xs
xsm
sm
md
lg

ค่ำคืนอันระทึกของชรบ.“ไม่ช่วยตัวเองแล้วใครจะมาช่วยเรา”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไพรัช มิ่งขวัญ
ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย


“ลุงมาทุกคืน เป็นห่วงพระ เลยมาเฝ้าที่วัด”

เป็นเสียงเอ่ยที่ราบเรียบของชายผิวคล้ำ นัยถ์ตาดุ นาม "สอน ลมมูล" หรือ "ลุงสอน" ผู้เฒ่าวัย 67 ปี ขณะยืนสูบมวนยาเส้นอย่างสบายอารมณ์ สายตามองบรรยากาศยามอาทิตย์อัสดง มีฝูงนกเอี้ยงบินกลับรังประดับเป็นฉากหน้า ภายในวัดประชุมชลธาราพื้นที่ ม.6 ตำบลสุไหงปาดี อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส

ตลอดห้วง 1 ปีที่ผ่านลุงสอนในฐานะ "สมาชิกชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน -ชรบ." จะสะพายปืนลูกซอง พร้อมเครื่องกระสุนเต็มพิกัด ควบมอเตอร์ไซค์คันเก่งค่อนไปทางเก่าขับฝ่าความมืดออกไปเยี่ยมเยือน ชรบ.รุ่นหลานที่เฝ้าเวรยามตามจุดต่างๆ ก่อนวกกลับมาทำหน้าที่อารักขาพระสงฆ์ภายในวัด

“ที่นี่ชาวไทยพุทธ 100 เปอร์เซ็นต์มีการดูแลกันอย่างเต็มที่” ลุงสอนกล่าวอย่างอารมณ์ดีขณะเดินไปที่บังเกอร์หน้าวัด พร้อมบอกว่านอกจากชุดทหารแล้วยังมีชุดราษฎรอาสารักษาหมู่บ้านหรือ (อรบ.) เข้ามาเสริมทัพทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ลุงสอนและชาวบ้านต่างรู้ดีว่า อำเภอสุไหงปาดี ถูกขึ้นแบล็กลิสต์เป็นพื้นที่สีแดง มีเหตุร้ายเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เหลือเพียงตำบลสุไหงปาดีเพียงแห่งเดียวที่ไม่เคยเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นเลย เนื่องจากชาวบ้านและทหารทำงานประสานกันอย่างเต็มที่

“แม้ไม่มีเหตุร้ายต้องลาดตระเวนอย่างต่อเนื่องประมาทไม่ได้” เป็นเสียงเอ่ยจากผู้หมวดหนุ่มวัย 28 ปี ร.ท.ไมตรี สุวะไกร รองผู้บังคับการกองร้อยทหารราบที่ 6021 ภายหลังนำกำลังลาดตระเวนมาตรวจกำลังพลบริเวณบังเกอร์หน้าวัดประชุมชลธารา

ร.ท.ไมตรี เล่าว่าเขาได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างดี นอกจากภารกิจลาดตระเวนแล้ว เขามักตรวจเยี่ยมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านตามจุดต่างๆเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ

“ทหารมองว่าประชาชนทุกคนเป็นคนดี คนไทยพุทธหรือมุสลิมไม่มีการแบ่งแยก ทุกคนคือคนไทยเหมือนกัน”

ผู้หมวดหนุ่มรายนี้บอกว่าเขารู้สึกเหมือนทหารคนอื่นๆ ที่ต้องจากครอบครัวมานานทำให้อดเหงาและคิดถึงครอบครัวไม่ได้

“ผมมาจากจังหวัดอุดรธานี อยู่พื้นที่หลายเดือนแล้ว เวลาคิดถึงครอบครัวก็โทรศัพท์หากัน แถวนี้สัญญาณไม่ค่อยมี ต้องเดินหาสัญญาณตรงสนามกลางวัด สำหรับสภาพความเป็นอยู่และอาหารการกินไม่มีปัญหา ทหารอยู่ง่ายกินง่าย เมนูเด็ดของกองร้อยคือปลาทูทอด หรือต้มยำปลาทู”

ร.ท.ไมตรีกล่าวติดตลกพร้อมอธิบายว่าทหารมีความตั้งใจจริงที่จะช่วยเหลือชาวบ้าน หวังทำให้พื้นที่แห่งนี้สงบสุขอีกครั้ง

เวลาล่วงเลยเข้าสู่ช่วงหัวค่ำแล้ว สายลมพัดโชยเย็น เคล้าเสียงจักจั่นที่ดังก้องทั่ววัด ขณะนี้ลุงสอนยังไม่เลิกสูบยาเส้น ไหล่ขวาสะพายปืนลูกซองนั่งอยู่บนมอตอร์ไซค์คันเก่ง บิดกุญแจสตาร์ทเครื่องท่อไอเสียพ่นควันขาวฟุ้งขับออกจากวัดเพื่อไปเยี่ยมลูก-หลาน ที่เฝ้าประจำตามจุดตรวจต่างๆอย่างสบายใจ

เส้นทางที่ลุงสอนขับผ่านนั้นเป็นถนนลาดยาง สลับทางลูกรังขนาดเล็ก สองข้างทางเต็มไปด้วยทุ่งนาและป่ารกชัฎ อาศัยเพียงแสงไฟหน้ารถดวงน้อยส่องให้เห็นทางข้างหน้าเพียงไม่กี่เมตร

นับเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว ที่ ชรบ.ในตำบลสุไหงปาดี เสียสละเวลาส่วนตัวเพื่อทำหน้าที่เป็นชุดคุ้มครองหมู่บ้านร่วมกับกำลังทหาร ชาวบ้านผู้ทำหน้าเป็น ชรบ.และ อรบ.ทุกคนต้องผ่านการฝึกยุทธวิธีการรบจากทหารเพื่อให้สามารถตรึงสถานการณ์ระหว่างรอเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ กรณีที่คนร้ายบุกเข้าไปก่อเหตุในพื้นที่ได้

ลุงสอนใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเดินทางมาถึงจุดตรวจแห่งแรกซึ่งมี ชรบ.และ อรบ.หลายคนพร้อมอาวุธครบมือเฝ้าประจำการรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างแข็งขัน

นายถวิล บุญหวังช่วย หนุ่มใหญ่ร่างกำยำ อายุ 40 ปีหัวหน้าชุด ชรบ.ประจำจุดตรวจแห่งนี้บอกว่าพวกเขาทุกคนภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ของ ชรบ.แม้หลายคนมีภารกิจต้องไปกรีดยางตอนตี 3 แต่ยังยอมสละเวลามารักษาความปลอดภัยให้หมู่บ้าน

“ถ้าไม่ช่วยกันแล้วใครจะช่วยเรา ไม่ใช่ปล่อยเป็นหน้าที่ของทหารอย่างเดียวเราต้องดูแลตัวเองด้วย”

นายถวิล เปิดเผยถึงหัวอก ชรบ.ว่าเวลาเหงาก็มักเปิดเพลงฟัง จะติดต่อกันทางวิทยุสื่อสารตลอดเวลา หน้าที่หลักๆ จะสอดส่องดูแลคนแปลกหน้า หากสงสัยก็ขอความรวมมือในการตรวจค้น

“เราไม่ประมาท ระวังตัวตลอดเวลา ผมยืนยันว่า ชรบ.ที่นี่มีขวัญกำลังใจดีเยี่ยม หมู่บ้านเราอยู่ได้เพราะความเข้มแข็ง ตำรวจ ทหารให้ความร่วมมือดีแวะเวียนมาประจำ”

ขณะนายอ้วน แก้วโต หนุ่มร่างท้วม อายุ 44 ปี หัวหน้าชุด ชรบ.ประจำจุดตรวจอีกแห่งหนึ่งบอกว่าทุกวันนี้เน้นเฝ้าระวังคนนอกพื้นที่ บอกกันตลอดว่าห้ามหลับยาม เพราะหลับเมื่อไหร่อาจหมายถึงชีวิต

“วันนี้สถานการณ์ปกติ ไม่เคยกลัวแต่ไม่ประมาท เราวางกำลังทั่วไปหมดบางทีไปซุ่มอยู่บนที่สูงด้วยซ้ำ”

นายอ้วนกล่าวอย่างไม่จริงจังนักว่าหากชุด ชรบ.ได้ปืนยิงเร็ว M16 มาประจำจุดตรวจน่าจะดี เพราะสามารถหวังผลระยะไกล ปืนลูกซองที่มีอยู่หวังผลได้ในระยะประชิดแต่หากคนร้ายโดนลูกซองเป่าเมื่อไหร่รับรองไม่มีรอดซักราย

ทักทายลูกหลานพักใหญ่ ลุงสอนได้ขี่มอเตอร์ไซค์ฝ่าความมืดไปอีกหลายจุดตรวจ ก่อนบ่ายหน้ากลับไปยังวัดประชุมชลธารา เพื่อคุ้มกันพระสงฆ์ภายในวัด ระหว่างทาง ลุงสอนบอกว่าท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบตัวแกมิอาจอยุ่นิ่งเฉย ด้วยสำนึกทดแทนบุญคุณแผ่นดินจึงตัดสินใจลุกขึ้นจับปืน ทั้งๆอายุตัวเองเฉียดๆ 70 ปีแล้ว

“ต้องสู้ ถ้าพวกเราไม่ช่วยกันใครจะช่วยเรา ที่ต้องไปนอนเฝ้าวัดลุงมองว่าถ้าวัดไม่มี ชาวบ้านก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน ลุงจะทำหน้าที่ ชรบ.ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีกำลัง ทำไปจนกว่าเหตุการณ์ร้ายๆจะสงบลง”

ลุงสอนพูดด้วยเสียงแผ่วเบาก่อนขับมอเตอร์ไซค์คู่ชีพฝ่าความมืดไปยังวัดประชุมชลธารา เพื่อทำหน้าที่เฝ้ายามร่วมกับชุดรักษาความปลอดภัยของทหาร เพื่อให้ลูก-หลานในตำบลสุไหงปาดี มั่นใจว่าในค่ำคืนนี้วัดและพระสงฆ์ศูนย์รวมจิตใจของชาวชุมชนจะไม่มีมนุษย์หน้าไหนมาทำลายได้อย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น