xs
xsm
sm
md
lg

การเดินทางของ “ต้นจำปา” จากลาวสู่ไทย-ขอนแก่นตลาดใหญ่ แพงแค่ไหนก็ขายได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวขอนแก่น - กระแสนิยมในต้น “ลีลาวดี” เมืองขอนแก่นแรงไม่สร่าง ร้านต้นไม้ขายได้ต่อเนื่องแม้ราคาจะสูงหลักพันหลักหมื่น ตลาดใหญ่เป็นกลุ่มคนกำลังซื้อสูงในหมู่บ้านจัดสรร แม้แต่หน่วยงานราชการก็ยังตั้งงบซื้อแต่งสวน เผยแหล่งนำเข้าหลักขนข้ามโขงจากฝั่งลาว มีพ่อค้าคนกลางคอยรับออเดอร์ อย่างไรก็ตามแม้ทางการลาวห้ามส่งออกจำปาหรือลีลาวดี พ่อค้าลาวทำทุกทางที่จะขนมาขายให้พ่อค้าไทย

"ลั่นทม” หรือต้นจำปาในภาษาลาวและชื่อใหม่ของไทย “ลีลาวดี” กำลังได้รับความนิยมสูงในกลุ่มตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ด้วยทรงพุ่มที่ให้ร่มงม ดอกที่มีกลิ่นหอมสวยนาน จึงถูกนำไปปลูกประดับบ้าน ตกแต่งสวน โดยเฉพาะหมู่บ้านจัดสรรหันมาใช้ลีลาวดีเป็นไม้ดอกยืนต้นเสริมสร้างความภูมิฐาน ไม่เว้นแม้แต่สถานที่ราชการ หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น แม้ราคาลีลาวดีจะแพงกว่าอีกพันธุ์ไม้หลายชนิด แต่ความต้องการกลับมีสูงขึ้น

จังหวัดขอนแก่นเป็นอีกตลาดขนาดใหญ่ของการซื้อขายต้นลีลาวดี ร้านขายไม้ดอก-ไม้ประดับทุกร้านต้องมีต้นลีลาวดีวางขาย มีให้เลือกทุกขนาด โดยเฉพาะแหล่งขายใหญ่ที่ตลาดนัดแฟรี่ ถ.มิตรภาพ และตลาดสินค้าเกษตรในมหาวิทยาลัยขอนแก่น

นางชิดชนก สวนเดือนฉาย เจ้าของร้านสุนทรีย์พันธุ์ไม้ในตลาดนัดแฟรี่ ยอมรับว่าต้นลีลาวดีขายได้อย่างต่อเนื่อง กระแสความนิยมเริ่มมีมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แม้ราคาต่อต้นค่อนข้างสูงแต่ก็มีคนซื้อ อย่างต่ำจะขายกันที่ 1,000 บาท/ต้นขึ้นไป หากต้นขนาดใหญ่สูง 3-4 เมตร ไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท สายพันธุ์ที่ขายได้ราคาดีคือ ชมพู ร.5 ส้มกาฬสินธุ์ และขาวพวง ซึ่งพันธุ์ที่กลายเป็นสินค้าตลาดไปแล้วคือสีแดงสยาม

“ลีลาวดีสีขาวพวงคนชอบปลูกกันมาก เพราะเมื่อออกดอกจะเป็นพวงขนาดใหญ่ มีกลิ่นหอมที่แรงกว่าทุกสี อย่างต่ำที่ขายกันทุกวันนี้ประมาณ 2,500-3,000 บาท/ต้น ส่วนส้มกาฬสินธุ์ก็ราคาแพงเช่นกันเพราะมีน้อย” นางชิดชนกกล่าวและว่า

“ลีลาวดี” ที่ทางร้านนำมาขายนั้นโดยมากจะมีพ่อค้าจากทางอีสานตอนใต้ขนมาขายให้ หลายจังหวัดในโซนนี้จะมีการปลูกต้นลีลาวดีกันมากมาแต่สมัยรุ่นปู่-รุ่นย่า เพราะคนอีสานแถบอีสานใต้มักจะนับถือผีฟ้าและต้นไม้ที่ใช้บูชาผีฟ้าคือต้นจำปาหรือลีลาวดี จะปลูกกันแทบจะทุกหลังคาเรือน เมื่อกลายเป็นพันธุ์ไม้ที่นิยมและขายได้ราคาแพงชาวบ้านจึงแบ่งตัดขาย หลายครัวเรือนถึงขั้นเพาะชำเพื่อขายอย่างเป็นกิจลักษณะ

ร้านของเธอนอกจากจะรับซื้อจากพ่อค้าคนกลางแบบซื้อมา-ขายไปแล้ว บางส่วนจะนำมาตัดเป็นท่อนๆ เพาะชำเพื่อรอให้โตได้ขนาดแล้วค่อยนำมาวางขาย หากไม่เช่นนั้นจะมีส่งให้ลูกค้าไม่ทัน

ขณะที่เจ้าของร้านขายต้นไม้แห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น เล่าถึงแหล่งที่มาของต้นลีลาวดีที่วางขายทั่วเมืองไม่เฉพาะแต่ในจังหวัดขอนแก่นว่า แหล่งใหญ่มาจากฝั่งลาว มีทั้งพ่อค้าคนกลางคอยรับออเดอร์แล้วติดต่อคนลาวที่รู้จักขนข้ามแม่น้ำโขงเข้ามา แต่ก็มีเจ้าของร้านต้นไม้หลายรายที่ไปติดต่อซื้อถึงชายแดนเอง ติดต่อซื้อขายโดยตรง ทำให้มีกำไรมากกว่าผ่านพ่อค้าคนกลาง โดยเฉพาะในช่วงปีนี้ต้นลีลาวดีเกือบทั้งหมดล้วนลักลอบข้ามมาจากฝั่งลาว

“ลีลาวดี” ที่สั่งซื้อเป็นต้นๆ จากฝั่งลาวราคาขายจะแพงมาก เพราะลักษณะลำต้นจะใหญ่ พุ่มทรงสวย ขนาดความสูงมากกว่า 5 เมตร ขายกันหลักหมื่นบาทขึ้นไป ขนาดราว 3-4 เมตรก็ไม่ต่ำกว่า 5-7 พันบาท

แม่ค้าชาวลาวรายหนึ่งที่ขายของป่าและท่อนจำปาบริเวณจุดผ่อนปรนไทย-ลาว บ้านจุมพล อ.โพนพิสัย-บ้านโดนใต้ เมืองหาดทรายฟอง เล่าว่า จำปาถือเป็นต้นไม้ที่มีเกียรติ เพราะเป็นต้นไม้ประจำชาติ มีประวัติความเป็นมาคู่ชาติลาวยาวนาน สำหรับเมืองลาวแล้วไม่ใช่ว่าใครก็ปลูกได้ โดยมากจะเห็นปลูกเฉพาะบ้านเศรษฐี บ้านข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และสถานที่ราชการเท่านั้น

แต่เมื่อเป็นที่ต้องการของตลาดในเมืองไทยและคนไทยรู้ว่าต้นจำปาที่ลาวมีมาก ก็ติดต่อขอซื้อให้ขนข้ามฝั่งมาขายให้ ที่ผ่านมามีทั้งขายยกต้น ขายตัดท่อนให้กับกลุ่มพ่อค้าชาวไทย จนตอนนี้ต้นจำปาในลาวถือว่าลดปริมาณลงอย่างมาก

อย่างไรก็ตามนับแต่กลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางการลาวได้สั่งห้ามไม่ให้มีการซื้อขาย หรือนำต้นจำปาออกนอกประเทศอย่างเด็ดขาด ยกเว้นกรณีที่ติดต่อผ่านหน่วยงานรัฐโดยตรงเท่านั้น

แม่ค้ารายเดิมยังบอกอีกว่า ตนนำของป่ามาขายที่จุดผ่อนปรนแห่งนี้เป็นประจำ เช่น กล้วยไม้ หรือไม้ประดับหายากอื่นๆ รวมทั้งจำปาด้วย มักจะมีคนไทยชาวหนองคาย สุพรรณบุรี นครปฐม และแถบภาคกลางและภาคตะวันออกของไทยมาติดต่อขอซื้อต้นจำปา มีทั้งซื้อยกต้น ซื้อเป็นท่อน ส่วนใหญ่จะเน้นสั่งซื้อสีแดงและสีขาว ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันออกไป หากเป็นต้นใหญ่ขนาดประมาณ 1-2 เมตร ราคาอยู่ที่ต้นละ 2,000-4,000 บาท ขนาดเล็กลงมาราคาก็ลดลงตาม เมื่อตกลงราคากันได้แล้วก็จะนัดวันเวลาส่งสินค้า

โดยตนก็จะกลับไปฝั่งลาวแล้วเลือกหาต้นจำปาตามที่ลูกค้าต้องการ แล้วตัดโค่นให้ได้ขนาด นำลงเรือข้ามน้ำโขงมายังจุดนัดหมาย ซึ่งข้อตกลงในการซื้อขายสำคัญอย่างหนึ่งคือ เมื่อตกลงซื้อขายกันแล้ว คนไทยต้องนำรถมารอรับต้นจำปาที่ริมตลิ่งฝั่งโขงและจ่ายเงินทันที ซึ่งทุกครั้งก็จะใช้โทรศัพท์ติดต่อค้าขายกันมากกว่า

แม้จะมีการตรวจสอบการลักลอบซื้อขายต้นจำปาลาวจากเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวดก็ตาม พ่อค้า-แม่ค้าชาวลาวก็ทำทุกวิถีทางที่จะนำออกมาขาย เช่น แทนที่จะขนออกมาเป็นต้นก็หลบเลี่ยงด้วยการตัดต้นจำปาเป็นท่อน ตัดใบทิ้งให้หมด แล้วยัดลงในกระสอบ ปะปนมากับกล้วยไม้ป่า เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจก็จะอ้างว่าเป็นกล้วยไม้พันธุ์เพชรหึง หรือวิธีการอื่นๆ แล้วแต่จะไม่ทำให้ถูกจับได้

“คนไทยที่มาซื้อต้นจำปาบอกว่าจะนำไปขายต่อให้กับหมู่บ้านจัดสรร โรงแรม รีสอร์ตต่างๆ ในแถบกรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงจังหวัดในภาคกลางอีกหลายจังหวัด” เธอบอก

การลักลอบขายต้นจำปาแม้จะเสี่ยง เพราะหากถูกจับได้จะต้องจ่ายค่าปรับหลายแสนกีบ และอาจถูกดำเนินคดีถึงขั้นติดคุก แต่ด้วยราคาที่ล่อใจ ขายได้ครั้งละหลายพันหลายหมื่นบาท ก็เป็นการเสี่ยงที่คุ้มค่า

เจ้าของร้านขายต้นไม้หลายแห่งมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า หลังจากทางการลาวเข้มงวดการนำต้นจำปาออกนอกประเทศ และภายหลังที่ต้นลีลาวดีในสต็อกของแต่ละร้านเหลือน้อยลงแล้ว เชื่อว่าราคาในท้องตลาดจะแพงขึ้นอีก โดยเฉพาะต้นขนาดกลางๆ และใหญ่จะหายาก ต่อไปอาจจะเหลือแต่ต้นที่มีการนำมาปักชำเอง





กำลังโหลดความคิดเห็น