ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ปล้นแบงก์กรุงไทย สาขาย่อยมหาวิทยาลัยขอนแก่น ยังจับคนร้ายไม่ได้ แม้จะส่งกำลังตำรวจกว่า 50 นายปิดล้อมพื้นที่ป่าอ้อยเป็นบริเวณกว่า 1,000 ไร่ แต่ผลตรวจกล้องวงจรปิดพบชายต้องสงสัยเข้ามาในธนาคาร แต่กลับไม่ทำธุรกรรมใด คล้ายเข้ามาดูลาดเลาให้คนร้ายปล้น ตำรวจเตรียมคัดสำเนาทะเบียนราษฎร์ หวังสอบสวนควานหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ความคืบหน้าคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนปล้นธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยมหาวิทยาลัยขอนแก่น ริมถนนมิตรภาพ ตรงข้ามโรงพยาบาลศรีนครินทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวานนี้ (2ส.ค.) โดยคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนขู่บังคับพนักงานให้นำเงินสดที่อยู่ในลิ้นชักของเคาน์เตอร์ที่ 3 ฝ่ายบริการลูกค้า จำนวนกว่า 240,800 บาท ซึ่งคนร้ายควบรถจักรยานยนต์ขับหนีไปได้ด้านหลังธนาคาร
ตลอดทั้งคืนเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นายได้ออกติดตามหาข่าวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง ทั้งการตรวจค้นในบริเวณป่าอ้อย บ.โนนแต้ ต.สำราญ อ.เมือง ริมถนนเลี่ยงเมืองสายขอนแก่น–อุดรธานี ปิดล้อมบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ประจำตามสถานีอนามัย โรงพยาบาลและร้านค้า ที่คาดว่าคนร้ายจะเข้ามาทำการรักษาหลังถูกยิงได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังไม่พบตัวคนร้าย
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ฉลอง ภาคย์ภิญโญ ผกก.สภ.อ.เมืองขอนแก่น ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนและฝ่ายป้องกันและปราบปราม สภ.อ.เมืองขอนแก่น ชุดสืบสวน ภ.จว.ขอนแก่น ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ ตร.ภ.4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองวิทยาการที่ 23 ขอนแก่น เพื่อติดตามความคืบหน้าและสำนวนคดีในเบื้องต้น
พ.ต.อ.ฉลอง กล่าวว่า แผนการจับตัวคนร้ายนี้จะมีการปรับเปลี่ยน โดยเริ่มต้นใหม่จากจุดที่เกิดเหตุ คือธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยมหาวิทยาลัยขอนแก่น จุดที่คนร้ายจอดรถ ซองปืนขนาด .38 ที่ตกอยู่ใกล้กับจุดที่จอดรถ และการสอบปากคำพยานทั้งเจ้าหน้าที่ รปภ.ที่ขณะเกิดเหตุได้ไปตรวจเอกสารที่ชั้น 2 ของธนาคาร พนักงานธนาคาร และชาวบ้านในละแวกใกล้ธนาคาร ถึงรูปพรรณสันนิฐานของคนร้าย และเส้นทางที่หลบหนี
เบื้องต้นได้ตั้งประเด็นคนร้ายไปในกลุ่มของอดีตตำรวจ ทหาร นักศึกษาหรือชาวบ้านโดยรอบธนาคาร และเรียกขอตรวจค้นประวัติอาชญากรรมทั้งจาก ภ.จว.ขอนแก่น ตร.ภ.4 และกองปราบปราม
ขณะที่ชนวนสำคัญที่เป็นหลักฐานที่จะสามารถโยงถึงตัวคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจค้นพบซองปืนขนาด .38 คาดว่าจะเป็นของคนร้ายทิ้งไว้หลังก่อเหตุ ซึ่งได้มีการส่งตรวจหารอยนิ้วมือกับทางเจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจที่ 23 อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้มีการประสานงานไปยังพื้นที่ข้างเคียง เพื่อช่วยตรวจสอบกลุ่มผู้ต้องสงสัย โดยคาดว่าจะสามารถจับกุมได้เร็วๆ นี้
ด้าน พ.ต.ท.พยุงศักดิ์ นามวรรณ รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวนสอบสวน ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า ธนาคารได้สอบปากคำ รปภ.และพนักงานที่อยู่ในเคาน์เตอร์ช่วงที่เกิดเหตุ ไม่พบปมพิรุธใดๆ แต่ที่น่าสังเกตคือตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอย่างละเอียด พบว่าช่วงก่อนเกิดเหตุเวลา 15.24.08 พบชายอายุประมาณ 40 ปี ศีรษะล้าน ใส่แว่นสายตา สวมเสื้อเชิ้ตสีแดง กางเกงขาสั้นสามส่วนสีครีม รองเท้าแตะรัดส้น เข้ามาภายในธนาคาร โดยยืนกอดอกบริเวณประตูทางเข้า ไม่ยอมไปนั่งที่เก้าอี้รับรองลูกค้า หรือกดบัตรคิวเพื่อทำธุรกรรมใดๆ กับธนาคาร
นอกจากนี้ชายคนดังกล่าวยังเดินไปรอบๆ บริเวณประตูและเคาน์เตอร์ คล้ายกับการดูลาดเลาและความเคลื่อนไหวภายในธนาคาร จนกระทั่งเวลา 15.36.47 ช่วงที่คนร้ายได้บุกเข้ามาในธนาคาร
ชายคนนี้แม้จะยืนอยู่ใกล้ประตู แต่ก็ไม่ยอมหลบหนี กลับเดินเข้ามาใกล้เคาน์เตอร์ที่คนร้ายใช้อาวุธปืนจี้พนักงานเพื่อเก็บเงินใส่กระเป๋า และจึงค่อยวิ่งออกไปจากธนาคารในเวลา 15.37.17 และเป็นช่วงที่คนร้ายได้หลบหนีออกไปจากธนาคาร แนวทางการสืบสวนจะคัดทะเบียนราษฎร์ของชายคนดังกล่าว ขอเรียกสอบปากคำ รวมไปถึงการสอบปากคำพยานโดยรอบธนาคาร ร้านค้า เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ความคืบหน้าคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนปล้นธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยมหาวิทยาลัยขอนแก่น ริมถนนมิตรภาพ ตรงข้ามโรงพยาบาลศรีนครินทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวานนี้ (2ส.ค.) โดยคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนขู่บังคับพนักงานให้นำเงินสดที่อยู่ในลิ้นชักของเคาน์เตอร์ที่ 3 ฝ่ายบริการลูกค้า จำนวนกว่า 240,800 บาท ซึ่งคนร้ายควบรถจักรยานยนต์ขับหนีไปได้ด้านหลังธนาคาร
ตลอดทั้งคืนเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นายได้ออกติดตามหาข่าวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง ทั้งการตรวจค้นในบริเวณป่าอ้อย บ.โนนแต้ ต.สำราญ อ.เมือง ริมถนนเลี่ยงเมืองสายขอนแก่น–อุดรธานี ปิดล้อมบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ประจำตามสถานีอนามัย โรงพยาบาลและร้านค้า ที่คาดว่าคนร้ายจะเข้ามาทำการรักษาหลังถูกยิงได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังไม่พบตัวคนร้าย
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ฉลอง ภาคย์ภิญโญ ผกก.สภ.อ.เมืองขอนแก่น ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนและฝ่ายป้องกันและปราบปราม สภ.อ.เมืองขอนแก่น ชุดสืบสวน ภ.จว.ขอนแก่น ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ ตร.ภ.4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองวิทยาการที่ 23 ขอนแก่น เพื่อติดตามความคืบหน้าและสำนวนคดีในเบื้องต้น
พ.ต.อ.ฉลอง กล่าวว่า แผนการจับตัวคนร้ายนี้จะมีการปรับเปลี่ยน โดยเริ่มต้นใหม่จากจุดที่เกิดเหตุ คือธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยมหาวิทยาลัยขอนแก่น จุดที่คนร้ายจอดรถ ซองปืนขนาด .38 ที่ตกอยู่ใกล้กับจุดที่จอดรถ และการสอบปากคำพยานทั้งเจ้าหน้าที่ รปภ.ที่ขณะเกิดเหตุได้ไปตรวจเอกสารที่ชั้น 2 ของธนาคาร พนักงานธนาคาร และชาวบ้านในละแวกใกล้ธนาคาร ถึงรูปพรรณสันนิฐานของคนร้าย และเส้นทางที่หลบหนี
เบื้องต้นได้ตั้งประเด็นคนร้ายไปในกลุ่มของอดีตตำรวจ ทหาร นักศึกษาหรือชาวบ้านโดยรอบธนาคาร และเรียกขอตรวจค้นประวัติอาชญากรรมทั้งจาก ภ.จว.ขอนแก่น ตร.ภ.4 และกองปราบปราม
ขณะที่ชนวนสำคัญที่เป็นหลักฐานที่จะสามารถโยงถึงตัวคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจค้นพบซองปืนขนาด .38 คาดว่าจะเป็นของคนร้ายทิ้งไว้หลังก่อเหตุ ซึ่งได้มีการส่งตรวจหารอยนิ้วมือกับทางเจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจที่ 23 อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้มีการประสานงานไปยังพื้นที่ข้างเคียง เพื่อช่วยตรวจสอบกลุ่มผู้ต้องสงสัย โดยคาดว่าจะสามารถจับกุมได้เร็วๆ นี้
ด้าน พ.ต.ท.พยุงศักดิ์ นามวรรณ รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวนสอบสวน ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า ธนาคารได้สอบปากคำ รปภ.และพนักงานที่อยู่ในเคาน์เตอร์ช่วงที่เกิดเหตุ ไม่พบปมพิรุธใดๆ แต่ที่น่าสังเกตคือตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอย่างละเอียด พบว่าช่วงก่อนเกิดเหตุเวลา 15.24.08 พบชายอายุประมาณ 40 ปี ศีรษะล้าน ใส่แว่นสายตา สวมเสื้อเชิ้ตสีแดง กางเกงขาสั้นสามส่วนสีครีม รองเท้าแตะรัดส้น เข้ามาภายในธนาคาร โดยยืนกอดอกบริเวณประตูทางเข้า ไม่ยอมไปนั่งที่เก้าอี้รับรองลูกค้า หรือกดบัตรคิวเพื่อทำธุรกรรมใดๆ กับธนาคาร
นอกจากนี้ชายคนดังกล่าวยังเดินไปรอบๆ บริเวณประตูและเคาน์เตอร์ คล้ายกับการดูลาดเลาและความเคลื่อนไหวภายในธนาคาร จนกระทั่งเวลา 15.36.47 ช่วงที่คนร้ายได้บุกเข้ามาในธนาคาร
ชายคนนี้แม้จะยืนอยู่ใกล้ประตู แต่ก็ไม่ยอมหลบหนี กลับเดินเข้ามาใกล้เคาน์เตอร์ที่คนร้ายใช้อาวุธปืนจี้พนักงานเพื่อเก็บเงินใส่กระเป๋า และจึงค่อยวิ่งออกไปจากธนาคารในเวลา 15.37.17 และเป็นช่วงที่คนร้ายได้หลบหนีออกไปจากธนาคาร แนวทางการสืบสวนจะคัดทะเบียนราษฎร์ของชายคนดังกล่าว ขอเรียกสอบปากคำ รวมไปถึงการสอบปากคำพยานโดยรอบธนาคาร ร้านค้า เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป