รายการถึงลูกถึงคน คืนพฤหัสฯ ที่ผ่านมา มีลูกแถม เมื่อคณะผู้ติดตาม “ปลอดประสพ” รุมทำร้าย 2 เอ็นจีโอ ต่อหน้า “สรยุทธ” และทีมงาน หลังรายการเลิก “ชัยพันธ์” แถลงข่าวบ่ายนี้ ก่อนเข้าแจ้งความ
นายนิคม พุทธา ผู้ประสานงานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืช ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ภาคเหนือ เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ตนกับนายชัยพันธ์ ประภาสะวัต ผอ.สถาบันสิทธิชุมชน ได้รับเชิญจากรายการถึงลูกถึงคน ดำเนินรายการโดย นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ทางช่อง 9 อสมท และมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะ ผอ.โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ร่วมรายการ เพื่อสนทนาปัญหาที่ประเทศเคนยาระงับการส่งสัตว์มาไทยชั่วคราว
ปรากฏว่า ในระหว่างรายการได้มีการถกเถียงอย่างดุเดือด จนกระทั่งจบรายการ หลังจากที่ นายสรยุทธได้ประกาศปิดรายการไปแล้วก็ยังมีการถกเถียงกันระหว่างนายชัยพันธ์ กับนายปลอดประสพ ต่อ หลังจากนั้นได้มีผู้ติดตามของนายปลอดประสพ รูปร่างสูงใส่แว่น สวมเสื้อสีทึบได้เข้ามาทำร้ายร่างกายของนายชัยพันธ์ ขณะที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ออกรายการโทรทัศน์ ขณะที่ตนกำลังจะลุกขึ้นไปห้ามก็มีชายฉกรรจ์ผู้ติดตามของนายปลอดประสพ เข้ามากระชากจนหงายหลังไปพร้อมกับเก้าอี้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อหน้านายสรยุทธ และทีมงานถ่ายทอดสด
เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ของรัฐทำร้ายร่างกาย และแสดงท่าทีข่มขู่คุกคามอย่างชัดเจน ซึ่งในบ่ายวันนี้ (23 ธ.ค.) นายชัยพันธ์ กับตนจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่สำนักงานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืช กรุงเทพฯ และจะเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป
ทางด้าน ภาคีคนฮักเจียงใหม่ ซึ่งเป็นองค์กรประชาชนที่ทั้งมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืช ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ภาคเหนือ และสถาบันสิทธิชุมชน เข้าร่วมเครือข่ายอยู่ด้วยนั้น ได้ออกแถลงการณ์ สรุปได้ดังนี้คือ
1.ขอประณามการกระทำของชายฉกรรจ์-คณะผู้ติดตามนายปลอดประสพ สุรัสวดี รวมถึงผู้บงการที่ได้ใช้กำลังทำร้ายร่างกาย การข่มขู่คุกคาม ตัวแทนของภาคีคนฮักเจียงใหม่อย่างอุกอาจ เสมือนว่าสังคมอยู่ในยุคการปกครองแบบเผด็จการ
2.ขอแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงกับท่าทีการตอบโต้ด้วยท่วงทำนองดูหมิ่น เหยียดหยาม ใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพและไม่เหมาะสมของนายปลอดประสพ สุรัสวดี ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งข้าราชการระดับปลัดกระทรวงมาแล้ว ทั้งนี้ เพราะปัญหาความคิดเห็นไม่ตรงกันในโครงการสาธารณะนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาสังคมประชาธิปไตย ในฐานะของฝ่ายประชาชนย่อมมีสิทธิตรวจสอบซักถาม ขณะที่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเองก็มีหน้าที่ต้องชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริง แต่ไม่ใช่ด้วยท่วงทำนองของการตอบคำถามแบบเสียดสี หรือคิดเอาผลแพ้ชนะ
3.ขอเรียกร้องให้คณะทำงานของรายการถึงลูกถึงคน มีจิตใจยึดมั่นต่อข้อเท็จจริงโดยไม่กังวลต่อแรงบีบคั้นภายนอกใดๆ ที่จะให้การ หรือส่งมอบเทปรายการที่ได้ถ่ายทำเอาไว้หลังจากพิธีกรประกาศจบรายการ เพื่อเป็นวัตถุพยานในการดำเนินคดีครั้งนี้ต่อไป
4.ภาคีคนฮักเจียงใหม่ ขอยืนยันที่จะเป็นองค์กรประชาชนที่มุ่งจะร่วมการแสวงหาหนทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนแบบมีส่วนร่วม ด้วยวิถีทางสันติต่อไป