xs
xsm
sm
md
lg

ทรท.ซอยพื้นที่เขต 3 พิจิตร/ส่ง 40 ส.ส.คุม ปิดประตูล้อมเสธ.หนั่น-ลูกยอด/ช่วย“นาวิน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายงาน

พิจิตร - สนามเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จังหวัดพิจิตร ที่แม้ว่าจะเป็น 1 เก้าอี้ สส.ที่ต้องชิงชัยกันระหว่าง “นาวิน บุญเสรฐ ทรท.ที่ถูกใบเหลือง กับศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ที่พ่ายศึกเลือกตั้งใหญ่ปี 47” ก็ตาม แต่ในความหมายที่แท้จริงแล้วเก้าอี้ สส.ตัวนี้ คือ 3 เสียง ที่ต้องช่วงชิงกันระหว่างพรรคไทยรักไทย กับมหาชน – พรรคร่วมฝ่ายค้าน

หากพรรคมหาชนได้รับชัยชนะในเขตนี้ นั่นหมายถึงคะแนนเสียงอีก 2 เสียงจาก สส.ของพรรคคือ ตุ่น จินตะเวช , ทัศนีย์ รัตนเศรษฐ ต้องถูกควบคุมให้อยู่ภายใต้เงื่อนไขของพรรคมากขึ้น จากเดิมที่ถูกมองว่า 2 สส.ของพรรคมหาชน แม้อยู่ฝ่ายค้าน แต่ให้เสียงแก่ไทยรักไทยทั้งทางตรง – ทางอ้อม

ถ้า ทรท.พ่าย ก็ต้องเสีย 3 คะแนนเสียงให้ฝ่ายค้าน แต่ถ้าชนะ นอกจากจะได้ 1 เสียงจาก “นาวิน” แล้ว ยังหมายรวมไปถึงอีก 2 เสียงจาก “ตุ่น – รัตนา” ด้วย

และด้วยเดิมพัน 3 คะแนนเสียง ทำให้สนามเลือกตั้งซ่อมเขต 3 พิจิตร คึกคักมากที่สุด

พื้นที่ “โพทะเล – บางมูลนาก และกิ่ง อ.บางนางราง” ดั้งเดิมแล้วต้องถือว่า เป็นถิ่นชาละวัน –พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีต สส.หลายสมัยของพิจิตร โดยเฉพาะโพทะเล / บางมูลนาก ก่อนหน้านี้กล่าวได้ว่า เป็นเขตแฟนพันธุ์แท้ เสธ.หนั่น สมัยที่อยู่พรรคประชาธิปัตย์ โดยเมื่อปี 44 เสธ.หนั่น ส่ง “ลูกยอด-ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์” ลงแทน ก็ได้ชัยชนะมาอย่างง่ายดายด้วยคะแนน 3 หมื่นกว่า ขณะที่คู่แข่งจาก ทรท.ได้ไปหมื่นกว่าคะแนน

แต่ในการเลือกตั้ง 6 กุมภาพันธ์ 48 เมื่อเสธ.หนั่น และลูกชาย เปลี่ยนสีเสื้อไปเป็นพรรคมหาชน ที่เสธ.หนั่น ผู้พ่อปั้นขึ้นมากับมือ กลับพ่ายแพ้ต่อ “นาวิน บุญเสรฐ” ลูกรักของ “พ.ต.ท.อดุลย์ บุญเสรฐ” (คู่แข่งคนสำคัญของเสธ.หนั่น ผู้พ่อ) ที่ลงในนามไทยรักไทย ด้วยหวังที่จะขยายฐานเสียงทางการเมืองของตระกูล “บุญเสรฐ” ไปยังเขต 3 อีกเขตหนึ่ง นอกเหนือไปจากเขตเลือกตั้งที่ 4 ที่ “บุญเสรฐ” ผู้พ่อครองเก้าอี้ ส.ส.อยู่แล้ว โดยมีคะแนนห่างกันอยู่ 3,000 กว่าคะแนน

ทั้งนี้เขตเลือกตั้งที่ 3 ของพิจิตร มีผู้มีสิทธิ์จำนวน 106,690 คน แยกเป็น อ.โพทะเล 11 ตำบล กับ 2 เขตเทศบาล จำนวน 4.7 หมื่นคน , บางมูลนาก 9 ตำบลกับอีก 1 เทศบาล จำนวน 3.8 หมื่นคน ที่เหลืออยู่ในเขตกิ่ง อ.บึงนารางอีก 5 ตำบล

ซึ่งถ้าดูจากตัวเลขผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแล้ว โพทะเล เป็นพื้นที่ ที่มีคะแนนเสียงมากที่สุด แต่ถ้าวัดตามหัวคะแนน ตั้งแต่ระดับกำนัน/ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่นี้ ต้องนับว่ากว่าครึ่งหนึ่ง อยู่ในมือ เสธ.หนั่น

ส่วนบางมูลนาก ที่ เสธ.หนั่น-ลูกยอด ได้ตั้งศูนย์บัญชาการขึ้นที่อาคารพาณิชย์หน้าสถานีรถไฟบางมูลนากขึ้นมานั้น หลายปีที่ผ่านมา กล่าวได้ว่า เสธ.หนั่น ผูกขาดงานโชว์ตัวในพิธีสำคัญ ๆ ระดับอำเภออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ “งานงิ้ว” นอกจากนี้ เสธ.ยังมี “ชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นายก อบจ.” ที่เป็นคนบางมูลนากและเด็กเสธ.อยู่ข้างกายด้วย

อย่างไรก็ตาม หากลงลึกแล้วจะพบว่า ทั้ง 9 ตำบลของบางมูลนาก มีเพียง 2 ตำบลเท่านั้นที่เป็นฐานเสียงของ เสธ.หนั่น อย่างแท้จริง

สำหรับกิ่ง อ.บางนางราง (พื้นที่ติดกับเขตเลือกตั้งที่ 2 ) เดิมถือเป็นฐานเสียงของ “ไพฑูรย์ แก้วทอง” แต่ถูก “สุณีย์ เหลืองวิจิตร” ตีแตกไปเมื่อการเลือกตั้งครั้งล่าสุด โดยเอาชนะ “นราพัฒน์ แก้วทอง – ปชป.” ไปได้นั้น ฐานคะแนนเสียงส่วนหนึ่ง เป็นคนอีสาน ที่โยกย้ายเข้ามาอยู่อาศัยใน กิ่ง อ.บางนางราง อย่างเป็นกลุ่ม เป็นก้อนมากขึ้น จนอาจจะกล่าวได้ว่า จะมีส่วนสำคัญในการชี้ขาดชัยชนะในการเลือกตั้งได้เช่นกัน


วันนี้ หากถามคนพิจิตรเขต 3 ว่าจะลงคะแนนเลือกใคร อาจพบว่า ส่วนใหญ่ยังบอกว่า รักและชอบ เสธ.อยู่ แต่ก็มีคำถามตามมาเช่นกันว่า คนพิจิตรเคยให้โอกาส เสธ.หนั่น มาแล้วหลายต่อหลายปี แต่ดูเหมือน เสธ.ยังไม่ได้ใช้โอกาสนั้น ทำให้กับคนพิจิตร เท่าใดนัก และนั่นคือปัญหาของ เสธ.หนั่น และพรรคมหาชน ที่จะส่งผลต่อคะแนนของ ลูกยอด – ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ยอมรับกันว่า “แฟนพันธุ์แท้ทางการเมือง” ของเสธ.หนั่น ในเขตเลือกตั้งที่ 3 โดยภาพรวมนั้นมีอยู่จริง แต่ก็ต้องยอมรับอีกเช่นกันว่า เป็นแฟนพันธุ์แท้ยุค ประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะที่ อ.บางมูลนาก ที่ส่วนหนึ่งอยู่ในมือของกลุ่มตระกูลโรงสี และธุรกิจในเครือของ “ภัทรประสิทธิ์” ที่จนถึงขณะนี้ยังไม่ปรากฏว่า “ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” จะโดดร่วมสู้อย่างเป็นทางการ แม้ว่าจะเคยเป็นเด็กปั้นมากับมือของ เสธ.หนั่น มาก่อนก็ตาม

มีเพียงการประกาศสู้ตายของ เสธ.หนั่น ถึงขั้นจะย้ายทะเบียนบ้านออกจากพิจิตร หากผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ออกมาว่า “ลูกยอด – ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์” ผ่ายแพ้ให้กับ “นาวิน บุญเสรฐ”

ขณะที่ฝั่งของไทยรักไทย ที่เที่ยวนี้ก็พ่ายไม่ได้เช่นกันนั้น นอกเหนือไปจากการส่ง “มือวาง - มือทำแต้ม” อย่าง “เสี่ยเพ้ง – พงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รมว.คมนาคม” เข้ามาดูแลการเลือกตั้งเขต 3 พิจิตรโดยตรงแล้ว ยังมี “ประชา มาลีนนท์ รมว.ท่องเที่ยวฯ” มาเสริมทัพด้วยอีกคนหนึ่ง

ซึ่งในมุมหนึ่ง “มือทำแต้ม” อย่าง “ประชา มาลีนนท์” นั้น การันตีด้วยผลการเลือกตั้งที่จังหวัดแพร่เมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 48 ที่สามารถโค่น “แม่เลี้ยงติ๊ก – ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู” อดีต สส.แพร่ ที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งของประชาธิปัตย์ลงได้อย่างราบคาบ นำ 3 เก้าอี้ สส.แพร่ มาให้ ทรท.ได้แบบม้วนเดียวจบ

นอกจากนี้ยังมี “อดิศร เพียงเกษ รมช.เกษตรและสหกรณ์” ที่เข้ามาเสริมทัพในเขต กิ่ง อ.บางนางราง ที่ผู้มีส่วนเลือกตั้งส่วนหนึ่ง เป็นคนจากภาคอีสานอพยพโยกย้ายเข้ามาอยู่

ตามมาด้วยทัพ 40 สส.จากภาคกลาง / ภาคเหนือตอนล่าง ไม่ว่าจะเป็นพิษณุโลก นครสวรรค์ กำแพงเพชร สุโขทัย เพชรบูรณ์ ฯลฯที่ถูกส่งลงพื้นที่เขต 3 พิจิตร ตลอด 2 – 3 สัปดาห์ก่อนถึงวันเลือกตั้งซ่อม โดยซอยย่อยพื้นที่เขต 3 แยกเป็นรายตำบล ให้ สส.เข้าคลุกพื้นที่กุมเครือข่ายฐานคะแนนเสียงตำบลละ 1-2 คนเป็นอย่างต่ำ เพื่อปั้นคะแนนเสียงเป็นกลุ่มเป็นก้อน ส่ง “นาวิน บุญเสรฐ” คืนเก้าอี้ สส.ให้กับไทยรักไทยอีกครั้ง

มิพักต้องพูดถึงฐานเสียงของตระกูล “บุญเสรฐ” ของ พ.ต.ท.อดุลย์ บุญเสรฐ สส.เขต 4 พิจิตร ไทยรักไทย ผู้เป็นพ่อของ “นาวิน” ที่ขึ้นชื่อเรื่อง “ถึงลูกถึงคน” และเคยยืนซดกับ เสธ.หนั่น ในสนามเลือกตั้งมาแล้วหลายยก

ขณะที่ตัวคู่ชิง คือ “นาวิน แห่ง ทรท.กับลูกยอด/ศิริวัฒน์ แห่งมหาชน” ถือเป็นคนหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน ที่กำลังก้าวขึ้นมาแทนรุ่นพ่อ ซึ่งในทางการเมืองของ 2 ลูกรักของผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองของพิจิตรนี้ ต้องยอมรับว่า “นาวิน” ลงคลุกคลีกับชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง หลังการเลือกตั้ง 6 กุมภาพันธ์ 48 ขึ้นชื่อเรื่องติดดินพอสมควร ขณะที่ “ลูกยอด – ศิริวัฒน์” ถูกกล่าวขวัญกันมากบนถนนการเมืองว่า ยังคงแอบอิงกับเงาร่างของ เสธ.หนั่น ผู้พ่อมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ผลการเลือกตั้ง 6 กุมภาพันธ์ 48 แม้ “ลูกยอด – ศิริวัฒน์” จะพ่ายแพ้ให้กับ “นาวิน บุญเสรฐ” แต่แต้มก็ตามหลังเพียง 3,000 กว่าแต้มเท่านั้น ยังไม่ถือว่าขาดลอย และเมื่อ กกต.แจกใบเหลืองให้ “นาวิน” ทำให้โอกาสล้างตามาเร็วกว่าที่คาด

เพียงแต่ว่า วันนี้ ไม่เหมือนการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา ที่ เสธ.หนั่น เคยผูกขาดสนามเลือกตั้งจังหวัดพิจิตร มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งโดยตัว เสธ.หนั่นเอง และการนำพาคนรอบข้างเข้าวินมาด้วยแทบทุกครั้ง เพราะหัวคะแนน / บรรดาข้าราชการ ที่เคยห้อมล้อม เสธ. เมื่อคราวที่ยังอยู่ในตะแหน่งเสนาบดี ขณะนี้หลายคนต่างเปลี่ยนขั้ว วิ่งเข้าหา สส.ใหม่ ซีกไทยรักไทยกันถ้วนหน้า ทำให้ สรรพกำลังของ เสธ.ในพิจิตร อาจจะเหลืออยู่ไม่มากนัก เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ที่ส่งทั้ง “มือวาง / มือทำแต้ม / ทัพ สส.” ลงคุมพื้นที่ทุกตารางนิ้ว

รวมถึง “นโยบายประชานิยม” จากไทยรักไทย ที่ยังอาจกินใจชาวบ้านร้านตลาดอยู่

ดังนั้น การคงชื่อไว้ในทะเบียนบ้านที่พิจิตร ของ เสธ.หนั่น – พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน / ผู้พ่อของ “ลูกยอด” ต้องเหนื่อยกว่าการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมาแน่นอน เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงตำนาน “มังกรการเมือง” อีกบทหนึ่งของชาละวันเมืองพิจิตร ที่วันนี้คอการเมือง ให้อยู่ในฐานะมวยรองนิด ๆ อยู่
กำลังโหลดความคิดเห็น