xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์สั่งล่าแมงมุมป่าศึกษาสายพันธุ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวบ้านที่ถูกแมงมุมป่ากัดยังคงเชื่อมั่นการรักษาแบบโบราณหรือใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านมากกว่าที่จะให้แพทย์แผนปัจจุบันรักษา
กาฬสินธุ์-ผู้ว่าฯเมืองน้ำดำ สั่งปศุสัตว์-เกษตร ล่าแมงมุมป่าตรวจหาเชื้อพิษ ขณะที่ผู้ป่วยยังแห่รักษาทั้งไสยศาสตร์และแผนโบราณกันเพียบ หลังพึ่งแพทย์แผนปัจจุบันไม่ได้ผลกรณี

นายศรีสยาม แคล่วคล่อง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/2 หมู่ที่ 3 ต.สงเปลือย อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเกิดล้มด้วยอาการอักเสบตามร่างกาย โดยที่บริเวณต้นคอเกิดบวม และขาด้านขวายังมีอาการเลือดแข็งตัว จนแทบจะเดินไม่ได้ ซึ่งแพทย์โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร

ขณะที่ นายศรีสยาม ผู้ป่วย ระบุว่า ตนล้มป่วยเนื่องจากถูกพิษร้ายของแมงมุมป่า กัด พร้อมกับได้นำเขี้ยวของแมงมุมที่เพิ่งจะถอดออกจากบริเวณต้นคอ และขาด้านขวามาแสดงเป็นหลักฐาน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด นายกวี กิตติสถาพร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า กรณีโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ รับผู้ป่วยมาจากโรงพยาบาลเขาวง ซึ่งผู้ป่วยมีอาการอักเสบ บริเวณต้นคอ โดยเฉพาะขาด้านขวายังมีอาการเลือดแข็งตัวที่อาการเริ่มต้นจากมีอาการเป็นเหน็บชา

แต่ นายศรีสยาม ระบุว่า เกิดจากสาเหตุแมงมุมป่ากัด ที่มีหลักฐานเป็นคมเขี้ยวถึง 4 เขี้ยว มาให้หมอดู แต่แพทย์ก็ยังไม่สามารถที่จะสรุปสาเหตุได้ว่า เกิดจากพิษร้ายของแมงมุมป่า หรือเกิดจากปัญหาสุขภาพของตัวผู้ป่วยเอง ในเรื่องนี้ตามรายงานในด้านการหาสาเหตุ จึงได้สั่งการไปยังปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เข้าสำรวจตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง ร่วมเกษตรกรอำเภอเขาวง ในเขต ต.สงเปลือย เกี่ยวกับการให้ข่าวแมงมุมป่ากัด จากหมอดูแมงมุมที่เป็นเรื่องของความเชื่อ

พร้อมกับสืบหาสายพันธุ์แมงมุม เพื่อนำวิจัยว่า เป็น แมงมุมป่า พันธุ์อะไร มีพิษในลักษณะไหนที่ในเบื้องต้น ก็เป็นไปได้ว่า สาเหตุการเจ็บป่วยอาจเกิดจากพิษร้ายของแมงมุม เพราะแมงมุม
ทั่วไปตามตัว หรือแม้แต่คมเขี้ยว ก็จะมีพิษสงที่รุนแรงอยู่แล้ว และในส่วนของทางการแพทย์ก็ได้สั่งการให้ สาธารณสุขจังหวัด ได้ติดตามรายงานผลการวินิจฉัยของโรค

โดยเฉพาะในรายของ นายศรีสยาม ว่า เจ็บป่วยด้วยสาเหตุของโรคอะไรกันแน่ เพราะเท่าที่ได้รับรายงานในวันนี้ นายศรีสยาม ผู้ป่วย ได้ถูกนำตัวส่งต่อไปรักษาอยู่ที่ โรงพยาบาลศรีนครินทร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสาเหตุของโรคยังไม่สามารถสรุปได้ จึงขอเตือนเกษตรกร หรือชาวบ้านที่เข้าหาของป่าในช่วงนี้ ให้ระมัดระวังพิษร้ายของสัตว์มีพิษทุกชนิด ที่ไม่เว้นแม้แต่แมงมุมป่า ที่ยังรวมไปถึงงูและสัตว์มีพิษที่แฝงตัวฝังกายในทุกพื้นที่ด้วย

ต่อมา เมื่อเวลา 14.00 น.วันเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าไป เพื่อติดตามหากรรมวิธีการรักษาพื้นบ้านตามความเชื่อของราษฎรในพื้นที่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งระยะทางห่างจากตัวจังหวัดกว่า 120 กิโลเมตรติดกับเทือกเขาภูพาน โดยได้เดินทางไปที่บ้าน ของ นางแก้ว หาศิริ อายุ 67 ปี หมอพื้นบ้านที่ใช้เข็มบ่งรักษาผู้ป่วยที่ถูกแมงมุมกัด

ในระหว่างที่เดินทางไปถึง กำลังรักษาชาวบ้านที่ถูกแมงมุมป่ากันเช่นกัน นางแก้ว หาศิริ อายุ 67 ปี เลขที่ 228 หมู่ที่ 4 บ.กุดบอด ต.สงเปลือย อ.เขาวง กล่าวว่า การรักษาผู้ป่วยที่ถูกแมงมุมกัด ได้สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ โดยตนเองได้เริ่มรักษามาตั้งแต่อายุประมาณ 21 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ มารดาของตน ก็ถูกพิษแมงมุมกัด และด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน ที่จะมีการรักษาด้วยวิธีการง่ายๆ ก็จะทำให้หาย

จึงได้เริ่มเรียนรู้มาตั้งแต่เล็ก ได้นำภูมิปัญหาในการรักษาคน ที่ถูกแมงมุมกัดมารักษาชาวบ้าน ซึ่งขั้นตอนในการรักษาจริงๆ แล้วก็ไม่ใช้เรื่องยาก แต่จะต้องชำนาญในการใช้เข็ม และหาบริเวณที่ถูกแมงมุมกัด ที่จะมีเครื่องมือในการรักษา เพียง 3 อย่าง คือ 1.มะนาว หรือมะกรูด 2.เข็ม และ 3.ว่านถอนเขี้ยวแมงมุม ที่สามารถนำมาปลูกได้ทั่วไป

จากนั้นวิธีการรักษา ก็จะนำมะนาวมาถูบริเวณที่ถูกแมงมุมกัด(หากรู้อยู่แล้ว) จากนั้นก็จะนำว่านถอนเขี้ยวแมงมุม ที่จะใช้เวลาประมาณ 10 นาทีหากตรงจุด เมื่อเปิดขึ้น ก็จะเห็นรอยคมเขี้ยวแมงมุมโผล่นูนขึ้นมา จากนั้นก็จะใช้เข็มบ่งออก เพื่อเป็นการรักษา

นางแก้ว เล่าต่อว่า ในการรักษาอาการส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่มาให้บ่งเขี้ยวแมงมุมออก ที่ในรายที่ไม่รู้ตัวจนพิษกำเริบ จะมีอาการหนัก ซึ่งภายหลังจากที่บ่งพิษออกส่วนใหญ่ก็จะมีอาการดีขึ้น แต่ก็ต้องอาศัยแพทย์แผนปัจจุบัน ดูแลอาการด้วยเช่นกัน และในส่วนที่มีหมอดูเทียน ซึ่งเป็นการดูหมอทางไสยศาสตร์ เรื่องนี้เป็นสิ่งเร้นลับ ที่เป็นไปได้แล้วแต่ความเชื่อ

โดยเฉพาะในรายของ นายศรีสยาม ซึ่งก่อนหน้าที่จะเอาเข้ามาให้ตนได้รักษา ก็ได้ไปดูมาแล้วก็เจอจริง

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลัดเลาะเข้าไปบริเวณตีภูเขา เพื่อเข้าไปพบกันหมอดูเทียน ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านนี้ไปประมาณอีก 3 กิโลเมตร และได้พบกับ นายนาด ศรีหาตา อายุ 64 ปี หมอดูเทียน เลขที่ 82 หมู่ที่ 6 บ.นาวี ต.สงเปลือย ที่กำลังทำการดูเทียนทางไสยศาสตร์ให้กับชาวบ้านภายในหมู่บ้านตามปกติ

นายนาด ศรีหาตา อายุ 64 ปี กล่าวว่า เกี่ยวกับข่าวของ นายศรีสยาม หรือนายแมว ซึ่งมีตำแหน่งเป็น ส.อบต.สงเปลือย อ.เขาวง นั้น ตนได้เป็นคนที่ส่องเทียนดูทางไสยศาสตร์ให้จริง ซึ่งเป็นญาติของ นายศรีสยาม ได้มาพึ่งทางไสยศาสตร์ ที่บอกว่า นายศรีสยาม ผู้ป่วย แพทย์แผนปัจจุบัน ไม่สามารถระบุได้ว่าป่วยเกิดจากสาเหตุอะไร

เพียงแต่บอกว่าที่ต้นคอและขาด้านขวา มีปัญหาในเรื่องเลือดแข็งตัว ตนจึงได้ประกอบพิธีทำนายให้ และได้แจ้งไปว่าถูแมงมุมป่ากัด ถึง 2 จุด ซึ่งเมื่อไปรักษากับหมอพื้นบ้าน ก็มีการถูกกัดจริงๆ ซึ่งในเรื่องนี้ คงแล้วแต่ความเชื่อ

“ก่อนที่จะรักษา ตนได้ขอวิชามาจากอาจารย์ ใน จ.สกลนคร เมื่อตนอายุประมาณ 20 ปี เนื่องจากเห็นวิธีการเป่าปากรักษาต่อกระดูก ที่คนโบราณมีไว้ใช้รักษาคน เพราะในอดีตการเดินทางไปหาหมอลำบาก จึงได้ร่ำเรียนวิชานี้มา"

แต่เมื่ออายุราว 23 ปี ก่อนที่จะเริ่มหันมาสนใจไสยศาสตร์อย่างจริงจัง ตนได้ฝันเห็นคนคล้ายกับ ฤๅษี ได้มานั่งคุยและได้บอกให้ตนได้นำคาถาที่เรียนเป่า กระดูกมา นำคาถามาท่องสลับ
พร้อมกับให้จ้องไปที่เทียน ซึ่งในความฝันก็บอกว่าจะเห็นทุกอย่างที่ต้องการเห็น และคนที่คล้ายฤๅษี ก็ได้เดินจากไป และเมื่อตนเองตื่นขึ้นมา ก็ได้ทดลองดูเทียนและทำนายทายทักมาจนถึงปัจจุบัน

นายนาด ศรีหาตา หมอดูเทียน เล่าต่อว่า นอกจากการทำนายหาอสรพิษ ตนยังสามารถทำนายได้ทุกเรื่องแล้วแต่สิ่งที่คนต้องการถาม ที่ส่วนใหญ่คนที่เขามาสอบถาม จะเป็นกลุ่มคนที่สิ้นหวัง ไม่มีทางออก เช่นเดียวกับ นายศรีสยาม ที่มีอาการป่วยหนัก แต่ไม่รู้สาเหตุ จนญาติต้องมาพึ่งไสยศาสตร์เช่นนี้

ด้าน นายนิยม บานเพชร ส.อบต.สงเปลือย กล่าวว่า เรื่องของการบ่งพิษ หรือเขี้ยวแมงมุม ตั้งแต่เกิดมาทุกคนในหมู่บ้านก็รู้กันแล้ว เพราะในแถบนี้เกษตรกรจะมีอาชีพทำนา หาของป่า ที่ในแต่ละเดือนจะมีชาวบ้านถูกกัดมากกว่า 50 ราย

ไม่รวมจากที่อื่นที่รู้ข่าวก็จะแห่เข้ามารักษาเฉลี่ยเดือนละกว่า 100 ราย ที่เป็นในส่วนของแมงมุม เพราะเป็นการรักษาถอนพิษในแบบพื้นบ้าน แต่ในส่วนของไสยศาสตร์ คงจะขึ้นอยู่ที่ความเชื่อของแต่ละบุคคล เพราะก็สามารถเป็นที่พึ่งทางใจได้เช่นกัน ที่ไม่เคยสร้างปัญหาทางสังคมให้กับหมู่บ้านเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น