xs
xsm
sm
md
lg

ร้อง สสจ.อุดรฯสอบ รพ.เอกชนเมินบัตรทองทำเด็ก 10 ขวบตาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เด็กชาย 10 ขวบเหยื่อความไร้จรรยาบรรณของหมอโรงพยาบาลเอกชน
อุดรธานี - ร้องทุกข์ สสจ.อุดรธานี โรงพยาบาลเอกชน "นอร์ทอีสเทินวัฒนา" ไม่ใส่ใจรักษาพยาบาลหลานชาย ทั้งที่มีบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค ท้ายสุดหลานชายต้องสังเวยนโยบายหลักประกันสุขภาพของรัฐบาล

วันนี้ (4 ม.ค.)นางสมพร วีระพันธ์ อายุ 43 ปี อาชีพค้าขาย อยู่บ้านเลขที่ 124 ถ.หมากแข้ง ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมกับ นายเฉลิมเดช วีระพันธ์ อายุ 35 ปี นายเอกลักษณ์ วีระพันธ์ 32 ปี น้องชาย พร้อมกับญาติ เดินทางเข้าร้องเรียนต่อ ทพ.กวี วีระเศรษฐกุล รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี

ทั้งนี้ เพื่อให้สอบสวนเอาผิดกับโรงพยาบาลเอกชน คือ โรงพยาบาลนอร์ทอีสเทินวัฒนา จ.อุดรธานี ขาดความพร้อมในการดูแลรักษา ด.ช.ยุทธการ หรือน้องอ๊อฟ วีระพันธ์ อายุ 10 ขวบ คนไข้บัตรทอง 30 บาทสุขภาพดีทั่วหน้า ส่งผลให้ ด.ช.ยุทธการ ต้องเสียชีวิต

นายเฉลิมเดช และนายเอกลักษณ์ เล่าว่า เย็นวันที่ 30 ธันวาคม ที่ผ่านมา ด.ช.ยุทธการ บุตรชายของนางสมพร ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.4 ร.ร.เทศบาล 2 มีอาการป่วยจุกเสียดอาเจียน จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลเอกชน เพราะครอบครัวมีหลักประกันบัตรทองที่นั่น และยังเคยไปตรวจรักษาหลายครั้ง

โดยนำบัตรคนไข้เก่าไปด้วย เมื่อไปถึงได้พบกับพนักงาน “เวชระเบียน” แจ้งให้ทราบว่าต้องนำบัตรทองมาด้วย ก็รีบเดินทางกลับมาเอา โดยเข้าใจว่า โรงพยาบาลจะนำหลานเข้ารักษาทันที แล้วรอบัตรมาให้ภายหลัง แต่แล้วกลับไม่นำหลานไปตรวจ

ทั้งสองเล่าต่อว่า เมื่อเอาบัตรทองมาให้ พนักงานคนเดิมก็บอกว่า จะต้องเอาทะเบียนบ้านมาด้วย จึงขอร้องให้เอาหลานไปตรวจก่อน เพราะหลานปวดมากจนนอนขดแล้ว พนักงานก็ยังยืนยันว่า ต้องทำตามระเบียบ แม้จะให้เหตุผลว่ามีประวัติเดิม ตรวจสอบในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ จึงให้คนกลับไปเอาทะเบียนบ้านมา

เวลาเดียวกันมีคนไข้มาติดต่อ บอกว่า อ่อนเพลียมาจากกรุงเทพฯจะขอให้สิทธิประกันสังคม พนักงานก็จัดแจงดูแลคนไข้ใหม่ก่อน ทั้งที่เขายังแข็งแรงเดินได้ หลานของตนนอนขดอยู่กลับไม่สนใจ
ความผิดพลาดของหมอโรงพยาบาลเอกชนครั้งนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ
“กว่า 50 นาทีที่มาถึงโรงพยาบาลเราไม่พบแพทย์ หรือพยาบาล พบแต่เวชระเบียน เราถูกปฏิเสธรับการตรวจ เพราะเราใช้บัตรทองไม่รู้ว่ามีปัญหาที่ระเบียบ หรือผู้ปฏิบัติมีปัญหาจึงบอกไปว่าไม่ใช้บัตรทอง แต่พร้อมจะจ่ายเงินสด พนักงานจึงยอมเปิดเครื่องดูประวัติ" นางสมพรกล่าวและว่า

แต่ในที่สุดเราก็ทนสภาพขาดความเอาใจใส่ไม่ได้ จึงพาหลานออกมาจากโรงพยาบาล ไปหาหมอที่คลินิกแพทย์ให้ยาลดกรดมา กลับบ้านก็กินข้าวต้มเพื่อกินยา เราสองคนก็ออกจากบ้าน ไม่นานมีญาติมาบอกว่า พี่สาวเอาหลานไปโรงพยาบาลเดิมอีก ก็รีบตามออกมาแต่ก็ไม่ทันหลานได้เสียชีวิตลงแล้ว โดยแพทย์บอกว่าหลานตายมาจากบ้าน ทั้งที่เข้ามาถึงโรงพยาบาลหลานก็รู้สึกตัวอยู่“

นางสมพร กล่าวว่า ประมาณ 1 ทุ่ม กลับมาเห็นลูกนอนซม รู้ว่าน้องชายพาไปหาหมอที่คลินิก แต่อาการไม่ดีขึ้นจึงปลุกลูกพามาที่โรงพยาบาลเดิม ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่ามีปัญหา มาถึงโรงพยาบาลลูกยังรู้สึกตัว พนักงานก็เอาขึ้นเตียงเข็นเข้าห้อง ห้ามญาติตามเข้าไปในห้องด้วย ประมาณ 10 นาที ก็ออกมาบอกว่า ลูกเราเสียชีวิตแล้ว โดยระบุว่า “หัวใจล้มเหลว” เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล พอดีน้องชายตามมาถึง ก็เกิดเสียงเอะอะโวยวาย จึงรู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น คือ ลูกเราปวดท้องจนใจขาดตาย มาพึ่งหมอแต่ก็ไม่มีหมอ

นางสมพร กล่าวต่อว่า ญาติพี่น้องคุยกันหลายวัน ไม่ติดใจว่าลูกตายเพราะอะไร ยังไงลูกเราก็ตายไปแล้ว แต่ติดใจเรื่องโรงพยาบาลปฏิเสธ ตรวจรักษาผู้ป่วยบัตรทอง ไม่มีความพร้อมเป็นโรงพยาบาล ที่ปล่อยให้คนป่วยใกล้ตาย อยู่กับคนไม่มีความรู้เรื่องแพทย์กว่าชั่วโมง หรือแม้กระทั่งขณะเสียชีวิต ก็มีเพียงพยาบาล รวมไปถึงคำกล่าวของผู้บริหาร ที่เชิญเราไปพบบอกว่า

“คุณต้องการอะไร ต้องการเงินหรือไม่” ทำให้เราต้องมาขอให้ทางสำนักงานสาธารณสุข จ.อุดรธานี สอบสวนเอาผิดเรื่องนี้ หวังว่าจะไม่เกิดกับคนอื่นอีก"

ทพ.กวี กล่าวว่า ตามที่ได้เล่าเหตุการณ์ให้ทราบ ตามจรรยาแพทย์หรือหน้าที่ แพทย์ หรือโรงพยาบาล จะต้องดูแลผู้ป่วยทุกคน ไม่สามารถปฏิเสธผู้ป่วยได้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการบัตรทองหรือไม่ โดยเรื่องนี้จะรายงานให้ นพ.สาธารณสุข จ.อุดรธานี รับทราบเพื่อตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง

โดยจะมีการเชิญโรงพยาบาลมาชี้แจงด้วย ทั้งนี้ จะเร่งดำเนินการให้ทันที ไม่ว่าจะเป็นส่วนของการให้บริการมาตรฐานบัตรทอง และในเรื่องของจรรยาแพทย์


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน นางสมพร พร้อมญาติมิตร ที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพงานศพ ด.ช.ยุทธนา หรือน้องอ๊อฟ ได้เคลื่อนศพจากบ้านพัก ถ.หมากแข้ง ต.หมากแข้ง มายังฌาปนกิจสถาน วัดมัชฌิมาวาส อารามหลวง เพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจตามประเพณี โดยไม่ขอให้ “แพทย์” โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ผ่าชันสูตรศพอีกครั้ง เป็นไปตามเจตนาของญาติ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ
กำลังโหลดความคิดเห็น