เพชรบูรณ์ - "ชิดชัย" ย้ำม้งถ้ำกระบอกตกค้างแค่ 100 คนเศษ ขณะที่ยอดม้งเข็กน้อย - คุ้มนเรศวร เชียงใหม่ และอีกหลายจังหวัดในภาคเหนือ กลับเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ รับมีขบวนการ "ค้าม้ง" หากินกันเป็นล่ำเป็นสัน นำเข้าม้งลาวหวังสวมสิทธิ์ส่งไปประเทศที่ 3 - ได้สัญชาติไทย
ระหว่างที่พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาร่วมงานคาราวานแก้ไขปัญหาความยากจนที่จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 48 ที่ผ่านมา ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีปัญหาม้งอพยพที่เข้ามาอยู่ที่บ้านห้วยน้ำขาว ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ กว่าครึ่งหมื่น รวมถึงจังหวัดอื่น ๆ ในภาคเหนือ ไม่ว่าจะเป็นคุ้มนเรศวร (เอราวัณรีสอร์ตเดิม แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในอดีตของเชียงใหม่) จำนวน 183 คน , เชียงราย , พะเยา , น่าน ฯลฯ ซึ่งรวมยอดแล้วอาจจะมีมากถึง 10,000 กว่าคนเป็นอย่างต่ำว่า
ที่จริงแล้วม้งที่รัฐบาลไทยต้องรับผิดชอบ เพราะถือเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศไทย มีเฉพาะม้ง ที่ศูนย์ถ้ำกระบอก สระบุรี ที่มีอยู่ประมาณ 1.5 หมื่นคน ซึ่งหลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายปิดถ้ำกระบอกเมื่อ 2 เดือนกว่าที่ผ่านมา ก็ได้มีการส่งตัวม้งให้กับอเมริกา - ออสเตรเลีย รับไปช่วยเหลือตามเงื่อนไขข้อตกลงเกือบทั้งหมด เหลือเพียง 100 กว่าคนเศษเท่านั้น ที่อเมริกา - ออสเตรเลีย ไม่ยอมรับ เนื่องจากมีประวัติอาชญากรรม ไทยจึงต้องให้ความช่วยเหลือในส่วนนี้ ด้วยการให้สัญชาติและให้เดินทางไปอยู่กับญาติพี่น้องตามจังหวัดต่าง ๆ
ส่วนกรณีของม้งเข็กน้อย ที่ล่าสุดมีอยู่ 5,800 คน พล.ต.อ.ชิดชัย ยอมรับว่า กำลังเป็นปัญหาใหญ่ขณะนี้ เพราะมีขบวนการนำเข้าม้งลาวเข้ามา โดยหลอกลวงว่า เมื่อเดินทางมาเมืองไทยแล้ว จะได้ไปอยู่ต่างประเทศ หรือได้สัญชาติไทย ซึ่งถือเป็นการฉ้อโกงประชาชน ล่าสุดได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ มี พล.ต.ต.ปรัชญา พิทักษ์ปรีดา เป็นประธาน เพื่อสืบสวนสอบสวนและปราบปราม ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นปัญหาไม่จบสิ้น
เบื้องต้นนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะยันให้ม้งเข็กน้อยอยู่กับที่ ไม่ให้กระจายออกไปยังพื้นที่อื่นอีก เพื่อที่จะได้หาแนวทางแก้ไขกันต่อไป ส่วนจะผลักดันหรือไม่ ยังไม่สามารถบอกได้ชัดเจน ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการอยู่ ต้องยึดหลักมนุษยธรรม เพราะขณะนี้มีองค์กรต่าง ๆ เฝ้าดูอยู่ ไม่สามารถขับไล่ได้ทันที
พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า สำหรับหน่วยงานที่รับผิดชอบนั้น เฉพาะสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ที่มีคนทำงานไม่กี่คน ไม่สามารถดูแลได้ ทำได้เฉพาะเรื่องนโยบาย ดังนั้นทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ที่ดูแลอยู่ตามแนวชายแดน ที่ได้ปรับโครงสร้างขึ้นใหม่ คือ สำนักงานคณะกรรมการควบคุมและจัดระเบียบพิทักษ์สิทธิ ต้องเข้ามาดูแล ประสานงานระหว่างตำรวจ - ทหาร ใครลักลอบเข้ามา ก็ต้องดำเนินการตามระเบียบปฏิบัติ
ด้านฝ่ายปกครองในพื้นที่ ที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปจัดทำทะเบียนประวัติ กลุ่มม้งอพยพเข็กน้อยในช่วงที่ผ่านมานั้น นายชาคิน อินอิ่ม ปลัดอาวุโส อำเภอเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า จนถึงเดือนกรกฎาคม 48 ยอดม้งอพยพที่ห้วยน้ำขาว ต.เข็กน้อย อยู่ที่ 5,800 คน ลดลงจากยอดเดิมที่เคยมีอยู่ 6,500 คน ซึ่งยอดที่หายไปร่วมหนึ่งพันคนนี้ ตามรายงานทราบว่า บางส่วนหาทางไปอยู่อาศัยยังที่อื่น เพราะทราบว่า ไม่มีโอกาสที่จะเดินทางไปอยู่ประเทศที่ 3 แน่นอนแล้ว แต่ก็ไม่มีบันทึกของหน่วยงานใด ๆ ที่บ่งชี้ได้ว่า ม้งอพยพที่หายไปนั้น เดินทางกลับภูมิลำเนาที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว )ผ่านทางชายแดนออกไป ทำให้ไม่สามารถยืนยันได้ว่า ม้งอพยพที่หายไปนั้น ไปอยู่ที่ไหน
ที่สำคัญ ตามบัญชีม้งห้วยน้ำขาว ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ ตรวจพบ มีม้งที่มีชื่อตรงกับบัญชีรายชื่อม้งถ้ำกระบอกอยู่เพียง 100 กว่าคนเศษเท่านั้น ที่เหลือเป็นม้งที่ไม่มีรายชื่อในบัญชีทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ก็มีรายงานจากหน่วยงานด้านการข่าวในภาคเหนือตอนบนระบุชัดเจนว่า ต้นปี 48 มีกลุ่มคนในเครือข่ายขบวนการต่อต้านลาว(ขตล.)ลักลอบเข้าไทยด้านชายแดนเชียงรายอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มม้งจากเมืองคอบ แขวงไชยบุรี สปป.ลาว ร่วม 100 คน ลักลอบเดินทางเข้ามาที่อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย จากนั้นกระจายไปอาศัยอยู่กับเครือญาติในพื้นที่ต่าง ๆ
นอกจากนี้ในช่วงเวลาที่ไม่ห่างกันนัก ก็ได้มีชาวม้งจากแขวงอุดมไชย สปป.ลาว ร่วม 20 คน ลักลอบเดินทางเข้าไทยบริเวณ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ก่อนที่จะเดินทางต่อไปที่ ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ด้วย
ในช่วงเดือนมีนาคม 48 จากการตรวจสอบของคณะทำงานสำรวจตรวจสอบผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จังหวัดเพชรบูรณ์ ตามคำสั่งของจังหวัดที่ 441/2548 พบว่า มีชาวม้งเข้ามาอยู่ 3,227 คน 638 ครอบครัว นอกจากนี้ยังมีชาวม้งจาก สปป.ลาว , เชียงราย , ตาก , หนองคาย เดินทางเข้ามาเพิ่มระหว่างวันที่ 21 มีนาคม - เมษายน 48 อีก 1,400 คน
ชาวม้งเหล่านี้เมื่อลักลอบเข้าไทยแล้ว ก็จะเดินทางไปสมทบกับเครือข่าย - ชุมชนชาวม้งตามจังหวัดต่าง ๆ เพื่อรอเวลาและโอกาสที่จะเดินทางต่อไปยังประเทศที่ 3 ภายใต้การอำนวยความสะดวกของ "ขบวนการส่งออกม้ง" ที่ทำมาหากินกับการส่งม้งไปยังประเทศที่สาม
สอดคล้องกับคำยืนยันจากแหล่งข่าวในกองทัพภาคที่ 3 ที่ระบุว่า ชาวม้งลาวที่ลักลอบหนีเข้าเมือง กระทำผิดกฎหมาย โดยมีกลุ่มขบวนการกินหัวคิวเป็นทอด หลอกชาวม้งลาวตามชายแดนเข้ามาพักพิงที่เข็กน้อย โดยอ้างว่าจะถูกส่งไปยังประเทศที่ 3 ทำให้ม้งลาวที่อยู่ริมชายแดนเชื่อ และแห่กันเข้ามาบ้านเข็กน้อยในประเทศไทย คิดค่าใช้จ่ายหัวละหมื่นบาท
ปริศนา "ม้งคุ้มนเรศวร" เชียงใหม่
อย่างไรก็ตามขณะที่ พล.ต.อ.ชิดชัย ยืนยันว่า อเมริกา และออสเตรเลีย ได้รับตัวม้งลาวจากศูนย์ถ้ำกระบอกไปแล้วเกือบทั้งหมดที่มีอยู่ 1.5 หมื่นคนเศษ เหลือเพียง 100 กว่าคนเท่านั้น ที่รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศไม่ยอมรับตัวไป เพราะติดปัญหามีประวัติอาชญากรรม ซึ่งไทยได้ให้ความช่วยเหลือ โดยให้สัญชาติและให้ไปอยู่กับญาติพี่น้องของตนเองในจังหวัดต่าง ๆ เพราะถือเป็นกลุ่มม้ง ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับราชอาณาจักรไทย
แต่คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ เฉพาะม้งที่บ้านห้วยน้ำขาว ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ กลับมีมากถึง 5,800 คน (ตัวเลขที่เป็นทางการ) นอกจากนี้ยังมีกลุ่มม้งบางส่วน ที่เดินทางมาพักอาศัยอยู่ที่คุ้มนเรศวร (เอราวัณรีสอร์ต เดิม) จ.เชียงใหม่ อีก 183 คน (เดิมมีอยู่ 200 กว่าคน) หนึ่งในนั้นมีนายประชา โกษา แกนนำระดับสูงของกลุ่มม้งถ้ำกระบอก ที่เสียชีวิตลงเมื่อเดือนกรกฎาคม 48ทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่า แล้วม้งเหล่านี้มาจากไหนแน่
1. พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯ,รมว.ยุติธรรม ยืนยันว่า มีม้งถ้ำกระบอกเหลือในไทยเพียง 100 กว่าคน
2. อำเภอเขาค้อ ตรวจสอบบัญชีรายชื่อ ม้งเข็กน้อย - ม้งถ้ำกระบอก พบว่า มีรายชื่อตรงกัน 100 กว่าคน
3. ตำรวจสภ.อ.แม่ริม และคณะอนุกรรมการปราบปรามผู้มีอิทธิพลลักลอบนำเข้าม้งลาว มาพักอาศัยที่คุ้มนเรศวร ที่ตั้งของมูลนิธิชาวไทยภูเขา 2 ครั้ง ทางมูลนิธิชาวไทยภูเขา ยืนยันว่า ม้งที่เข้ามาอาศัยที่คุ้มนเรศวรทั้งหมด 183 คน เป็นม้งจากถ้ำกระบอก
แล้วบัญชีไหน เป็นบัญชีจริง บัญชีไหนปลอม และปลอมเพื่ออะไร
