สินค้าจีนครองตลาดเต็มชายแดนแม่สาย-เชียงราย

เชียงราย – สินค้าจีนราคาถูกเต็มตลาดชายแม่สาย–ท่าขี้เหล็ก เฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้ายึดตลาดเชียงรายไปกว่า 50% แล้ว แถมพัฒนาทั้งรูปแบบและคุณภาพไม่หยุด ทั้งเปิดการันตีให้ลูกค้าเพิ่มความมั่นใจ-ยอดขาย ผู้ประกอบการท้องถิ่นตกที่นั่งลำบากมากขึ้นทุกขณะ เผยทำเรื่องร้องหลายหน่วยงาน หวังขอความช่วยเหลือแต่ไร้ผล


จากการสำรวจตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า–เสื้อผ้า และสินค้าอื่นๆ ในตลาดดอยเวา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่เป็นชายแดนไทย-พม่า ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน พบว่า ปัจจุบันสินค้าจีนที่นำมาวางขายในตลาดแห่งนี้มีพัฒนาการทั้งรูปแบบ และมาตรฐานมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ สินค้าบางชนิดผู้ค้ายังได้รับประกันคุณภาพให้กับลูกค้าที่ซื้อไปอีก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ เพิ่มยอดขายให้กับตนเองได้อีกทางหนึ่ง

พ่อค้ารายหนึ่งในตลาดดอยเวา ซึ่งเป็นเจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องเล่นวีซีดี–MP3 บอกว่า สินค้าที่วางจำหน่ายในร้านทั้งหมดเป็นของจากจีนแผ่นดินใหญ่ และขายมานานนับสิบปีแล้ว ซึ่งระยะหลังสินค้าจีนเริ่มมีการพัฒนาเรื่องคุณภาพ–ดีไซน์ รวมถึงมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมาตลอด เช่น เครื่องเล่น วีซีดี-MP3 ที่ขายอยู่ขณะนี้ มีราคาตั้งแต่หลักร้อย–พันกว่าบาท นอกจากนี้ ทางร้านยังรับประกันให้ 3 เดือน หากนำไปใช้แล้วเสียสามารถนำมาเปลี่ยนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ทำให้สามารถขายได้เรื่อยๆ

ทั้งนี้ เพราะลูกค้ามั่นใจมากขึ้น รวมทั้งเมื่อเทียบกับญี่ปุ่น หรือยี่ห้อดังในตลาดเมืองไทยที่มีราคาสูงกว่า 3-4 เท่าตัวแล้ว ผู้บริโภคบางคนก็จะเลือกซื้อสินค้าราคาถูกจากจีนแทน ซึ่งถ้าเครื่องไม่เสีย ก็ถือว่าได้กำไรหลายต่อ แต่ถ้าเสียภายใน 3 เดือนก็เปลี่ยนได้ หรือถ้าเลยระยะเวลา 3 เดือนไปแล้วก็ยังถือว่าคุ้มอยู่


“ของเหล่านี้ถ้าซื้อไปใช้ไม่เป็นปัญหา เพราะเสียภาษีแล้ว แต่ถ้านำไปขายอาจจะเป็นปัญหา เพราะบางรุ่น บางแบบ ไม่ผ่าน มอก.อาจถูกจับกุมได้”

เจ้าของร้านเครื่องเล่น วีซีดี-MP3 คนเดิม บอกอีกว่า ขณะนี้ถือได้ว่าจีนมีเทคโนโลยีก้าวหน้าตลอด มีสินค้าใหม่มาแทบทุกวัน เช่น ไฟฉาย ที่ไม่ต้องใช้ถ่านราคาแค่ 70 บาท โดยใช้ขดลวดที่มีลูกเหล็กแทน เมื่อผู้ใช้เขย่าไปมาก็ทำให้เกิดพลังงานไฟฟ้าทำให้หลอดไฟสว่าง น่าจะคุ้มค่าที่จะซื้อไปใช้ และไม่น่าจะเกิดอันตราย เพราะมีเพียงขดลวดกับเครื่องชาร์จประจุไฟฟ้า

นายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ กรรมการฝ่ายการค้าชายแดน หอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า สินค้าจีนเข้ามาตีตลาดไทย มานานนับ 10 ปี แล้ว อดีตอาจพบว่ามักวางจำหน่ายในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า แต่ปัจจุบันพบมากขึ้นในฝั่งแม่สาย จ.เชียงราย ก่อนหน้านี้เขาเคยเดินทางไปชายแดนจีน-พม่า พบว่ามีสินค้าเครื่องใช้ฟ้าจีน นำเข้ามาผ่านพม่าวันละกว่า 10 ลำรถสิบล้อ ซึ่งคาดว่าน่าจะส่งไปขาย ประเทศอินเดีย หรือ สปป.ลาว และที่เหลือส่วนหนึ่งน่าจะส่งขายทางด้านประเทศไทย เพราะกำลังซื้อในพม่ายังมีไม่มากพอที่จะรองรับสินค้ามากขนาดนั้นได้

เรื่องนี้กลุ่มนักธุรกิจไทยเคยทำเรื่องร้องทุกข์ไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลไทยมาหลายครั้ง เพื่อที่จะให้ช่วยป้องกันการตีตลาดจากสินค้าจีนเหล่านี้แต่ไม่ค่อยได้ผล ทำให้สินค้าจากจีนถูกส่งเข้ามาขายไทยต่อเนื่อง ส่วนวิธีการต่างๆ ในการนำเข้านั้นไม่ทราบแน่ชัด เนื่องจากพื้นที่ชายแดนที่ติดกับพม่า เชื่อมต่อกับจีนได้ทั้งทางบก–เรือ มีการเดินทางเข้า-ออกกันได้ตลอด

นายบุญธรรม กล่าวอีกว่า และในอนาคตเชื่อว่าสินค้าจีนทุกชนิด ทั้งพืช, ผัก, ผลไม้ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า, เสื้อผ้า, อาหาร, ของใช้ ฯลฯ จะเข้ามาตีตลาดไทยมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการต้องปรับตัวเองเพื่อรองรับกับการแข่งขัน

ขณะที่ภายในประเทศเองก็มีกลุ่มค้าส่งค้าปลีกต่างชาติ เข้ามายึดทำเลค้าขายแข่งกับพ่อค้าไทยตลอด เช่น กรณีของห้างเทสโก้-โลตัส แม่สาย ที่เข้ามาก่อสร้างที่บ้านป่าเหมือดรุ่งเจริญ ม.9 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งก่อสร้างไปกว่า 70% ก็น่าจะเป็นการแข่งขันอีกด้านหนึ่ง ที่นักธุรกิจและพ่อค้าไทยต้องประสบ หากผู้ประกอบการท้องถิ่นไม่ปรับตัวก็จะแค่เป็นทางผ่านเท่านั้น

“อย่างไรก็ตาม สินค้าจีนเหล่านี้น่าจะผลิตตามโรงงานเถื่อนตามชนบทจีน ไม่มีโอกาสได้เข้าไปขายในเมืองใหญ่ของจีน จึงระบายมายังประเทศไทยและเพื่อนบ้าน ซึ่งไม่น่าจะถูกกฎหมายนัก หากรัฐบาลไทยไม่มีมาตรการที่จะป้องกันสินค้าไม่มีคุณภาพเข้ามา ก็จะกลายเป็นเศษขยะในเมืองไทย ก็ว่าได้ และทำลายตลาดสินค้าเดิมด้วย”

สำหรับระดับราคาสินจีนที่วางขายในตลาดดอยเวา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ถือว่าเป็นสินค้าที่มีราคาถูกกว่าสินค้าประเภทเดียวกันที่วางขายในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 3-4 เท่าตัวขึ้นไป อาทิ เครื่องเล่นวีซีดี และดีวีดี ราคาตั้งแต่ 600-2,500 บาทต่อเครื่อง (ราคาในห้างฯราคาตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท), เครื่องเล่นวีซีดี และ MP3 ที่ติดตั้งในรถยนต์ได้ ราคาเครื่องละ 4,000 บาท(ราคาในห้างฯ 8,000-10,000 บาท), เครื่องบันทึกเสียงดิจิตอลราคาตั้งแต่ 1,050 - 3,000 บาท (ราคาในห้างฯ 2,500 บาท),จอโทรทัศน์ติดรถยนต์ ราคา 2,500 บาท(ราคาในห้างฯ 6,000 บาท)

ไมโครโฟน ราคา 180 บาท(ราคาในห้างฯ 300 บาท), กล้องวิดีโอ วงจรปิด ราคาตั้งแต่ 250-1,800 บาท (ราคาในห้างฯ 1,000-5,000 บาท), ไมค์ลอย ราคาตั้งแต่ 200-1,200 บาท (ราคาในห้างฯ 3,000 บาท), วิทยุสื่อสาร เครื่องละ 1,100-1,600 บาท(ราคาในห้างฯ 5,000 บาท),ผ้าห่มผืนละ 70 -700 บาท, พรมผืนละ 1,200-1,500 บาท, เสื้อผ้าสตรีวัยรุ่นทันสมัย ราคาตั้งแต่ 90-120 บาท, ชุดชั้นในราคา โหลละ 70-100 บาท

ไฟฉายใช้พลังงานแม่เหล็ก ราคา 70 บาท,ไดร์เป่าผมราคา 120-250 บาท, แว่นกันแดด-แว่นสายตา ราคาตั้งแต่ 50-150 บาท, ร่มคันละ 50-70 บาท, ไฟแช็กราคา ตั้งแต่ 5-100 บาท นอกจากนี้ยังมีสินค้าประเภท เช่น ขนมจากจีนห่อละ 10-200 บาท, ของเล่นเด็กประเภท รถบังคับวิทยุ และเครื่องบินบังคับวิทยุ ราคาตั้งแต่ 100-5,000 บาท ฯลฯ

นางเกตุศิริ อภิสิทธิ์อิสริยะ ผู้บริหารบริษัท เอ.ที.ผ.ยานยนต์ จำกัด และ บริษัท เอ.ที.โมบาย แอนด์ คอม จำกัด ซึ่งจำหน่าย จักรยานยนต์, คอมพิวเตอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, โทรศัพท์มือถือ มีสาขาใน อ.แม่สาย และ อ.เมือง จ.เชียงราย รวม 4 สาขา) กล่าวว่า สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศจีน มีผลกระทบต่อสินค้าไทยแน่นอน และมีมานานแล้ว ปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทย เช่น เครื่องเสียง, อุปกรณ์ต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์, อุปกรณ์ไฟฟ้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน รวมทั้งเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ฯลฯ ถูกสินค้าจีนตีตลาดมาตลอด เนื่องจากราคาอาจถูกกว่าสินค้าในประเทศ ราว 30-70%

โดยสินค้าจีนอาจมีการลดความสามรถในการทำงานบางอย่างที่ไม่จำเป็นลงเพื่อลดต้นทุน อาทิ เครื่องเล่นวีซีดีบางรุ่นอาจไม่มีเทคนิคพิเศษมากนัก เน้นแต่เล่นอย่างเดียว เป็นต้น ส่วนสินค้าประเภท โทรทัศน์ ตู้เย็น ที่มีขนาดใหญ่ อาจยังไม่มีผลกระทบ เนื่องจากยังไม่ค่อยนำเข้ามาขายกันมาก เพราะมีขนาดใหญ่ การขนส่งไม่คุ้มค่ากับกำไรที่ได้มากนัก

นางเกตุศิริ มองว่า อย่างไรก็ตาม สินค้าไทยที่ขายถูกต้องตามกฎหมายมีมาตรฐานรองรับและ หากเสียหรือเกิดความผิดพลาดในตัวสินค้า เช่น ไฟช็อต หรือเกิดอันตรายก็ยังสามารถหาผู้รับผิดชอบได้ เสียภาษีถูกต้อง เงินภาษีนำมาพัฒนาประเทศชาติ ส่วนสินค้าจากจีนแทบจะหาผู้รับผิดชอบในความเสียหายหลังจากใช้ได้เลย ยกตัวอย่าง วีซีดีจากจีน เจ้าของร้านนั้นๆ รับรองแค่เปลี่ยนใหม่ให้ในระยะเวลา 3 เดือนเท่านั้น หลังจากนั้นไม่มีการรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น ต้องเสี่ยงเอาเอง ดังนั้น คิดว่าประชาชนน่าจะใช้สินค้าที่ผลิตได้มาตรฐาน ผ่านการเสียภาษีจะช่วยสังคมได้มาก

นายชูชัย อุดมโภชน์ นายด่านศุลกากรแม่สาย จ.เชียงราย กล่าวว่า สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น วีซีดี ดีวีดี ฯลฯ ที่น่าจะเป็นสินค้าจากจีนนั้นทราบว่า แทบทั้งหมดนำเข้าผ่านท่าเรือคลองเตย กทม. และผ่านการตรวจสอบมาตรฐานอุตสาหกรรมมาแล้ว ส่วนช่องทางการลักลอบนำเข้าตามแนวชายแดน ก็มีการกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยที่สินค้าจีนขายได้ในราคาต่ำถือว่าเป็นไปตามกลไกตลาด

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้การเก็บภาษีศุลกากรที่ด่านแม่สาย ได้น้อยกว่าประมาณการ เนื่องจากความความไม่สงบตามแนวชายแดน ทำให้การค้าซบเซาบ้าง โดยคาดว่าจะจัดเก็บภาษี ตั้งแต่ตุลาคม 47-กันยายน48 ได้ประมาณ 100 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 150 ล้านบาทไปประมาณ 50 ล้านบาท แต่ไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะทุกด่านฯจัดเก็บได้น้อยกว่าเป้าหมายแทบทั้งสิ้น

สำหรับที่ด่านพรมแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ขณะนี่เทศบาลตำบลแม่สาย ได้มีการรื้อป้าย เหนือสุดยอดในสยาม ซึ่งสร้างมานานหลายปีออก พร้อมกำลังปรับปรุงให้สวยงามมากขึ้น มีการก่อสร้างมากว่า 1 เดือนแล้ว ชาวบ้านอยากให้มีการเร่งสร้าง เพราะหากเนิ่นนานไปจะเสียโอกาสด้านการท่องเที่ยว เพราะแต่ละวัน นักท่องเที่ยวที่มาชมวิวทิวทัศน์หน้าด่านไทย-พม่า ถ่ายภาพไม่ได้สวยงาม