ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- กองบิน 1 นครราชสีมาพร้อมนำฝูงบินขับไล่ เอฟ 16 ADF 4 ลำ ผงาดเหนือท้องฟ้าทดสอบสนามบินสุวรรณภูมิเที่ยวปฐมฤกษ์ร่วม “นายกฯ” พรุ่งนี้ เผยเพื่อโชว์ศักยภาพเครื่องบินรบ ที่มีสมรรถนะสูงสุดของกองทัพอากาศไทย เป็นเกียรติแก่สนามบินใหญ่ทันสมัยระดับโลก และให้คณะนายกรัฐมนตรีชม ยันไม่ใช่ขึ้นบินเพื่อไล่นก หรืออารักขานายกฯทักษิณเป็นกรณีพิเศษแต่อย่างใด
สำหรับการทดสอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือสนามบินหนองงูเห่า ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคณะจะนั่งเครื่องบินแอร์บัส เอ 340-600 ชื่อ “วัฒนานคร” บินลงแตะพื้นรันเวย์ เป็นเที่ยวปฐมฤกษ์ในวันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ซึ่งจะมีเครื่องบินรบเอฟ 16 จากฐานการบินกองบิน 1 กองพลบินที่ 2 กองบัญชาการยุทธทางอากาศ จังหวัดนครราชสีมาเข้าร่วมทดสอบครั้งนี้ด้วย
น.อ.สฤษฏ์พงศ์ วัฒนวรางกูร รองผู้บังคับการฝ่ายปฏิบัติการ กองบิน 1 กองพลบินที่ 2 กองบัญชาการยุทธทางอากาศ จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า กองบิน 1 นครราชสีมา ได้รับเกียรติให้ไปร่วมทำการบินทดสอบการใช้งานสนามบินสุวรรณภูมิเที่ยวปฐมฤกษ์ ในวันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) พร้อมกับคณะของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยขณะนี้กองบิน 1 ได้จัดเตรียมเครื่องบินขับไล่ เอฟ 16 ADF ซึ่งเป็นเครื่องบินรบที่มีสมรรถนะสูงสุด ของกองทัพอากาศไทย จำนวน 4 ลำจากฝูงบิน 102 ไว้ทำการบินพร้อม 100% แล้ว
ทั้งนี้ ตามกำหนดการที่วางไว้ คือ เครื่องบินทั้ง 4 ลำจะทำการบินออกจากกองบิน 1 จ.นครราชสีมา ในเวลา 09.00 น.วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) และจะบินถึงสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 10.00 น. ขณะเดียวกัน คณะของนายกรัฐมนตรี และสื่อมวลชน ซึ่งเดินทางจากสนามบินดอนเมืองด้วยเครื่องบินโดยสารมาลงยังสนามบินสุวรรณภูมิ และขึ้นไปยังห้องรับรองผู้โดยสารขาออกแล้ว
จากนั้น เครื่องบินเอฟ 16 ADF ทั้ง 4 ลำจะทำการบินผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นบริเวณด้านหน้าของคณะนายกรัฐมนตรี โดยจัดรูปขบวนเป็นหมู่ “ไดมอน” บินผ่านจำนวน 4 เที่ยว เพื่อเป็นเกียรติในการทำการเปิดทดสอบใช้สนามบินสุวรรณภูมิเที่ยวปฐมฤกษ์แห่งนี้
ต่อมา เครื่องบินทั้ง 4 ลำ จะบินแยกกันโชว์สมรรถนะ ทีละลำให้แก่คณะนายกรัฐมนตรีพร้อมสื่อมวลชนได้ชม ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาแสดงประมาณ 15 นาทีเท่านั้น ต่อจากนั้นเครื่องบินแต่ละลำจะบินวน เพื่อทดสอบการลงสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยใช้การบินระดับต่ำ แต่ไม่ได้ลงจอดจริง ก่อนจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า กลับสู่สนามบินกองบิน 1 โคราชเป็นการเสร็จสิ้นพิธีการ
น.อ.สฤษฏ์พงศ์ กล่าวต่อว่า การบินจัดรูปหมู่ “ไดมอน” หรือ “เพชร” เป็นการบินแบบ รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน เพื่อแสดงถึงความเป็นการบินหมู่ที่พร้อมเพรียงกัน เป็นการให้เกียรติแก่พิธีการและสถานที่ รวมถึงผู้มาร่วมงาน ซึ่งการบินในลักษณะเช่นนี้จะใช้บินสำหรับการเปิดงานใหญ่ๆ เท่านั้น
ส่วนนักบินที่จะขึ้นบินเพื่อทำการบินทดสอบสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ประกอบด้วย เครื่องบินลำที่ 1 มี น.ท.มนัส ชวนประยูร ผู้บังคับฝูงบิน 102 กองบิน 1 และ น.อ.สฤษฏ์พงศ์ วัฒนวรางกูร รองผู้บังคับการฝ่ายปฏิบัติการ กองบิน 1 เป็นนักบิน, เครื่องบินลำที่ 2 มี น.ต.นเรศ เยี่ยมสถาน นายทหารนิรภัยการบิน กองบิน 1 เป็นนักบิน, เครื่องบินลำที่ 3 มี น.ท.อนุรักษ์ รมณารักษ์ รองผู้บังคับฝูงบิน 102 เป็นนักบิน และเครื่องบินลำที่ 4 ทำการบินโดย น.ต.โชคชัย สำราญสุข นายทหารยุทธการ ฝูงบิน 102
“เครื่องบินรบเอฟ 16 ทั้ง 4 ลำ และนักบินทั้งหมด ที่จะทำการบินทดสอบการใช้สนามบินสุวรรณภูมิ ในวันพรุ่งนี้ มีความพร้อมอย่างเต็มที่หมดแล้ว” น.อ.สฤษฏ์พงศ์
น.อ.สฤษฎ์พงศ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่า การบินครั้งนี้เพื่อร่วมเป็นเกียรติ และนำเครื่องบินรบร่วมทดสอบการใช้สนามบินสุวรรณภูมิให้นักบินคุ้นเคย รวมถึงโชว์สมรรถนะของเครื่องบินขับไล่ เอฟ 16 ADF ซึ่งเป็นเครื่องบินรบที่ทันสมัยที่สุดของประเทศไทย ในโอกาสที่คณะนายกรัฐมนตรีนั่งเครื่องบินโดยสารทดสอบรันเวย์สนามบินหนองงูเห่าซึ่งเป็นสนามบินที่มีขนาดใหญ่และทันสมัยระดับโลกเป็นเที่ยวปฐมฤกษ์เท่านั้น
“ไม่ใช่เป็นการบินเพื่อขับไล่ฝูงนกรอบสนามบินสุวรรณภูมิ หรือเป็นการอารักขานายกรัฐมนตรีเป็นกรณีพิเศษตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด เพราะเสียงเครื่องบินรบไม่ได้ทำให้นกตกใจหนีไป และที่สำคัญไม่ใช่วัตถุประสงค์ของการบินครั้งนี้ ซึ่งเป็นข่าวที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงอย่างมาก จึงอยากให้ประชาชนเข้าในตามข้อเท็จจริงที่กล่าวข้างต้นด้วย” น.อ.สฤษฏ์พงศ์ กล่าวในที่สุด
