วันเด็กแห่งชาติปีนี้ - วอนสังคมเหลียวแลเด็กกำพร้า

อุบลราชธานี- ใกล้เทศกาลวันเด็กแห่งชาติ ปี 2549 เผยยังมีเด็กกำพร้าที่ต้องการให้สังคมเข้าใจดูแลและช่วยเหลือ เผยมูลนิธิเด็กกำพร้าอีสาน จ.อุบลฯ มีเด็กกำพร้า เป็นอีกองค์กรที่ขับเคลื่อนช่วยเหลือเด็กกำพร้าในภาคอีสาน

วันนี้ (11 ม.ค.) นางนิรวรรณ อุปพงค์ ผู้ดูแลเด็กมูลนิธิเด็กกำพร้าอีสาน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า มูลนิธิเด็กกำพร้าอีสาน ได้รับการอุปถัมภ์จากคุณยายทองม้วน แสงอร่าม ณ อุบล ดูแลเด็กภาคอีสาน ที่ประสบปัญหาครอบครัวแตกแยก ครอบครัวยากจนไม่สามารถเลี้ยงดูให้การศึกษาแก่เด็ก รวมทั้งปัญหาเด็กถูกรังแกจากคนในครอบครัว และขาดความรักจากผู้ปกครองที่ไม่ใช่พ่อแม่

มูลนิธิจะรับเด็กเหล่านี้มาเลี้ยงดู ส่งเสีย ให้ศึกษาตามความต้องการของเด็ก โดยตั้งแต่ปี 2507 มีเด็กกำพร้าที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง ได้รับการศึกษากว่า 100 คน ปัจจุบันทั้งหมดประกอบอาชีพรับราชการทหาร ข้าราชการครู และพนักงานบริษัท

ปีการศึกษา 2546 - 2547 มีเด็กกำพร้า จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ระดับ ปวส. ปวช. และมัธยมปลาย ออกไปทำงานจำนวน 12 คน ปัจจุบันมูลนิธิเด็กกำพร้าอีสาน เหลือเด็กอยู่ในความดูแลจำนวน 13 คน เป็นเด็กชาย 5 หญิง 8 คน อายุระหว่าง 4-19 ปี โดยเป็นกลุ่มเด็กวัยประถมมากที่สุด

ด้านความช่วยเหลือมูลนิธิไม่มีนโยบายออกไปขอรับบริจาค แต่มีผู้ใจบุญนำสิ่งของเครื่องใช้ หรือเงินสดมาให้ด้วยตนเอง และบางรายใช้ความรู้ที่เรียนมาช่วยเหลือ เช่น นายสุทัศน์ ใจหอม อาจารย์โรงเรียนดงเมย อ.บุณฑริก ใช้เวลาวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ มาเป็นอาจารย์สอนพิเศษให้กับเด็กกำพร้า

นางนิรวรรณ กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาเด็กที่มาอยู่กับมูลนิธิ จะมีปัญหาโรคซึมเศร้าจากปัญหาที่เคยประสบมา จึงจัดกิจกรรมให้เด็กทำ เพื่อให้ลืมเรื่องราวในอดีต และสร้างความสนุกสนานให้เด็ก สิ่งที่เด็กต้องการในเวลานี้ คือ ความเข้าใจ และสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน อาทิ สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก เครื่องนุ่งห่มกันหนาว เพราะผ้าห่มที่เด็กใช้อยู่ได้ตกทอดจากรุ่นพี่มาหลายรุ่นแล้ว

ผู้ต้องการบริจาคสิ่งของ เนื่องในวันเด็กประจำปี 2549 สามารถนำไปมอบได้ที่มูลนิธิเด็กกำพร้าอีสาน เลขที่ 248 หมู่ที่ 2 ถ.แจ้งสนิท ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี 34000 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 045-315-393

จากรายงานของคณะกรรมการคุ้มครองเด็ก จังหวัดอุบลราชธานี ระบุว่า มีเด็กและสตรีตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัวจากการถูกละเมิดทางเพศ ถูกทำร้ายข่มเหง กักขังหน่วงเหนี่ยวเข้าขอความช่วยเหลือในปี 2548 จำนวน 133 ราย และเชื่อว่า ยังมีเด็กและสตรีที่ถูกกระทำทารุณ แต่ไม่กล้าเข้าขอความช่วยเหลืออีกจำนวนหลายร้อยคน การแก้ปัญหาคนในชุมชนต้องช่วยเหลือกัน โดยแจ้งเบาะแสการกระทำทารุณกรรม กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือที่ศูนย์ช่วยเหลือเด็กและสตรี หมายเลขโทรศัพท์ 045-242-641