อุบลราชธานี - ฉายภาพอีกด้านสายสัมพันธ์นายตำรวจภูธร ท้าชน “สนธิ” ของ “พ.ต.ท.สำเนียง ลือเจียงคำ” รอง ผกก.(สส.) สภ.อ.เมือง จ.ยโสธร “นรต.รุ่น 29” ที่ไม่มีอะไรจะเสีย เพราะเพื่อนร่วมรุ่นหลายนายนั่งเก้าอี้ใหญ่โต ทั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ตำรวจภูธรภาค 3 และภาค 9
คงกระจ่างกันบ้างแล้วว่า พ.ต.ท.สำเนียง ลือเจียงคำ รอง ผกก.(สส.) สภ.อ.เมือง จ.ยโสธร เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนายสนธิ ลิ้มทองกุล และ น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ 2 ผู้ดำเนินรายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์” ว่า เป็นใครมาจากไหน บุคลิกส่วนตัวเป็นอย่างไร จนเป็นแรงผลักดันให้เขาอาสาเป็นโจทก์ฟ้องนายสนธิ และ น.ส.สโรชา ในข้อหาหมิ่นประมาทเบื้องสูง
กว่า 10 ปีที่ผ่านมา พ.ต.ท.สำเนียงเป็นที่รู้จักของคน จ.ขอนแก่น บางส่วน ในภาพของนายตำรวจนักจัดรายการที่พยายามเข้าสู่เส้นทางการเมือง แต่ไม่สมหวัง ปัจจุบันนอกจากเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ในฐานะรอง ผกก.(สส.) สภ.อ.เมืองยโสธร แล้ว เขายังนั่งจัดรายการเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายผ่านวิทยุชุมชนในเมืองยโสธร คลื่น FM 98.25 MHz ในรายการ “สนทนาเมื่อฟ้าสาง” เวลา 06.00-07.00 น.ทุกวันภายใต้ฉายาว่า “น้อย ธำรง”
“น้อย ธำรง” เป็นชื่อเดียวกับ “อาน้อย ธำรง” ที่ พ.ต.ท.สำเนียง ใช้ในการจัดรายการเพลงทางคลื่น ทอ.107.75 MHz ที่ จ.ขอนแก่น เมื่อหลายปีก่อน
เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยสามพราน หรือ นรต.29 ของ พ.ต.ท.สำเนียง หลายต่อหลายนายในขณะนี้มีตำแหน่งใหญ่โตในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในจำนวนนั้นก็มี พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต ผบช.ภ.3 รวมอยู่ด้วย ซึ่งได้รับความไว้วางใจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้เป็น ผบช.ภ.9 เพื่อไปแก้ปัญหาความร้อนระอุใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
การเดินทางไปสร้างสันติสุขใน 3 จังหวัดแดนภาคใต้ ตามนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ของ พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว นั้น ระยะแรกได้ดึงนายตำรวจร่วมรุ่น รวมทั้งรุ่นน้องที่ไว้วางใจหลายนายไปช่วยงานอยู่พักหนึ่ง
ความผูกพันเหล่านี้แสดงให้เห็นระดับความสัมพันธ์ระหว่าง นรต.รุ่น 29 ที่มี พล.ต.ท.อดุลย์ เป็นหัวหอก กับ นรต.รุ่น 26 ซึ่งมี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นแกนนำค่อนข้างชัดเจน
นอกจาก พ.ต.ท.ทักษิณจะให้ความไว้วางใจ พล.ต.ท.อดุลย์ ลงไปนั่งบัญชาการแก้ปัญหาภาคใต้แล้ว ยังเห็นความผูกพันของ นรต.ทั้ง 2 รุ่น ที่ได้ประสานความร่วมมือทำงานทางการเมืองอีกมิติหนึ่ง เช่น กรณีหลายปีก่อนในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 1 แทน “อาเจ็ก” บุญชง วีสมหมาย มือขวาของ “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่เสียชีวิตไปแล้ว
การเลือกตั้งครั้งนั้น พรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่ง ดร.มานะ มหาสุวีระชัย เด็กสร้างของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง สมัยยังอยู่กับพรรคพลังธรรม ก่อนออกจากพรรคไป เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปเป็นหัวหน้าพรรคแทน
โดยการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ มีคำสั่งจากทางการเมืองให้บล็อกไม่ให้ ดร.มานะ มหาสุวีระชัย ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาอย่างเด็ดขาด มีการใช้กลยุทธ์ทุกรูปแบบผ่านกลุ่มนายตำรวจชุดหนึ่ง เพื่อบีบให้ ดร.มานะ ซึ่งมีภาพลักษณ์นักการเมืองน้ำดี มีความรู้ความสามารถระดับแถวหน้าของนักการเมืองไทยคนหนึ่งไม่ให้ได้รับเลือก จนในที่สุดแผนการบล็อกคะแนนก็สำเร็จ ดร.มานะต้องพ่ายแพ้ในที่สุด
จึงไม่น่าแปลกใจนักกับบทบาทของ พ.ต.ท.สำเนียง ลือเจียงคำ ที่ทุ่มสุดตัวทำเพื่อนายกฯด้วยการยอมเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ประกาศแจ้งความเอาผิดนายสนธิ กับ น.ส.สโรชา 2 ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่บังอาจวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล แม้ตัวเขาไม่มีโอกาสได้โชว์ผลงานเข้าไปมีส่วนร่วมดับไฟร้อน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือแม้แต่งานการเมืองเมื่อครั้งเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ศรีสะเกษ
ว่ากันว่าการยอมเป็นนายตำรวจ “ผู้กล้า” ของ พ.ต.ท.สำเนียงครั้งนี้ เขาไม่มีอะไรจะเสีย เพราะนอกจากจะมีเพื่อนร่วมรุ่นเป็นถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ที่สนิทสนมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างดีแล้ว ยังมี พล.ต.ต.สมพิศ ชนะมี ผบก.ภ.จว.ยโสธร และ พ.ต.อ.องอาจ ผิวเรืองนนท์ รอง ผบก.ภ.จว.ยโสธร ซึ่งเคยรับราชการอยู่ จ.ศรีสะเกษ มาก่อน อยู่เคียงข้างทั้งในฐานะผู้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมรุ่นอีกด้วย
แต่คนที่น่าเห็นใจมากที่สุดตอนนี้ คือ พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภ.3 นรต.รุ่น 28 ที่ต้องมาแบกรับภาระหนักอึ้ง ที่น้องๆ สรรหามาให้ เพื่อใช้เป็นบันไดหวังก้าวขึ้นไปอยู่ในความทรงจำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เลือด นรต.รุ่นที่ 26
ข่าวที่เกี่ยวเนื่อง
ประมวลข่าว ลิ่วล้อเคลื่อนพล-ระดมฟ้อง"สนธิ"หมิ่นพระบรมฯ!
หมิ่นเบื้องสูงหรือไม่ ?
ภาพคาใจคนไทย ‘นายกฯทักษิณในโบสถ์วัดพระแก้ว’
ราชพาหนะ VS ‘แอร์ฟอร์ซวัน’ เรื่องของการจัดลำดับความสำคัญ !