หนองบัวลำภู - “หลวงพ่อญาท่าน” เจ้าอาวาสวัดป่าสามัคคีพัฒนาราม มรณภาพด้วยอาการสงบที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพฯ เผยเป็นหนึ่งในเกจิชื่อดังภาคอีสานและเชี่ยวชาญด้านสมุนไพรลูกกลอนมีศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศเคารพศรัทธา
เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา คณะศิษยานุศิษย์ได้นำศพของพระครูประภัศรคุณ หรือหลวงพ่อญาท่าน เจ้าอาวาสวัดป่าสามัคคีพัฒนาราม หรือวัดป่ากุดโพนทัน นำกลับมาถึงวัด โดยมีประชาชนจำนวนมากที่ทราบข่าวรอกราบไหว้ศพของหลวงพ่ออยู่ที่วัด โดยศพของหลวงพ่อญาจะตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ ณ วัดป่าสามัคคีพัฒนาราม
แม่ชีบุญหลี่ แห่งวัดป่าสามัคคีพัฒนาราม หรือวัดป่ากุดโพนทัน ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู แจ้งว่า พระครูประภัศรคุณได้มรณภาพด้วยอาการสงบที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพฯ หลังจากที่อาจารย์ได้เดินทางไปตรวจรักษาอาการโรคตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2548 ที่ผ่านมา
แม่ชีบุญหลี่ เล่าอีกว่า พระครูประภัศรคุณ ได้ป่วยมานาน 2-3 เดือนแล้ว โดยไปตรวจโรคที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู แพทย์บอกว่าเป็นโรคโลหิตจาง แต่เมื่อไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ แพทย์ได้บอกว่าป่วยเป็นถุงน้ำดีรั่ว
โดยในตอนเช้าวันที่ 24 กันยายน 2548 เวลา 06.30 น. แพทย์ได้ฉีดยาให้หนึ่งเข็ม ต่อมาเวลา 08.30 น.วันเดียวกัน แพทย์พบว่าพระครูประภัศรคุณหมดลมหายใจแล้ว ถึงแม้จะช่วยปั๊มหัวใจอย่างไรก็ตาม ซึ่งขณะนี้ตั้งแต่ประชาชนทราบข่าว ต่างทยอยมากราบไหว้ศพของหลวงพ่อญาเรื่อยๆ
พระครูประภัศรคุณ หรือหลวงพ่อญาท่าน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงองค์หนึ่งของภาคอีสาน โดยเฉพาะนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ก็เป็นศิษย์ที่ให้ความเคารพนับถือมาโดยตลอด และยังเคยบวชจำพรรษาที่วัดกับหลวงพ่อญาท่าน มาแล้วเป็นเวลา 1 เดือน เมื่อปี 2541
เดิมพระครูประภัศรคุณ ชื่อนายบุญเลิศ ดรพล เกิดวันที่ 30 เมษายน 2467 อายุรวม 81 ปี บิดาชื่อนายธีร์ มารดาชื่อนางใส เกิดที่บ้านเลขที่ 56 อมู่ 4 ตำบลเขวาไร่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม อุปสมบทเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2487 ที่วัดศรีวราราม ต.แพง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม
ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสามัคคีพัฒนาราม ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู และยังเป็นประธานศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติประจำจังหวัดหนองบัวลำภู ประธานศูนย์สงเคราะห์เลิกดื่มเหล้า ดื่มสุรา สาขาที่ 7876
นอกจากนั้น ท่านยังมีความเชี่ยวชาญด้านสมุนไพรลูกกลอนที่ช่วยบำรุงเส้นผม และรักษาผมหงอก ซึ่งมีประชาชนจากทั่วประเทศนำไปใช้บังเกิดผลดีเป็นอย่างมาก จนผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน