาร์ มอร์เตอร์ จำกัดแล้ว ปรากฎว่าที่ดินแปลงดังกล่าวได้มีการซื้อขายกันหลายครั้งจนกระทั่งเมื่อวันที่5 เมษายน2533 บริษัท เค.ไอ.ที.ไอ.คอมโปเรชั่น จำกัด เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินตามสารบัญจดทะเบียนน.ส.3 เลขที่317 ตำบลเขาแม้แก้ว อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี

เมื่อวันที่11 เมษายน2533 บริษัทเค.ไอ.ที.ไอ.คอมโปเรชั่น จำกัด ได้ยื่นคำขอรังวัดสอบเนื้อที่ดินน.ส.3 เลขที่317 ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุงจังหวัดชลบุรี เพื่อขออกน.ส.3 ก.ตามคำขอรังวัดสอบเนื้อที่ดิน ฉบับที่ 5520 /33 ลงวันที่11 เมษายน2533

ต่อมาเจ้าหน้าที่ที่ดินได้ทำบันทึกเสนอนายอำเภอบางละมุง เกี่ยวกับการรังวัดสอบเขตเนื้อที่ตามคำขอของบริษัทฯ ปรากฎข้อความในข้อ๗ว่า ป่าไม้อำเภอตรวจสอบและแจ้งว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าบางละมุง”อาจจะเป็นพื้นที่ส.ท.ก.ควรแจ้งให้ป่าไม้ศรีราชาทำการตรวจสอบตามบันทึกเจ้าหน้าที่ที่ดิน ฉบับลงวันที่ 8 มิถุนายน 2533

.อำเภอบางละมุงมีหนังสือถึงป่าไม้เขตศรีราชาขอให้ตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าวว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าบางละมุง หรือไม่ตามหนังสืออำเภอบางละมุงฉบับลงวันที่10 มิถุนายน 2533

ป่าไม้เขตศรีราชา ได้มีหนังสือแจ้งนายอำเภอบางละมุงว่า ได้ตรวจสอบที่ดินดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าบางละมุงจังหวัดชลบุรีทั้งแปลง ตามหนังสือป่าไม้เขตศรีราชาที่ กษ. 0715 / 3230 ลงวันที่๒กรกฎาคม2534

.อำเภอบางละมุง ได้มีหนังสือแจ้งให้บริษัท เค.ไอ.ที.ไอ.คอมโปเรชั่น จำกัดทราบว่าที่ดินที่ขอตรวจสอบเปลี่ยนน.ส.3 ก.ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวน ฝ่ายเจ้าของที่ดินจะต้องดำเนินการทางป่าไม้ให้ยุติเรื่องสิทธิในเขตป่าไม้เสียก่อน จึงจะดำเนินการให้ท่านต่อไป ตามหนังสืออำเภอบางละมุงที่ชบ. 0620 /4488 ลงวันที่12 กรกฎาคม 2534

บริษัท เค.ไอ.ที.ไอ.คอมโปเรชั่น จำกัด ได้มีหนังสือที่ 81 /2534 ลงวันที่19 สิงหาคม2534 ถึงป่าไม้เขตศรีราชา แจ้งให้ป่าไม้เขตออกไปรังวัดกันพื้นที่ตามหลักฐานหนังสือรับรองการทำประโยชน์ออกจากป่าสงวนแห่งชาติ ตามความในวรรคท้ายของมาตรา12 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ.2507 เพราะที่ดินดังกล่าวมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยถูกต้องตามกฎหมายที่ดิน.

ป่าไม้เขตศรีราชาแจ้งให้บริษัทฯทราบว่า ป่าไม้เขตได้พิจารณาแล้ว ความในวรรคท้ายแห่งมาตรา12 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ.2507 หมายถึงการยกเว้นให้แก่ผู้ครอบครองที่ดินในป่าสงวนแห่งชาติ โดยมีหลักฐานแสดงสิทธิที่ดินถูกต้องตามประมวลกฎหมายที่ดิน จะไม่ต้องมายื่นคำร้องอ้างว่ามีสิทธิหรือได้ทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนในเขตป่าสงวนแห่งชาติต่อนายอำเภอบางละมุงหรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอท้องที่ ภายใน90 วันและในการขอเปลี่ยนหลักฐานการเข้าทำประโยชน์ ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3)เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3ก.)นั้น หากหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3) เดิมออกโดยชอบด้วยกฎหมายก็ย่อมที่จะดำเนินการเปลี่ยนเป็นหนังสือรับรองการเข้าทำประโยชน์(น.ส.3ก.)ต่อไปได้ ตามหนังสือ ป่าไม้เขตศรีราชาที่ กษ. 0715/4205 ลงวันที่5กันยายน 2534

ต่อมาที่ดินอำเภอบางละมุง ได้ทำหนังสือเสนอนายอำเภอบางละมุงกรณี บริษัทเค.ไอ.ที.ไอ.คอมโปเรชั่น จำกัด ขอเปลี่ยนน.ส.3เป็นน.ส.3 ก.สรุปได้ว่า...

(๑)การสอบหลักฐานน.ส.3 เลขที่317 หมู่ที่1 ตำบลเขาไม้แก้ว ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของทางราชการ คือมีคำขอมีการพิสูจน์การทำประโยชน์ มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ร่วมตรวจสอบและมีความเห็นพ้องกันว่า ออกน.ส.3 ก.ให้ได้

(๒)ฝ่ายป่าไม้ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าที่ดินแปลงนี้ได้มีเอกสารสิทธิถูกต้องตามประมวลกฎหมายที่ดินอยู่ก่อนพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ.2507

(๓)พยานบุคคลที่เกี่ยวข้องยืนยันว่าที่ดินที่ทำการรังวัดตรงกับหลักฐานน.ส.๓เลขที่๓317 หมู่ที่1 ตำบลเขาไม้แก้ว เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเป็นแปลงเดียวกัน.

(๔)การเปลี่ยนแปลงน.ส.3 เป็นน.ส.3ก. ไม่ทำให้ความหมายของคำว่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์เปลี่ยนไป เพราะเป็นเพียงหนังสือรับรองการทำประโยชน์เช่นเดียวกัน เพียงแต่มีที่หมายในระวางรูปถ่ายชัดเจนเท่านั้น ไม่ใช่หนังสือแสดงสิทธิ ประกอบกับเนื้อที่ไม่ได้มากไปกว่าเดิม.

ด้วยเหตุผลข้างต้นจึงให้มีการออกน.ส.3ก.ให้กับบริษัทฯตามบันทึกสำนักงานที่ดินอำเภอบางละมุง ฉบับลงวันที่ 30 ตุลาคม 2534

อำเภอบางละมุง ได้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.)ให้กับบริษัทเมื่อวันที่1 ตุลาคม 2535 เนื้อที่ 1810 ไร่1 งาน 28 ตารางวา ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.)เลขที่1110 เล่มที่12 ก.หน้า10 เลขที่ดิน2

ต่อมาบริษัท เค.ไอ.ที.ไอ.คอมโปเรชั่น จำกัด ได้ทำการแบ่งแยกที่ดินแปลงดังกล่าวและจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมขายให้กับนายนายพีระ ศิลรัตน์ จำนวน150 ไร่ เมื่อวันที่20 ตุลาคม2535 และต่อมานายพีระ ศิลรัตน์ ได้เสนอขายที่ดินแปลงดังกล่าวให้กับเมืองพัทยาและได้แบ่งแยกที่ดินให้คงเหลือเนื้อที่140 ไร่ และจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมขายให้กับเมืองพัทยา เมื่อวันที่18 มิถุนายน2536 ตามน.ส.3 ก.เลขที่1218 เล่มที่13 ก.หน้า18 เลขที่ดิน6 ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี.

*ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง.

๑.พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดินพ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา๒ พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศใช้ในพระราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป.

๒.พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดินพ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา๕ ให้ผู้ที่ได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิที่ดิน แจ้งการครอบครองที่ดินต่อนายอำเภอท้องที่ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับตั้งแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีกำหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

๓.พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดินพ.ศ.๒๔๙๗ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่๗๑ ตอนที่๗๘(ฉบับพิเศษ)ลงวันที่๓๐พฤศจิกายน๒๔๙๗

๔.ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา๕๘ ทวิ “เมื่อสำรวจรังวัดทำแผนที่หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดินตามมาตรา๕๘แล้วให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วแต่กรณี ให้แก่บุคคลตามที่ระบุไว้ในวรรคสอง เมื่อปรากฎว่าที่ดินที่บุคคลนั้นครอบครองเป็นที่ดินที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ตามประมวลกฎหมายนี้” บุคคลซึ่งเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ อาจออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามวรรคหนึ่งให้ได้คือ...

(๑) ผู้ซึ่งมีหลักฐานการแจ้งครอบครองที่ดิน มีใบจอง ใบเหยียบย่ำ หนังสือรับรอง การทำประโยชน์ โฉนดตราจอง ตราจองที่ตราว่า “ได้ทำประโยชน์แล้ว”หรือเป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ

(๒)..................(ฯลฯ)

ข้อพิจารณา.

ผู้ครอบครองที่ดิน ได้แจ้งการครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าว เมื่อวันที่๒๙พฤศจิกายน๒๔๙๘ ซึ่งเป็นระยะเวลาภายใน๑๘๐วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดินพ.ศ.๒๔๙๗ ใช้บังคับ(บังคับเมื่อ๑ธันวาคม๒๔๙๗) ดังนั้น การแจ้งการครอบครอง(ส.ค.๑)จึงเป็นการแจ้งโดยชอบด้วยกฎหมายและต่อมาเจ้าของที่ดินได้นำหลักส.ค.๑ ไปขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.๓)และอำเภอบางละมุง ได้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้เมื่อวันที่๒๗กุมภาพันธ์๒๕๐๐ ซึ่งเป็นระยะเวลาก่อนที่พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ.๒๕๐๗ บังคับใช้ ดังนั้นการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.๓)ดังกล่าว จึงเป็นการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.๓)โดยชอบด้วยกฎหมาย ต่อมาเจ้าของที่ดินได้ขอรังวัดเปลี่ยนแปลงหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.๓)เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.๓ก.) ดังนั้น หนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.๓ก.)จึงเป็นเอกสารสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมาย

สรุป.

จากเอกสารและหลักฐานที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จึงพิจารณาได้ว่า ที่ดินแปลงน.ส.๓ก.เลขที่ ๑๒๑๘ เล่มที่ ๑๓ ก.หน้า๑๘ เลขที่ดิน ๖ ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเมืองพัทยาได้ซื้อมาจาก นายพีระ ศิลรัตน์ นั้น ซึ่งจะอยู่ในเขตป่าสงวนก็จริง แต่มิได้เป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์ประเภทป่าสงวน เนื่องจากได้รับการยกเว้น ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ.๒๕๐๗ ทั้งนี้ เพราะที่ดินแปลงดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ การครอบครองถูกต้องตามกฎหมายอยู่ก่อน พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ.๒๕๐๗.
กำลังโหลดความคิดเห็น