เชียงราย - เสนอ กมธ.งบประมาณตัดงบฯสร้างท่าเรือเชียงแสน 2 ล้มโครงการสร้างท่าเรือริมน้ำโขงใหม่ ก่อนทุ่มงบฯสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เชื่อม R3e แทน เผยล่าสุดชุดประสานงานไทย-ลาว ลงมติร่วมกำหนดจุดก่อสร้างแล้วเหนืออ.เชียงของ 5 กิโลเมตร
เมื่อเร็วๆนี้นายอิทธิเดช แก้วหลวง ส.ส.เชียงราย เขต 7 พรรคไทยรักไทย และรองประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ตามที่กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี - จังหวัดเชียงราย ได้สำรวจ และเตรียมจัดที่ดินบริเวณบ้านสบกก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน ซึ่งเป็นสามเหลี่ยมปากแม่น้ำกก บรรจบกับแม่น้ำโขง เพื่อสร้างท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 2
ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ งบประมาณสภาผู้แทนราษฎร ได้เสนอต่อคณะกรรมาธิการฯ ขอให้ชะลอการใช้งบประมาณกว่า 1,500 ล้านบาท ที่จะก่อสร้างท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 2 ไว้ก่อน เนื่องจากมองว่าขณะนี้ประเทศชาติมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินในการพัฒนาประเทศอย่างรอบคอบ
นอกจากนี้ยังได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มพ่อค้าเชียงแสน ว่าไม่อยากให้ก่อสร้างท่าเรือเชียงแสนแห่งที่2 ซึ่งการคมนาคมและขนส่ง (ลอจิสติกส์) ขณะนี้ประเทศจีน-พม่า-ลาว-ไทย มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลง โดยหันมาเน้นใช้ถนนมากขึ้น เช่น ถนน R3e ที่กำลังก่อสร้าง จากประเทศจีนตอนใต้ ผ่านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) มายัง เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ตรงข้าม อ.เชียงของ ซึ่งน่าจะเสร็จปี 2550หรือ R3b ที่สร้างจากจีนผ่าน สหภาพพม่า มายังบริเวณชายแดน อ.แม่สาย
ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมาท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 2 มีการออกแบบการก่อสร้าง เป็นแบบที่สร้างในทะเล ไม่เหมาะกับแม่น้ำโขง ที่น้ำไหลแรง และจากการที่จีนสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขงหลายเขื่อน - ปล่อยน้ำออกมาโดยการควบคุม ทำให้ร่องน้ำโขงเปลี่ยน รวมถึงผลจากการระเบิดเกาะแก่งในแม่น้ำโขง ทำให้น้ำไหลเร็วขึ้น มีการกัดเซาะมาก อาจส่งผลกระทบต่อท่าเรือต่างๆริมแม่น้ำโขงในปัจจุบันได้
นายอิทธิเดช ย้ำว่า การจะคิดสร้างท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 2 ต้องรอบคอบกว่านี้ และเชื่อว่าตามข้อตกลงการเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำโขงตอนบนสี่ชาติ คือไทย พม่า ลาวและจีน เมื่อปี 2544 มีข้อตกลงให้ไทยสร้างท่าเรือจำนวน 2 แห่งรองรับ ซึ่งในปัจจุบันก็มีท่าเรือเชียงแสน และเชียงของอยู่แล้ว เพียงพอรองรับการเดินเรืออยู่ ซึ่งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 48 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง (ขณะนั้น) ได้เดินทางมา จ.เชียงราย และได้รับข้อมูล พร้อมเห็นด้วย กับการให้ชะลอการก่อสร้างท่าเรือเชียงแสน ออกไปก่อนอย่างน้อย 2 ปี
ทั้งนี้ ให้หันมาเร่งผลักดันในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ข้ามแม่น้ำโขง ที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย เชื่อมต่อเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว มูลค่าราว 1,200 ล้านบาทมากกว่า ซึ่งล่าสุดชุดประสานงาน ไทย-ลาว มีความเห็น โดยกำหนดจุดก่อสร้างสะพานขึ้น บริเวณทิศเหนือของตัวอ.เชียงของ ราว 5 กิโลเมตร(กม. )
ทั้งนี้ หากทุกอย่างพร้อม จะเสนอต่อสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทางในการก่อสร้างทันที และเท่าที่ทราบนายกรัฐมนตรี เคยมีแนวทางว่า อาจจะตกลงกับรัฐบาลจีน ในการลงทุนก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งนี้ร่วมกัน เนื่องจากจีนจะได้ประโยชน์ด้วย ส่วนไทยอาจจะใช้งบฯกลางที่ตั้งไว้
"ถึงแม้ตนเป็น ส.ส.เขต 7 ที่ต้องดูแล อ.เชียงแสน และ อ.แม่สาย แต่ไม่ใช่ว่าจะหนุนให้นำเงินมาทุ่มสร้างสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ โดยไม่คำนึงถึงความจำเป็นและคุ้มค่าต่อภาษีของประชาชน จึงเสนอต่อคณะกรรมาธิการงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ให้ชะลอการก่อสร้างท่าเรือเชียงแสนไปก่อน" นายอิทธิเดช กล่าว
สำหรับภาพรวมการค้าขณะนี้ พบว่ากำลังซื้อของประชาชนถดถอย ประเทศพม่า ที่เป็นเพื่อนบ้านไทยและเคยเป็นลูกค้ารายสำคัญ ประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหนัก จนทางการพม่าต้องเข้มงวดการใช้จ่ายและนำเข้าสินค้า ถึงขั้นมีการกีดกันสินค้าสูงมาก
นายอิทธิเดช กล่าวอีกว่า ส่วนสะพานแม่สายแห่งที่ 2 ที่ อ.แม่สาย เชื่อม จ.ท่าขี้เหล็ก จะมีการเปิดได้ในอนาคตนี้แน่ ซึ่งตนได้มีการผลักดันมาในระดับหนึ่งแล้ว และกรมทางหลวงยังจัดงบประมาณมาแล้วกว่า 100 ล้านบาท เพื่อสร้างถนนบายพาสแม่สาย และมีโครงการไอทีดี ของสะพานแม่สายแห่งที่ 2 มูลค่า 380 ล้านบาทแล้ว
มีรายงานว่า ขณะนี้จีน ได้เร่งก่อสร้างถนนสาย R3e ระยะ 250 กม.เพื่อผ่านจากจีนตอนใต้ ผ่าน สปป.ลาว มาที่เมืองห้วยทรายแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงของ ที่มีแม่น้ำโขงกั้น คาดว่า ถนนสายนี้จะเสร็จราวปี 2550 ซึ่งทำให้การคมนาคมทางรถมีศักยภาพมากขึ้น และลดบทบาทการเดินเรือในแม่น้ำโขงลง