ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
เปิดข้อมูลกลุ่ม “เปอมูดอ” หลังฝ่ายความมั่นคงจับตาเป็นกลุ่มเยาวชนที่ถูกปลูกฝังอุดมการณ์กู้ชาติปัตตานี และถูกฝึกการรบแบบกองโจร ก่อนส่งก่อเหตุป่วน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่ผู้นำมุสลิม ชี้ เป็นแค่คำเรียกวัยรุ่นชาย ไม่เชื่อเป็นขบวนการก่อความไม่สงบ วอนรัฐอย่ามองแบบใส่ร้าย
จากกรณีมีข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคง กำลังจับตากลุ่ม “เปอมูดอ” หรือ Pemuda ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนที่มีอุดมการณ์กู้ชาติปัตตานี โดยเชื่อว่าเยาวชนกลุ่มนี้เป็นผู้ออกมาก่อเหตุวุ่นวายรูปแบบต่างๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเตรียมก่อเหตุใหญ่ในเดือนตุลาคมนี้นั้น
ศูนย์ข่าวอิศรา ได้ตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้ไปยังศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) พบว่าทาง ศปก.ตร.สน. กำลังเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเปอมูดอจริง
โดย “เปอมูดอ” นั้น หากแปลตรงตัว จะแปลว่า “วัยรุ่นชาย” ซึ่งแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบระดับมันสมองที่เรียกตัวเองว่า “อุลามา” (Ulama) มีการทำงานในลักษณะคณะกรรมการ จะคัดเลือกวัยรุ่นผู้ชายชาวมุสลิมที่เรียนดีระดับหัวกะทิ มีความประพฤติเรียบร้อย อายุระหว่าง 18-25 ปี มาฝึกเพื่อเป็น “นักรบเปอมูดอ”
ทั้งนี้ กระบวนการคัดเลือก จะเลือกมาจากปอเนาะ หรือโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม โดยสาเหตุที่เลือกเฉพาะเด็กเรียนเก่ง เพราะเด็กเหล่านี้จะมีความมุ่งมั่นสูง และมีความรู้เกี่ยวกับโลกภายนอกน้อย ต่างจากเด็กเกเร ซึ่งรู้มาก และควบคุมยาก
เด็กวัยรุ่นที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว จะถูกกล่อมเกลาและปลูกฝังอุดมการณ์กู้ชาติ โดยผ่านการสอนศาสนาที่ผิดเพี้ยน จากนั้นก็จะถูกส่งไปปฏิบัติการก่อความไม่สงบตั้งแต่ระดับง่ายๆ ก่อน เช่น ตัดต้นไม้ โรยตะปูเรือใบ และเผาตู้โทรศัพท์ หากปฏิบัติงานได้ดี ก็จะถูกสั่งให้เริ่มฆ่าผู้บริสุทธิ์ที่เป็นฝ่ายรัฐ เช่น ยิงคนแก่ ก่อนที่จะพัฒนาไปยิงครู หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่พกพาอาวุธ
“หาก “อุลามา” พิจารณาแล้วเห็นว่าวัยรุ่นคนไหนมีพัฒนาการฝีมือดี ก็จะถูกส่งไปฝึกการรบแบบกองโจร โดยใช้หลักสูตรเดียวกันกับที่หน่วยรบพิเศษของประเทศเพื่อนบ้านใช้ฝึก คือหลักสูตร RKK แต่ปัจจุบันเด็กวัยรุ่นไม่ต้องเดินทางไปฝึกยังต่างประเทศ เพราะมีแนวร่วมระดับหัวหน้าเป็นผู้ฝึกฝนให้ตามป่าเขาในประเทศไทย” แหล่งข่าวระดับสูงจาก ศปก.ตร.สน.ให้ข้อมูล
เมื่อสำเร็จหลักสูตร RKK แล้ว เด็กวัยรุ่นที่ผ่านการฝึกจะถูกแบ่งออกเป็นชุดปฏิบัติการชุดเล็กๆ ชุดละ 6 คน มีอาวุธประจำกาย ออกปฏิบัติการในลักษณะเซลล์อิสระ มีแกนนำ 1 คนเป็นหัวหน้าเซลล์คอยควบคุมสั่งการ สมาชิกในชุดปฏิบัติการจะไม่รู้จักสมาชิกของชุดอื่นๆ แม้แต่ในชุดเดียวกันบางทีก็ยังไม่รู้จัก
“เรียกว่าเป็นการวางโครงสร้างแบบคัทเอาท์ในตัวเอง เด็กพวกนี้ บางคนถูกจับก็จะบอกได้แต่เพียงว่านายคนนั้น คนนี้เป็นคนสั่ง แต่จะไม่รู้จักคนอื่นๆ ในขบวนการอีกเลย” แหล่งข่าวคนเดียวกัน ระบุ และว่า
กลุ่มเปอมูดอที่ผ่านมาฝึกหลักสูตร RKK จะมีความชำนาญในการดักซุ่มโจมตีและลอบวางระเบิด อย่างเช่นปฏิบัติการซุ่มโจมตีชุดคุ้มครองครูหลายครั้งที่ผ่านมา ก็เป็นฝีมือของเยาวชนกลุ่มนี้
“ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนได้ขึ้นทะเบียนและจัดทำประวัติกลุ่มวัยรุ่นเปอมูดอเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเมื่อรวมกับบรรดาแกนนำและแนวร่วมก่อความไม่สงบที่เคยรวบรวมข้อมูลไว้ก่อนหน้านี้แล้วจะมีรายชื่อถึงกว่า 4,000 คน”
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ในส่วนของวัยรุ่นเปอมูดอ ตำรวจจะยังไม่ใช้วิธีจับกุมมาดำเนินคดี แต่จะใช้วิธีจัดชุดปฏิบัติการทั้งในและนอกเครื่องแบบลงพื้นที่ถึงบ้าน เพื่อกดดันกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดให้ถอนตัวออกจากขบวนการแนวร่วมก่อความไม่สงบ เนื่องจากเด็กวัยรุ่นพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นเด็กดี แต่ถูกหล่อหลอมความคิดในทางที่ผิดเท่านั้น
อย่างไรก็ดี “ศูนย์ข่าวอิศรา” ได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ นายอับดุลเราะห์มาน อับดุลสมัด ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้ ซึ่ง นายอับดุลเราะห์มาน ให้ข้อมูลว่า คำว่า “เปอมูดอ” เป็นภาษามลายู หมายถึงเยาวชนที่อายุตั้งแต่ 15-30 ปี แต่ไม่เคยได้ยินว่ามีการจัดตั้งให้เป็นกลุ่มเยาวชนกู้ชาติ หรือมีการฝึกอาวุธเพื่อก่อความไม่สงบ
“เยาวชนมีหลายกลุ่ม โดยกลุ่มที่รัฐน่าให้การสนับสนุน คือกลุ่มที่ไปเป็นอุสตาซ หรือเป็นครูสอนศาสนาตามโรงเรียนตาดีกาต่างๆ ซึ่งรัฐบาลไม่เคยสนับสนุนพวกเขาเลย ขณะนี้ทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดกำลังผลักดันให้เยาวชนที่เสียสละไปเป็นครูเหล่านี้ ได้รับเงินค่าสอนด้วย”
ส่วนที่ทางการกำลังจับตากลุ่มเปอมูดอ โดยมองว่าเป็นกลุ่มเยาวชนที่ออกก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายอับดุลเราะห์มาน กล่าวว่า ฝ่ายรัฐควรใช้แนวทางที่ดีกว่าการใส่ร้าย เพราะที่ผ่านมาก็บอกว่าโต๊ะครู โต๊ะอิหม่าม และอุสตาซ เป็นแนวร่วมหมดแล้ว ล่าสุดก็มาพูดถึงเปอมูดอ หรือเยาวชนอีก อย่างนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง และจะเป็นการผลักเยาวชนให้อยู่ห่างไกลภาครัฐมากยิ่งขึ้น
“เราต้องดึงเขาเข้ามาอยู่กับเรา เพราะไม่ว่าจะเป็นโต๊ะครู โต๊ะอิหม่าม อุสตาซ หรือกลุ่มเยาวชน คนเหล่านี้ไม่มีองค์กรอะไร ไม่เคยมีใครรู้ว่าองค์กรเปอมูดออยู่ที่ไหน ดังนั้นการพูดในเชิงลบถึงคนกลุ่มต่างๆ เหล่านี้ ก็จะกลายเป็นการเหมารวม และทำให้พวกเขาท้อแท้หมดกำลังใจ”
นายอับดุลเราะห์มาน ยังเสนอด้วยว่า สิ่งที่ภาครัฐควรทำก็คือ ดึงเยาวชนซึ่งเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาอบรม มาให้ความรู้ มากกว่าจะไปกล่าวหากัน
“รัฐก็เปรียบเสมือนพ่อแม่ ต้องมองลูกตัวเองในทางที่ดีไว้ก่อน ไม่ใช่ไปมองในแง่ลบ ผมคิดว่าถ้ารัฐปรับทัศนคติ จะแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สงบได้ในเร็ววัน” ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส กล่าว
เปิดข้อมูลกลุ่ม “เปอมูดอ” หลังฝ่ายความมั่นคงจับตาเป็นกลุ่มเยาวชนที่ถูกปลูกฝังอุดมการณ์กู้ชาติปัตตานี และถูกฝึกการรบแบบกองโจร ก่อนส่งก่อเหตุป่วน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่ผู้นำมุสลิม ชี้ เป็นแค่คำเรียกวัยรุ่นชาย ไม่เชื่อเป็นขบวนการก่อความไม่สงบ วอนรัฐอย่ามองแบบใส่ร้าย
จากกรณีมีข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคง กำลังจับตากลุ่ม “เปอมูดอ” หรือ Pemuda ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนที่มีอุดมการณ์กู้ชาติปัตตานี โดยเชื่อว่าเยาวชนกลุ่มนี้เป็นผู้ออกมาก่อเหตุวุ่นวายรูปแบบต่างๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเตรียมก่อเหตุใหญ่ในเดือนตุลาคมนี้นั้น
ศูนย์ข่าวอิศรา ได้ตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้ไปยังศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) พบว่าทาง ศปก.ตร.สน. กำลังเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเปอมูดอจริง
โดย “เปอมูดอ” นั้น หากแปลตรงตัว จะแปลว่า “วัยรุ่นชาย” ซึ่งแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบระดับมันสมองที่เรียกตัวเองว่า “อุลามา” (Ulama) มีการทำงานในลักษณะคณะกรรมการ จะคัดเลือกวัยรุ่นผู้ชายชาวมุสลิมที่เรียนดีระดับหัวกะทิ มีความประพฤติเรียบร้อย อายุระหว่าง 18-25 ปี มาฝึกเพื่อเป็น “นักรบเปอมูดอ”
ทั้งนี้ กระบวนการคัดเลือก จะเลือกมาจากปอเนาะ หรือโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม โดยสาเหตุที่เลือกเฉพาะเด็กเรียนเก่ง เพราะเด็กเหล่านี้จะมีความมุ่งมั่นสูง และมีความรู้เกี่ยวกับโลกภายนอกน้อย ต่างจากเด็กเกเร ซึ่งรู้มาก และควบคุมยาก
เด็กวัยรุ่นที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว จะถูกกล่อมเกลาและปลูกฝังอุดมการณ์กู้ชาติ โดยผ่านการสอนศาสนาที่ผิดเพี้ยน จากนั้นก็จะถูกส่งไปปฏิบัติการก่อความไม่สงบตั้งแต่ระดับง่ายๆ ก่อน เช่น ตัดต้นไม้ โรยตะปูเรือใบ และเผาตู้โทรศัพท์ หากปฏิบัติงานได้ดี ก็จะถูกสั่งให้เริ่มฆ่าผู้บริสุทธิ์ที่เป็นฝ่ายรัฐ เช่น ยิงคนแก่ ก่อนที่จะพัฒนาไปยิงครู หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่พกพาอาวุธ
“หาก “อุลามา” พิจารณาแล้วเห็นว่าวัยรุ่นคนไหนมีพัฒนาการฝีมือดี ก็จะถูกส่งไปฝึกการรบแบบกองโจร โดยใช้หลักสูตรเดียวกันกับที่หน่วยรบพิเศษของประเทศเพื่อนบ้านใช้ฝึก คือหลักสูตร RKK แต่ปัจจุบันเด็กวัยรุ่นไม่ต้องเดินทางไปฝึกยังต่างประเทศ เพราะมีแนวร่วมระดับหัวหน้าเป็นผู้ฝึกฝนให้ตามป่าเขาในประเทศไทย” แหล่งข่าวระดับสูงจาก ศปก.ตร.สน.ให้ข้อมูล
เมื่อสำเร็จหลักสูตร RKK แล้ว เด็กวัยรุ่นที่ผ่านการฝึกจะถูกแบ่งออกเป็นชุดปฏิบัติการชุดเล็กๆ ชุดละ 6 คน มีอาวุธประจำกาย ออกปฏิบัติการในลักษณะเซลล์อิสระ มีแกนนำ 1 คนเป็นหัวหน้าเซลล์คอยควบคุมสั่งการ สมาชิกในชุดปฏิบัติการจะไม่รู้จักสมาชิกของชุดอื่นๆ แม้แต่ในชุดเดียวกันบางทีก็ยังไม่รู้จัก
“เรียกว่าเป็นการวางโครงสร้างแบบคัทเอาท์ในตัวเอง เด็กพวกนี้ บางคนถูกจับก็จะบอกได้แต่เพียงว่านายคนนั้น คนนี้เป็นคนสั่ง แต่จะไม่รู้จักคนอื่นๆ ในขบวนการอีกเลย” แหล่งข่าวคนเดียวกัน ระบุ และว่า
กลุ่มเปอมูดอที่ผ่านมาฝึกหลักสูตร RKK จะมีความชำนาญในการดักซุ่มโจมตีและลอบวางระเบิด อย่างเช่นปฏิบัติการซุ่มโจมตีชุดคุ้มครองครูหลายครั้งที่ผ่านมา ก็เป็นฝีมือของเยาวชนกลุ่มนี้
“ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนได้ขึ้นทะเบียนและจัดทำประวัติกลุ่มวัยรุ่นเปอมูดอเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเมื่อรวมกับบรรดาแกนนำและแนวร่วมก่อความไม่สงบที่เคยรวบรวมข้อมูลไว้ก่อนหน้านี้แล้วจะมีรายชื่อถึงกว่า 4,000 คน”
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ในส่วนของวัยรุ่นเปอมูดอ ตำรวจจะยังไม่ใช้วิธีจับกุมมาดำเนินคดี แต่จะใช้วิธีจัดชุดปฏิบัติการทั้งในและนอกเครื่องแบบลงพื้นที่ถึงบ้าน เพื่อกดดันกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดให้ถอนตัวออกจากขบวนการแนวร่วมก่อความไม่สงบ เนื่องจากเด็กวัยรุ่นพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นเด็กดี แต่ถูกหล่อหลอมความคิดในทางที่ผิดเท่านั้น
อย่างไรก็ดี “ศูนย์ข่าวอิศรา” ได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ นายอับดุลเราะห์มาน อับดุลสมัด ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้ ซึ่ง นายอับดุลเราะห์มาน ให้ข้อมูลว่า คำว่า “เปอมูดอ” เป็นภาษามลายู หมายถึงเยาวชนที่อายุตั้งแต่ 15-30 ปี แต่ไม่เคยได้ยินว่ามีการจัดตั้งให้เป็นกลุ่มเยาวชนกู้ชาติ หรือมีการฝึกอาวุธเพื่อก่อความไม่สงบ
“เยาวชนมีหลายกลุ่ม โดยกลุ่มที่รัฐน่าให้การสนับสนุน คือกลุ่มที่ไปเป็นอุสตาซ หรือเป็นครูสอนศาสนาตามโรงเรียนตาดีกาต่างๆ ซึ่งรัฐบาลไม่เคยสนับสนุนพวกเขาเลย ขณะนี้ทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดกำลังผลักดันให้เยาวชนที่เสียสละไปเป็นครูเหล่านี้ ได้รับเงินค่าสอนด้วย”
ส่วนที่ทางการกำลังจับตากลุ่มเปอมูดอ โดยมองว่าเป็นกลุ่มเยาวชนที่ออกก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายอับดุลเราะห์มาน กล่าวว่า ฝ่ายรัฐควรใช้แนวทางที่ดีกว่าการใส่ร้าย เพราะที่ผ่านมาก็บอกว่าโต๊ะครู โต๊ะอิหม่าม และอุสตาซ เป็นแนวร่วมหมดแล้ว ล่าสุดก็มาพูดถึงเปอมูดอ หรือเยาวชนอีก อย่างนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง และจะเป็นการผลักเยาวชนให้อยู่ห่างไกลภาครัฐมากยิ่งขึ้น
“เราต้องดึงเขาเข้ามาอยู่กับเรา เพราะไม่ว่าจะเป็นโต๊ะครู โต๊ะอิหม่าม อุสตาซ หรือกลุ่มเยาวชน คนเหล่านี้ไม่มีองค์กรอะไร ไม่เคยมีใครรู้ว่าองค์กรเปอมูดออยู่ที่ไหน ดังนั้นการพูดในเชิงลบถึงคนกลุ่มต่างๆ เหล่านี้ ก็จะกลายเป็นการเหมารวม และทำให้พวกเขาท้อแท้หมดกำลังใจ”
นายอับดุลเราะห์มาน ยังเสนอด้วยว่า สิ่งที่ภาครัฐควรทำก็คือ ดึงเยาวชนซึ่งเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาอบรม มาให้ความรู้ มากกว่าจะไปกล่าวหากัน
“รัฐก็เปรียบเสมือนพ่อแม่ ต้องมองลูกตัวเองในทางที่ดีไว้ก่อน ไม่ใช่ไปมองในแง่ลบ ผมคิดว่าถ้ารัฐปรับทัศนคติ จะแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สงบได้ในเร็ววัน” ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส กล่าว